ในยุคที่ไร้พรมแดนอย่างในปัจจุบัน ส่งผลให้ทุกอย่างเปิดกว้างมากขึ้น คนรุ่นใหม่นิยมก้าวมาเป็นนายตัวเองและมองหาความมั่นคงในอนาคตมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้สถานบันด้านการลงทุนหลากหลายแห่ง ขยับตัว และขยายตัวเลือกจากเดิมที่เคยจับกลุ่มนักธุรกิจวัย 40+ หันมาตอบโจทย์คนยุคใหม่วัย 30 ขึ้นไปมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าในอีก 2 ทศวรรษ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของโลกประมาณครึ่งหนึ่งจะมาจากประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย โดยประเทศจีนและอินเดียเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยมีปัจจัยหลักมาจากอุปสงค์ภายในประเทศและการค้าภายในภูมิภาคที่จะขยายตัวมากจากการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลางในเอเชียที่มีกำลังซื้อและความต้องการบริโภคสินค้าและบริการ ตลอดจนเครื่องมือการออมการลงทุนที่หลากหลาย นอกจากนี้ ในภาวะที่โลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียยังมีความได้เปรียบในเรื่องจำนวนประชากรวัยทำงาน โดยคาดว่าในปี 2573 ประชากรวัยทำงานของโลกมากกว่าครึ่งหนึ่งจะอยู่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียอีกด้วย
ปัจจุบัน บรรดาธนาคารต่างๆ ได้เดินหน้ารุกตลาดด้านการลงทุนมากยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดสถาบันให้คำปรึกษาด้านการลงทุน เพื่อบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคล ที่รวบรวมทั้งความรู้และการให้คำแนะนำแบบครบวงจร ด้วยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ มีการจัดกิจกรรมสัมมนาการลงทุนจากกูรู นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกการลงทุนที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า บริการห้องประชุม พร้อมเปิดตัวแอปพลิเคชันตอบโจทย์คนยุคใหม่ เรียกได้ว่าจะค้นหาพอร์ตลงทุนที่เหมาะสม หรือทำรายการซื้อ ขาย เปิดกองทุนใหม่ ก็สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงเสิร์ฟความสบายด้วยการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญผ่านช่องทางดิจิทัลอีกด้วย
Citigold อัพเกรดตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ด้าน Citigold บริการภายใต้ ธนาคารซิตี้แบงก์ ถือเป็นสถาบันด้านการลงทุนและไลฟ์สไตล์ ที่ปรึกษาด้านความมั่งคั่ง ที่มีบริการหลากหลาย ด้วยมุมมองที่ว่าการลงทุนไม่ใช่เรื่องไกลตัว และความมั่งคั่งของแต่ละคนมีนิยามที่ต่างกัน เพราะเป้าหมายของแต่ละคนต่างกัน ทำให้ปัจจุบัน Citigold กลายเป็นที่ปรึกษาการลงทุนที่มีผลิตภัณฑ์การลงทุนมากกว่า 180 กองทุนรวมจาก 6 บลจ.ไทย และ 10 บลจ. ต่างชาติชั้นนำ และกว่า 50 ตราสารหนี้จากบริษัทนานาชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลกกว่า 40 บริษัท เช่น Apple, Microsoft, Walt Disney, JP Morgan, Coca-cola
แปลงเป้าหมายชีวิต ด้วยเครื่องมือวิเคราะห์การลงทุน “TWA”
สำหรับใครที่กำลังมองหาโอกาสในการสร้างพอร์ตการลงทุน แต่ยังรู้สึกถึงความไม่แน่นอน และไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นลงทุนที่ไหนดี Total Wealth Advisor (TWA) ถือเป็นอีกหนึ่งบริการของธนาคารซิตี้แบงก์ ที่จะเข้ามาช่วยสร้างโอกาสในการสร้างพอร์ตการลงทุน ด้วยแนวคิดที่ว่า ทุกคนสามารถเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความสำเร็จในการลงทุน เพียงมีการวางแผนการลงทุนที่ดี และมีความแน่วแน่ต่อแนวทางการลงทุน
Total Wealth Advisor (TWA) ถือเป็นเอกสิทธิ์สำหรับลูกค้าบริการที่ปรึกษาการลงทุนของธนาคารซิตี้แบงก์ ที่เปรียบเสมือนเครื่องมือวิเคราะห์การลงทุน ที่จะเข้ามาเป็นตัวช่วยในการแปลงเป้าหมายชีวิต ให้เป็นจำนวนผลตอบแทนจากการลงทุน โดยลูกค้าสามารถกำหนดระยะเวลาที่ต้องการลงทุนและเงินลงทุนเริ่มต้น
ซึ่งโปรแกรมจะวิเคราะห์สถานการณ์ตลาด, ระดับการรับความเสี่ยงการลงทุนของลูกค้า (Risk Profile) และจัดพอร์ตโฟลิโอ โดยคัดเลือกกองทุนรวมและตราสารหนี้ พร้อมแบ่งสัดส่วนการลงทุน เพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ภายใต้พอร์ตการลงทุนที่มีการจัดการอย่างเป็นระบบของสินทรัพย์ที่หลากหลายและมีคุณภาพ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแผนลงทุนเพื่อการเกษียณ, แผนลงทุนเพื่อการศึกษา และแผนการลงทุนเพื่อความมั่งคั่ง ก็สามารถวิเคราะห์แนวทางที่ชัดเจนตรงประเด็น โดยลูกค้าที่สนใจ สามารถศึกษารายละเอียด TWA เพิ่มเติมได้ที่ https://www.citibank.co.th/th/investments/investments-first-time-investing.htm
