สำหรับคนที่หลงใหลในเสียงดนตรี เชื่อว่าคงคุ้นเคยกับเวทีประกวดวงดนตรีสากลคุณภาพระดับประเทศ หรือ THE POWER BAND ของ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์อย่างแน่นอน และหลายคนอาจจะเคยมาปล่อยของบนเวทีแห่งนี้กันแล้ว ซึ่งจากวันแรกที่จัดเวทีประกวดวงดนตรีในไทย ถึงวันนี้ THE POWER BAND จัดมาถึง SEASON 5 แล้ว โดยมีคนดนตรีมากฝีมือมาโชว์ฝีไม้ลายมือตลอดมา ซึ่งในปีนี้ยังเข้มเข้นและเติมความสนุกมากกว่าเดิม เพราะเป็นปีแรกที่จับมือค่ายเพลงมากที่สุดในประเทศ เพื่อสร้างวงดนตรีคุณภาพหน้าใหม่สู่อุตสาหกรรมเพลงไทยในคอนเซ็ปท์ MUSIC CREATES MORE POSSIBLITIES พลังดนตรี เป็นไปได้ ไม่สิ้นสุด
จึงน่าสนใจว่า อะไรที่ทำให้ THE POWER BAND ยังสนุกและโดนใจนักดนตรีทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่อยู่ตลอดเวลา Brand Buffet ชวนมาฟังเคล็ดลับจากคุณธีรชาติ ธนสารกิจ รองประธานเจ้าหน้าที่สายงานภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และ ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิยาลัยมหิดลพร้อมความสนุกของ THE POWER BAND 2025 SEASON 5 ที่จะทำให้คนดนตรีปลดปล่อยพลังในแบบตนเองอย่างไร้ขีดจำกัด
เวทีสร้างศิลปินมืออาชีพ
สิ่งหนึ่งที่ “คิง เพาเวอร์” เชื่อมั่นมาตลอดคือ ฝีมือทางดนตรีของคนไทยไม่แพ้ใคร จึงต้องการสร้างพื้นที่ให้เหล่านักดนตรีได้มาปล่อยของกันอย่างเต็มที่ เพราะมองว่าการมีพื้นที่แสดงความสามารถ ไม่เพียงจะช่วยดึงศักยภาพของคนดนตรีออกมาให้ทั่วโลกได้เห็น แต่ยังช่วยให้คนที่มีฝันได้ต่อยอดสู่การสร้างอาชีพและก้าวไปเป็นศิลปินมืออาชีพได้ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการจับมือกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดเวที THE POWER BAND
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา THE POWER BAND ก็เป็นที่รู้จักของคนในแวดวงดนตรี และได้จัดการประกวดมาอย่างต่อเนื่อง ถึงวันนี้เป็น SEASON 5 แล้ว โดยปัจจุบันมีคนดนตรีทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็กมาแสดงฝีไม้ลายมือกันเป็นจำนวนมาก แต่ คุณธีรชาติ มองว่า ความสำเร็จที่มากกว่านั้น คือ การได้เห็นคนดนตรีที่มีศักยภาพได้พัฒนาทักษะของตัวเองเพิ่มขึ้น และสามารถพลิกความฝันของหลายคนสู่การเป็นศิลปินอาชีพได้จริง อย่างเช่น PINGPING PANPAN (ปิ๊งปิ๊ง – ปันปัน) และวง Krytonyte ที่ถูกดึงตัวไปปั้นเป็นศิลปินหน้าใหม่โลดแล่นในวงการเพลง
มากกว่าการแข่งขัน “เกื้อกูล” ทั้งคนชนะ-แพ้
ดร.ณรงค์ บอกว่า เคล็ดลับที่ทำให้ THE POWER BAND ยังสนุกและครองใจคนดนตรีมาอย่างต่อเนื่อง สิ่งแรกคือ THE POWER BAND ไม่ได้เป็นเวทีแข่งขันที่หาแค่ “ผู้ชนะ” แต่เป็นเวทีที่ “เกื้อกูล” กันทั้งคนชนะและคนแพ้ โดยเฉพาะคนไม่ชนะ เพราะมีมากกว่าคนชนะ โดยหาวิธีดูแลให้คนเหล่านี้พัฒนาฝีมือและเติบโตบนถนนสายนี้ต่อไปได้
“บางทีน้องๆ ที่เข้ามาแข่งขัน 1-2 ปีแรก อาจจะแพ้ แต่พอกลับไปฝึกฝนฝีมือจนมากขึ้น มาปี 3 อาจจะชนะ หรือตั้งแต่ปี 1 ถึงปี 3 ไม่ชนะเลย แต่ค่ายเพลงเห็นความสามารถ ก็รับไปพัฒนาต่อจนได้ออกซิงเกิลของตัวเองก็มี”
