คุณนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และ ดร.ธาริต นิมมานวุฒิพงษ์ ผู้จัดการทั่วไป ทรู ดิจิทัล พาร์ค
ทรู ดิจิทัล พาร์ค เปิดตัวอีกหนึ่งธุรกิจ “TDPK International Service Center” ตั้งเป้าเป็นศูนย์บริการแบบครบวงจรทั้งเพื่อธุรกิจและการพำนักในประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในการอำนวยความสะดวกให้กับชาวต่างชาติที่สนใจเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยตั้งเป้าดึงนักลงทุน-สตาร์ทอัพเข้าประเทศเพิ่มเท่าตัวในปี 2568
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นในงาน Thailand Fast Track ที่จัดขึ้นเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับพันธมิตรจากประเทศต่าง ๆ โดยข้อมูลภายในงานมีการอ้างถึง ASEANstats ที่ระบุว่ามูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของ 10 ประเทศในกลุ่มอาเซียนนั้น ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 6 และมีอัตราการเติบโตลดลงต่อเนื่อง (ในปี 2567 ที่ผ่านมา FDI ของประเทศไทยมีมูลค่าราว 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปี 2566 ที่มีมูลค่า 11,200 ล้านเหรียญสหรัฐ)
ขณะที่ในมุมของทรู ดิจิทัล พาร์คนั้น ดร.ธาริต นิมมานวุฒิพงษ์ ผู้จัดการทั่วไป ทรู ดิจิทัล พาร์ค กล่าวว่า มีความร่วมมือกับบีโอไอ มานานกว่า 6 ปี เพื่อร่วมกันสร้างเครือข่ายพันธมิตรที่เข้มแข็งในการดึงดูดชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนและประกอบธุรกิจในประเทศไทย
อย่างไรก็ดี ดร.ธาริตกล่าวด้วยว่า “การทำงานอย่างใกล้ชิดกับบีโอไอและนักลงทุนต่างชาติจากทุกทวีปทั่วโลก ทำให้เราเข้าใจความท้าทายที่ชาวต่างชาติต้องเผชิญ โดยเฉพาะในด้านการเข้ารับบริการต่าง ๆ ในประเทศไทยที่ยังไม่มีการรวมศูนย์ ไม่ว่าจะเป็น การให้บริการวีซ่า พื้นที่ทำงาน คำแนะนำด้านกฏหมาย การหาที่พักอาศัย รวมถึงการเข้าถึงเครือข่ายธุรกิจ ทำให้มีความยุ่งยากซับซ้อน เป็นอุปสรรคสำคัญในการเข้ามาดำเนินธุรกิจและใช้ชีวิตในประเทศไทย”
เพื่อให้การเข้ามาทำงานในประเทศไทยทำได้สะดวกขึ้น ทรู ดิจิทัล พาร์ค จึงได้จัดตั้งส่วนงานที่มีชื่อว่า “TDPK International Service Center” ทำหน้าที่ให้บริการข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับชาวต่างชาติ เช่น การขอวีซ่า ตลอดจนดำเนินการด้านการจัดตั้งบริษัทในประเทศไทย ฯลฯ
นอกจากนั้น ทรู ดิจิทัล พาร์ค ยังได้รับการแต่งตั้งจากบีโอไอ ให้เป็นตัวแทนที่ได้รับการรับรอง (Certified Agent) ให้ดูแลชาวต่างชาติในการยื่นขอวีซ่าพำนักระยะยาว หรือ Long-Term Resident Visa (LTR Visa) และผู้ให้บริการด้านการสนับสนุนการเข้าสู่ตลาดประเทศไทยด้วย
ตั้งเป้าเติบโตเท่าตัวในปี 2568
“ที่ผ่านมา เราสนับสนุนนักลงทุนต่างชาติให้ได้รับการอนุมัติวีซ่า SMART “S” Visa มากกว่า 100 ราย จาก 32 สัญชาติ เพื่อประกอบธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ดิจิทัล การเงิน ความบันเทิง และการศึกษา โดยผู้ประกอบการส่วนมากมาจากทวีปเอเชีย (จีน, เมียนมาร์) และยุโรป (อังกฤษ, เยอรมนี, ฝรั่งเศส) ตามลำดับ” ดร.ธาริตกล่าว และระบุว่า ทรู ดิจิทัล พาร์ค ยังมีการดูแลนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะสูงให้ได้รับวีซ่าพำนักระยะยาวแล้วกว่า 50 ราย จาก 15 สัญชาติ และมีบริษัทต่างชาติในระบบนิเวศของ ทรู ดิจิทัล พาร์ค มากกว่า 300 บริษัท ผ่านโปรแกรม Global Startup หรือเช่าพื้นที่สำนักงานและโคเวิร์คกิ้งสเปซ
เปิด 3 บริการหลัก TDPK
ทั้งนี้ บริการของ TDPK International Service Center ประกอบด้วย 1. บริการวีซ่า ทั้งวีซ่าพำนักระยะยาว (Long-Term Residence Visa) บัตรไทยแลนด์ พริวิเลจ (Thailand Privilege Card) สมาร์ทวีซ่า (SMART Visa) สำหรับผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพ และ วีซ่านักท่องเที่ยว ประเภทพิเศษ (Destination Thailand Visa – DTV)
2. บริการด้านธุรกิจแบบครบวงจร เช่น การจัดตั้งบริษัทในประเทศไทย (ตั้งแต่การให้คำปรึกษาจนถึงการเปิดบริษัทได้สำเร็จ) และการหาเครือข่ายและนักลงทุนเพื่อเป็นหุ้นส่วนในอนาคต รวมไปจนถึงการเช่าออฟฟิศที่เป็นที่อยู่สำหรับการจัดตั้งบริษัท และ บริการอื่น ๆ เช่น ฟิตเนส สปา ร้านอาหาร และโรงเรียนนานาชาติ รวมไปถึงกิจกรรมสร้างเครือข่ายชุมชนชาวต่างชาติในประเทศไทยที่จัดขึ้นเฉพาะกลุ่ม เช่น ชมรมวิ่ง และกิจกรรมสันทนาการอื่น ๆ
ดร.ธาริตยังได้กล่าวถึงเป้าหมายของ TDPK International Service Center ที่เป็นเหมือน One-Stop Service ด้วยว่า ต้องการเห็นจำนวนนักลงทุนและนักธุรกิจที่เข้ามาใช้บริการของ TDPK International Service Center เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในปี 2568 โดยเชื่อว่าจะช่วยสร้างการเติบโตของธุรกิจในประเทศไทย และช่วยผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยให้เติบโตและแข่งขันได้ในระดับโลกได้นั่นเอง