ลงทุนให้ได้ตามเป้า ด้วยผู้จัดการการเงินที่เชื่อถือได้
นอกจากแนวทางที่ใช่แล้ว ที่ปรึกษาที่ดีมีคุณภาพ และเชื่อถือได้ก็เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น ซิตี้แบงก์ จึงส่งบริการและคำปรึกษาให้แก่ลูกค้า Citigold อย่างใกล้ชิด ผ่าน ผู้จัดการการเงินส่วนบุคคล (RM) ที่สามารถช่วยเหลือให้ลูกค้าเข้าใจเป้าหมายทางการเงิน แนะนำการลงทุนเชิงลึก และสามารถช่วยให้การลงทุนบรรลุเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
ด้วยความสามารถของ RM ที่มีความเข้าใจตลาดและสถานการณ์การลงทุนในประเทศอย่างลึกซึ้งและอัพเดทตลอด (World-class knowledge with close attention to local details) โดยลูกค้า Citigold สามารถเข้าฟังสัมมนาการลงทุนโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ทั้งจากธนาคารซิตี้แบงก์ และจากบลจ.ชั้นนำ เช่น Citigold Annual Outlook, Citigold Midyear Outlook ได้อีกด้วย
นอกจากผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายแล้ว ธนาคารซิตี้แบงก์ ยังจับมือกับ สถาบันการศึกษาด้านการเงินที่โด่งดังที่สุดในโลกอย่าง The Wharton School of the University of Pennsylvania ซึ่งถูกจัดอันดับ จากหนังสือพิมพ์ The Financial Times ให้เป็นสถาบันการศึกษาด้านธุรกิจอันดับ 3 ของโลกในปี 2018 ก่อตั้งสถาบัน Citi l Wharton Global Wealth Institute เพื่อฝึกสอนด้านการลงทุนให้แก่ผู้ดูแลบัญชีซิตี้โกลด์ (Citigold Relationship Manager) โดยเฉพาะ ซึ่งหลักสูตรระดับโลกนี้ เน้นย้ำเรื่องการศึกษาจากการเรียนรู้จากประสบการณ์ (experiential learning) ให้ผู้ดูแลบัญชีซิตี้โกลด์ทุกคน เพื่อพัฒนาทักษะด้านการวิเคราะห์การลงทุน และการพูดคุยกับลูกค้าให้เข้าใจถึงเป้าหมายการลงทุนและมอบคำแนะนำการลงทุนเชิงลึก พร้อมรับข้อมูลการลงทุนจากเครือข่ายนักวิเคราะห์ซิตี้แบงก์กว่า 400 คนทั่วโลก ทำให้สามารถตัดสินใจการลงทุนได้อย่างทันเหตุการณ์จากมุมมองนักวิเคราะห์จากทั่วโลก
ทำไมต้อง Citi l Wharton Global Wealth Institute ?
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถอุ่นใจได้เรื่องความเชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำ เนื่องจากผู้ดูแลบัญชี Citigold ซึ่งจบจากสถาบัน Citi l Wharton Global Wealth Institute ต้องผ่านหลักสูตรใบอนุญาตสำหรับผู้ขายหลักทรัพย์ (Single License Course) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ได้กำหนด และต้องผ่านหลักสูตรอบรมการลงทุนจากธนาคารซิตี้แบงก์สาขาภูมิภาคเอเชียอีก 7 หลักสูตร นอกจาก Wharton-Training Program จากสถาบัน Citi | Wharton Global Wealth Institute in ในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศจีนแล้ว ยังมีโปรแกรมฝึกสอนด้านการลงทุน โดยผู้ดูแลบัญชีซิตี้โกลด์ประเทศไทยต้องเดินทางไปศึกษา ณ ต่างประเทศ และยังสามารถเข้าเรียนผ่านช่องทางออนไลน์ได้อีกด้วย โดยบุคคลที่มีชื่อเสียงด้านการเงินและธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศที่จบจาก The Wharton School of the University of Pennsylvania อาทิ ภควัต โกวิทวัฒนพงศ์ ประธานกรรมการตรวจสอบ บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. เอเชีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ASP) รวมทั้ง จอห์น สคัลลีย์ ผู้บริหารใหญ่ของเป๊ปซี่ และ ผู้ก่อตั้งแอปเปิ้ล บริษัทผลิตสมาร์ทโฟนยอดนิยมทั่วโลกร่วมกับสตีฟ จ็อบส์
นอกจากนี้ ลูกค้า Citigold ยังสามารถฝากเงินเป็นสกุลเงินต่างประเทศสูงสุด 8 สกุลเงิน (USD, EUR, HKD, SGD, AUD, CHF, JPY, GBP) รวมถึงเข้ารับฟังสัมมนาการลงทุนโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ทั้งจากธนาคารซิตี้แบงก์ และจากบลจ.ชั้นนำอีกด้วย
พิเศษเฉพาะลูกค้าซิตี้โกลด์ใหม่ที่สมัครออนไลน์และลงทุนในกองทุนรวม และ / หรือ ตราสารหนี้กับซิตี้โกลด์ 5 ล้านบาทขึ้นไป รับสิทธิพิเศษ 2 ต่อ วันนี้ – 31 มี.ค. 62
ต่อที่ 1 รับคะแนนสะสมซิตี้ รีวอร์ดสูงสุด 20,000 คะแนน
ต่อที่ 2 รับบัตรกำนัล Starbucks มูลค่าสูงสุด 2,000 บาท
สนใจรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซิตี้โกลด์ กรุณาติดต่อ 0-2081-0999 หรือเข้าไปที่ https://citi.asia/ThScCg412