วงการโบรกเกอร์ประกันภัยเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วมาเป็นอันดับต้น ๆ เราจึงได้เห็นการเปิดตัวโบรกเกอร์ประกันภัยออนไลน์ขึ้นมากมาย เพื่อเอาใจผู้บริโภคยุคใหม่
แต่ในความสะดวกรวดเร็วของโลกออนไลน์นั้น อาจทำให้ผู้ซื้อประกันภัยหลายคนตัดสินใจซื้อโดยที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลมากพอ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน หรืออุบัติเหตุถึงได้พบว่า ประกันภัยที่ตนเองเลือกซื้อไปนั้นไม่ได้ให้ความคุ้มครองตามที่เข้าใจ และนั่นทำให้เทสโก้ โลตัส โบรคเกอร์ประกันภัยตัดสินใจหยิบเอาอินไซต์ของผู้บริโภคมาถ่ายทอดผ่านโฆษณา “เลือกโบรกเกอร์ผิด ก็เป็นงี้แหล่ะ” ที่นำแสดงโดยรถยนต์โดนชน แม้ว่าจะประสบอุบัติเหตุ มีประกันภัยก็จริง แต่ไม่สามารถเคลมได้ตามที่โบรคเกอร์หรือประกันสัญญาเอาไว้
มร. นิค สมาร์ท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เทสโก้ เจเนอรัล อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด กล่าวว่า “เนื่องจากการแข่งขันราคาในตลาดประกันภัยรถยนต์ในปัจจุบัน พบว่าประเด็นที่ลูกค้ามักกังวลเมื่อซื้อประกันภัยรถยนต์ คือ ความไม่มั่นใจว่าประกันภัยที่ซื้อไปจะสามารถได้รับผลประโยชน์ครบถ้วนจริงตามคำโฆษณาเมื่อนำรถไปเรียกร้องสินไหม (เคลม) ดังนั้น เทสโก้ โลตัส โบรคเกอร์ประกันภัย จึงออกแคมเปญ “ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จ่ายเบี้ยครั้งเดียวจบ ครบทุกความคุ้มครอง” โดยนำเสนอประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่มีจุดเด่น คือ ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก, รถหาย ไฟไหม้ จ่ายคืนขั้นต่ำ 80% ของราคาซื้อขายรถยนต์ปัจจุบัน และชนอะไรก็ เคลมได้ สอดคล้องกับแนวทางการให้บริการของบริษัทฯ ที่มุ่งมอบบริการแก่ลูกค้าด้วยแนวคิด ‘ราคาถูกใจ จริงใจ ไม่เจ็บใจ’ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ในราคาที่คุ้มค่า โปร่งใส และรับประกันภัยโดยบริษัทประกันภัยชั้นนำ ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าแคมเปญ นี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย”
มร. นิค สมาร์ท (กลาง) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เทสโก้ เจเนอรัล อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด เปิดตัวแคมเปญ “ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จ่ายเบี้ยครั้งเดียวจบ ครบทุกความคุ้มครอง”
ประกันรถยนต์จริงใจ มีอยู่จริง
เทสโก้โลตัส โบรกเกอร์ประกันภัย เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย “โบรคเกอร์ประกันภัยอยู่ในใจลูกค้า” จึงแหกกฏชูจุดเด่น 3 แกนหลัก คือ ราคาถูกใจ-จริงใจ-ไม่เจ็บใจ ที่จะทำให้ลูกค้าหันมาเลือกใช้และประทับใจบริการ เทสโก้โลตัสฯ มากขึ้น
ราคาถูกใจ – ราคาเหมาะสม และคุ้มครองทุกความเสี่ยงอย่างครบถ้วน ไม่ตัดราคาให้ถูกและลดความคุ้มครองจำเป็น
จริงใจ – เป็นประกันภัยชั้น 1 คุ้มครอง รถชน รถหาย ไฟไหม้ ชนอะไรก็เคลมได้ จ่ายคืนขั้นต่ำ 80% ของราคาซื้อขายรถยนต์ในปัจจุบัน
ไม่เจ็บใจ – ไม่มีเงื่อนไขแฝง ไม่เพิ่มภาระให้ลูกค้าเจ็บใจ เช่น จ่ายค่าเสียหายส่วนแรก
เทสโก้โลตัส โบรคเกอร์ประกันภัย มีเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 7,777 บาท สำหรับรถกระบะ ส่วนรถเก๋งเริ่มต้นที่ 11,050 บาท โดยจับมือกับพันธมิตรบริษัทประกันภัยชั้นนำถึง 8 แห่งไม่ว่าจะเป็น สินมั่นคงประกันภัย, ประกันภัยไทยวิวัฒน์, เอไอจีประกันภัย, แอลเอ็มจีประกันภัย, เมืองไทยประกันภัย, ประกันคุ้มภัย, กรุงเทพประกันภัย และวิริยะประกันภัย ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2562 พร้อมกับมีช่องทางบริการ เบอร์ 1712 (กด 1 กด 2) สำหรับสอบถามข้อมูลและเคลมประกัน ทุกวัน และ ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสามารถติดต่อที่สาขาบริการ 211 สาขาทั่วประเทศไทย หรือเช็คเบี้ยออนไลน์ได้ที่ เทสโก้โบรคเกอร์ประกันภัย