ดร.ณรงค์ บอกว่า “พันธมิตร” ในอุตสาหกรรมดนตรี ยังเป็นอีกหัวใจสำคัญที่ทำให้ THE POWER BAND แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ โดยมีค่ายเพลงชั้นนำมารวมกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Music Move, Smallroom, LOVEis Entertainment, What The Duck, Warner Music Thailand และ XOXO Entertainment จึงสร้างโอกาสให้น้องๆ ก้าวสู่ศิลปินอาชีพได้มากขึ้น แทนที่จะเดินไปหาค่ายเพลงทีละค่าย และหากฝีมือเตะตา ถึงจะไม่ชนะ ก็มีโอกาสได้เป็นศิลปินและออกซิงเกิลของตัวเอง
“ปีแรกๆ ยังอาจเห็นไม่ชัดว่าหลังจากแข่งขันแล้วได้อะไร นอกจากเงินรางวัล แต่ผ่านมา 4 ปี น้องๆ ได้เห็นตัวอย่างคนที่มีฝันและพรสวรรค์ได้ออกอัลบั้ม และร่วมงานกับศิลปินชั้นนำ ซึ่งนอกจากจะสร้างโอกาสให้กับน้องๆ และครอบครัวแล้ว ยังช่วยพัฒนาวงการดนตรีไทยและเศรษฐกิจประเทศให้ดีขึ้นด้วย”
เข้มข้นกว่าเดิม ทั้งพันธมิตร-แคมป์
จากความสำเร็จในการปั้นนักดนตรีหน้าใหม่สู่อุตสกรรมเพลงไทยมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การแข่งขันใน SEASON 5 นี้ จึงเพิ่มความสนุกขึ้นไปอีก ด้วยการเสริมทัพพันธมิตรอีก 2 รายคือ YUPP! Entertainment และ Universal Music Thailand ส่งผลให้ THE POWER BAND 2025 เป็นเวทีประกวดดนตรีที่มีค่ายเพลงดังมารวมตัวกันมากที่สุดในประเทศ ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนความฝันของน้องๆ ให้เป็นความเป็นไปได้มากขึ้น
นอกจากการเพิ่มพันธมิตรค่ายเพลงแล้ว ดร.ณรงค์ บอกว่า THE POWER BAND MUSIC CAMP ยังเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากการถ่ายทอดเทคนิคและประสบการณ์ทางดนตรีจากผู้ที่อยู่ในวงการจริงแล้ว ปีนี้ยังเพิ่มในเรื่องความคิดสร้างสรรค์และการสร้างเครือข่าย เพื่อให้น้องๆ ได้ฝึกฝนฝีมือ และรู้จักเพื่อนในวงการเพิ่มขึ้น เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้น้องๆ เกิดการแลกเปลี่ยน และนำไปสู่โอกาสใหม่ๆ ในการทำงานในอนาคต
“เราอยากเห็นน้องๆ เติบโตและกลายเป็นศิลปินมืออาชีพระดับประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ แต่การสร้างคนไม่ได้เกิดขึ้นได้ภายในวันเดียว และทุกคนต้องพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นศิลปินมืออาชีพแล้ว ถึงจะประสบความสำเร็จ และก้าวไปแข่งขันในเวทีระดับโลกต่อไป” นี่คือความคาดหวังที่ ดร.ณรงค์ อยากจะเห็นนับจากนี้
สำหรับน้องๆ ที่มีฝัน และรักในเสียงดนตรี โอกาสมาแล้ว อย่ารอช้า รีบสมัคร แล้วฝึกฝีมือให้พร้อม เพราะวงที่ชนะเลิศจากการแข่งขันครั้งนี้ ไม่เพียงจะได้รับเงินรางวัล ยังได้ร่วมทำซิงเกิลและมิวสิควิดีโอกับโปรดิวเซอร์มืออาชีพด้วย โดย THE POWER BAND 2025 SEASON 5 จะเปิดรอบโซนนิ่งแสดงสด ทั้งหมด 4 สนาม ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น, เชียงใหม่, ภูเก็ต และกรุงเทพมหานคร สามารถสมัครเข้าประกวดได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 15 สิงหาคม 2567 ผ่านเว็บไซต์ www.music.mahidol.ac.th/thepowerband และ Facebook : thepowerband.mahidol