HomeSponsoredเปิดกลยุทธ์ปี 2019 Mahajak ผนึก Control4 บุกตลาด Smart Home, Smart Living เต็มสูบ

เปิดกลยุทธ์ปี 2019 Mahajak ผนึก Control4 บุกตลาด Smart Home, Smart Living เต็มสูบ

แชร์ :

เป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษแล้วที่มหาจักรดีเวลลอปเมนท์ เปิดตลาดสมาร์ท ลีฟวิ่ง ด้วยการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Control4 ผลิตภัณฑ์ระบบ สมาร์ท โฮม ออโตเมชั่น หรือระบบควบคุมบ้านอัจฉริยะ แบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นยุคที่กระแสเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไม่เกิดขึ้นในไทย แสดงให้เห็นว่ามหาจักรฯ ได้วางรากฐานและสร้างตลาดมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน กระทั่งปัจจุบันที่ผู้คนเริ่มตอบรับและให้ความสนใจกับเทรนด์นี้อย่างจริงจังมากขึ้น นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีและช่วงเวลาอันเหมาะสมที่จะเดินหน้ารุกตลาดนี้แบบเต็มสูบ นับตั้งแต่ปี 2019 นี้เป็นต้นไป

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

คุณกิตติศักดิ์ กาญจนชัยภูมิ Director Consumer Products (ผู้อำนวยการฝ่าย Consumer Products) บริษัท มหาจักรดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ให้รายละเอียดว่า ด้วยนโยบายที่ชัดเจนของมหาจักรฯ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยีแบรนด์ดังต่าง ๆ จากทั่วโลกแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยตั้งแต่ปี 1971 ที่เน้นการคัดสรรแบรนด์ที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าในประเทศไทย โดยสำหรับสมาร์ท โฮม ในอดีตถือเป็นเรื่องใหม่ ผู้บริโภคยังกลัวที่จะลองอะไรใหม่ ๆ อีกทั้งราคาค่อนข้างสูง แต่ปัจจุบันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว มีปัจจัยบวกที่มาช่วยขับเคลื่อนให้เทรนด์นี้เติบทั้งในแง่ของพฤติกรรมผู้บริโภคที่กล้าทดลองอะไรใหม่ ๆ รวมถึงราคาที่ลดต่ำลงกว่าเดิมมาก โดยคาดว่าภาพรวมจะเติบโตถึง 30% ในปี 2019

ขณะที่มหาจักรต้องการขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังลูกค้ากลุ่มอื่น ๆ ซึ่งเป็นลูกค้าทั่วไป ที่ไม่ใช่อินทีเรีย ดีไซเนอร์และสถาปนิกให้มากขึ้น โดยจะเน้นการให้บริการโดยทีมงานที่มีความรู้ ความเข้าใจ และเชี่ยวชาญด้านสมาร์ท โฮม เป็นอย่างดี

ทั้งนี้มหาจักรฯ ให้บริการในด้าน Core Infrastructure เกี่ยวกับสมาร์ท โฮม ทั้งหมด โดยค่าบริการเริ่มต้นในการวางระบบสมาร์ท โฮม อยู่ที่ 40,000 บาท เท่านั้น (เฉพาะระบบควบคุมการเปิดปิดไฟและระบบควบคุมสื่อบันเทิงต่างๆ ) นับว่าถูกกว่าในอดีตเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ซึ่งมีค่าบริการราว 300,000-400,000 บาทเลยทีเดียว

สำหรับการบุกตลาดสมาร์ท โฮม อย่างจริงจัง มหาจักรได้ชูจุดเด่นของ Control4  ที่สามารถเชื่อมต่อการทำงานหลัก 4 อย่างของบ้านอันได้แก่ ระบบไฟอัจฉริยะ ความบันเทิงอัจฉริยะ การอยู่อาศัยที่สบายและผ่อนคลายแบบอัจฉริยะ และระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ เข้าไว้ด้วยกัน โดยทำงานร่วมกับดีไวซ์ที่เป็น 3rd Party ต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากกว่า 12,000 ดีไวซ์  จากการสั่งการแบบ Touch-Operation ผ่านทางแอปพลิเคชัน Control4 เพียงแอปฯ เดียว โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอปฯ ของทุกดีไวซ์ที่มีมาใช้งานให้ยุ่งยาก

โดยปัจจุบันกลุ่มลูกค้าสมาร์ท โฮม ของมหาจักรฯ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ / ดีเวลลอปเปอร์ เป็นสัดส่วนมากที่สุดกว่า 50%, ที่เหลือได้แก่  อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานบริการ เช่น โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร เจ้าของบ้านเดี่ยวที่สร้างบ้านใหม่ เจ้าของบ้านเดี่ยวที่กำลังปรับปรุง ซ่อมแซมบ้าน

สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักโซลูชั่นด้านสมาร์ท โฮมของมหาจักรฯ และ  Control4 คือ ผู้ชายอายุ 40-50 ปี ชื่นชอบเทคโนโลยี ซึ่งผู้ชายวัยนี้มีกำลังซื้อ แต่หากเป็นผู้ชายวัยอื่นที่อายุน้อยกว่านี้ โดยทั่วไปแล้วอาจจะมองว่าสมาร์ท โฮม เป็นรายจ่ายฟุ่มเฟือย แม้จะชื่นชอบเทคโนโลยีเหมือนกันก็ตาม และเทคโนโลยีระบบควบคุมยอดนิยมที่เป็นตัวชูโรงและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายนี้ได้เป็นอย่างดีคือ ระบบไฟอัจฉริยะ และระบบควบคุมสื่อบันเทิงต่าง ๆ

ด้าน Adam Merlino, Asia Pacific Sales Director ของ Control4 กล่าวถึงเทรนด์สมาร์ท โฮมในระดับโลก ว่า ผู้คนตื่นตัวและ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกสบายเป็นสำคัญ ในอนาคตจะเป็นเรื่องของ Future of Personalization หรือการออกแบบระบบสมาร์ทโฮมที่ตอบสนองความต้องการแบบเฉพาะเจาะจง ตามพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละราย  รวมถึงเทรนด์สมาร์ท โฮม ที่จะมุ่งเน้นไปทางระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะมากขึ้น เนื่องจากสังคมไทยและทั่วโลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย การใส่ใจในชีวิตความเป็นอยู่ภายในบ้านของคนกลุ่มนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ ขณะที่คุณกิตติศักดิ์คาดการณ์ว่า Voice Control จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการทำงานร่วมกับระบบสมาร์ท โฮม ทั้งการใช้เสียงสั่งการทำงานผ่านแอปฯ และอุปกรณ์ Virtual Assistant ด้วยเทคโนโลยอัจฉริยะอย่าง Google Assistant

ทั้งนี้ปัจจุบันมีที่อยู่อาศัยติดตั้งระบบ Control4 ใหม่ มากกว่า 1,300 หลังคาเรือนทั่วโลกต่อเดือน และมีการอัพเดทระบบอีกกว่า 16,000 หลังคาเรือนต่อสัปดาห์ และด้วยประสบการณ์ ตลอดจนความเชี่ยวชาญของ Control4 ซึ่งมีดีลเลอร์ราว 6,000 ราย ใน 74 ประเทศทั่วโลก จึงมั่นใจว่าจะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยแบบ One stop service ได้เป็นอย่างดี

 

 


แชร์ :

You may also like