ท่ามกลางการฟาดฟันด้วย “ราคา” ที่ถูกดัมพ์ต่ำสุดๆ ในตลาดโบรคเกอร์ประกันฯ หมัดเด็ดแคมเปญนี้ของเทสโก้โลตัส โบรคเกอร์ประกันภัย จะทำให้ผู้บริโภคได้ตระหนักถึง “สิทธิประโยชน์” มากกว่า “ราคา” อีกทั้งแสดงให้เห็นถึง “ความจริงใจ” ในการบริการ ของ เทสโก้โลตัสฯ เพราะการใช้ “ความจริงใจ” ในการทำตลาดปัจจุบันจะทำให้ “ลูกค้า” เชื่อมั่นในแบรนด์ และ ทดลองใช้บริการมากขึ้น
+ ค่าเสียหายส่วนแรกคืออะไร ? +
ค่าเสียหายส่วนแรกที่ผู้บริโภคหลายคนเจ็บปวดกันมามากนั้น ทางบริษัทอธิบายเพิ่มเติมไว้อย่างน่าสนใจว่า ค่าเสียหายส่วนแรก สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กรณีคือ
1.ค่าเสียหายส่วนแรกตามการเลือกรับ (Deductible)
จุดนี้เป็นการยินยอมจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกตามความสมัครใจ ที่ลูกค้าจะเลือกหรือไม่เลือกรับก็ได้ แต่ต้องบอกว่าน่าจะเหมาะสำหรับลูกค้าที่มีความมั่นใจว่าตนเองไม่ได้เป็นผู้ขับรถที่มีความประมาท และที่ผ่านมาไม่เคยมีอุบัติเหตุหรือประวัติการแจ้งเคลมเลยมากกว่า
การเลือกรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกไว้เองนี้ ถือเป็นความยินยอมที่จะรับผิดชอบต่อความเสียหายอันเกิดจากความประมาทของผู้ใช้รถหรือผู้ถือกรมธรรม์ร่วมกับบริษัทประกันภัย ซึ่งจะทำให้ลูกค้าจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยได้ถูกลง
ส่วนจะถูกลงเท่าไรขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าที่สามารถเลือกได้ว่าจะเลือกรับความเสียหายส่วนแรกครั้งละเท่าไร ยกตัวอย่างเช่น การซื้อประกันกับ ไดเร็ค เอเชีย ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะเลือกรับค่าเสียหายส่วนแรกครั้งละ 2,000, 3,000, 5,000 หรือ 7,000 บาท
ถ้าลูกค้าเลือกที่จะรับค่าเสียหายส่วนแรกครั้งละ 5,000 บาท ค่าเบี้ยของลูกค้าจะลดลงจากที่พนักงานได้เสนอราคาไว้ประมาณ 5,000 บาท เช่น รถของลูกค้ามีค่าเบี้ยอยู่ที่ 17,000 บาท ค่าเบี้ยจะลดลงเหลือประมาณ 12,000 บาท (ส่วนลดในแต่ละเคสอาจแตกต่างกัน ทั้งนี้ให้โทรสอบถามเพื่อขอราคาจากพนักงาน)
อย่างไรก็ดี เมื่อมีอุบัติเหตุและการเคลมเกิดขึ้นโดยที่ลูกค้าเป็นฝ่ายผิด เช่น เป็นอุบัติเหตุการชนท้ายและกันชนท้ายของรถคู่กรณีเกิดความเสียหาย ลูกค้าต้องจ่ายค่าเสียหายในครั้งนั้นเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท หากค่าซ่อม/เปลี่ยนกันชนท้ายให้กับรถของคู่กรณีเกินกว่า 5,000 บาท ทางบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบส่วนต่างนั้นเอง
แต่หากเป็นอุบัติเหตุที่ลูกค้าไม่ได้เป็นฝ่ายผิด ลูกค้าไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก 5,000 บาท และทางบริษัทประกันยินดีรับผิดชอบในการซ่อมรถของลูกค้าตามความเสียหายที่เกิดขึ้น
- ค่าเสียหายส่วนแรกตามเงื่อนไข (Excess)
ค่าเสียหายส่วนแรกตามเงื่อนไข (Excess) เป็นค่าเสียหายที่ผู้ใช้รถหรือผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่ประสบเหตุต้องรับผิดชอบร่วมกับบริษัทประกันภัยเป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท ในกรณีที่การเคลมเข้าเงื่อนไขตามที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2552
ตัวอย่างของเหตุการณ์ที่เข้าเงื่อนไขซึ่งผู้ใช้รถหรือผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์จะต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท เช่น
- รถถูกขีดข่วน หรือหินตกกระเด็นใส่ แต่ไม่สามารถหาคู่กรณีได้
- ความเสียหายที่เกิดจากการขับที่ประมาท เช่น ขับรถไถลตกข้างทางแต่ยังไม่พลิกคว่ำ หรือขับรถตกหลุมแล้วตัวรถครูดกับพื้นถนน เป็นต้น
- ระบุสาเหตุที่ทำให้รถเสียหายไม่ได้ รวมถึงระบุวัน เวลา สถานที่เมื่อรถเกิดความสียหายที่ชัดเจนไม่ได้
- ชนกับพาหนะอื่นแต่แจ้งข้อมูลคู่กรณีไม่ได้
การคิดค่าส่วนแรกตามเงื่อนไขนี้จะคิดตามเหตุการณ์ หากในเหตุการณ์หนึ่งมีความเสียหายต่อรถยนต์มากกว่า 1 ชิ้น ค่าเสียหายส่วนแรกที่ต้องจ่ายคือ 1,000 บาทเท่านั้น
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า ไม่เฉพาะฝ่ายของผู้เอาประกันที่ต้องการความโปร่งใส ในฝ่ายของบริษัทประกันก็ต้องการความโปร่งใสเช่นกัน ค่าเสียหายส่วนแรกตามเงื่อนไขจึงถือกำเนิดขึ้นมา เพื่อป้องกันกรณีที่ผู้เป็นเจ้าของรถสร้างความเสียหายให้กับรถตัวเองเพื่อนำมาเคลมนั่นเอง