จากการคาดการณ์ของ Google Temasak พบว่าเศรษฐกิจอินเตอร์เน็ตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี 2568 สามารถเติบโตมูลค่าสูงถึง 2.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีตลาดอีคอมเมิร์ซเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดมูลค่าราว 1.02 แสนล้านฯ รองลงมาเป็นตลาดท่องเที่ยวออนไลน์ 7.8 หมื่นล้านฯ ขณะที่ตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยคาดว่าจะเติบโต จาก 3 พันล้านบาท ในปี 2018 ไปสู่ 1.3 หมื่นล้าน ในปี 2025
ประกอบกับตัวเลขและข้อมูล McGill University ระบุว่า Social Media คือ วิถิชีวิตของคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตัวอย่างเช่น 60% ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซื้อของออนไลน์ และ 33% ของกลุ่มนั้นซื้อผ่านทาง Social Media
การเติบโตของตลาดและมูลค่าที่เพิ่มขึ้นกลายเป็นเครื่องพิสูจน์อีกครั้งว่า “ออนไลน์” เป็นช่องทางสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าหรือบริการได้อย่างมหาศาล ลาซาด้า (LAZADA) หนึ่งในอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มชั้นนำ ที่มีจำนวนผู้เข้าใช้มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia) ยกระดับประกาศทิศทางของแพลตฟอร์ม ไม่ใช่เพียงเป็นพื้นที่ขายสินค้าธรรมดาๆ แต่เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ส่งเสริมให้เศรษฐกิจดิจิทัลเกิดขึ้น พร้อมกับการลงทุนด้านเทคโนโลยี โลจิสติกส์ และ ระบบเพย์เม้นต์
และพร้อมกับการเปิดตัวกลยุทธ์ “ซูเปอร์ โซลูชั่นส์ (Super-Solutions)” ที่จะช่วยติดอาวุธให้กับแบรนด์และผู้ขายทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ผ่านแพลตฟอร์ม LazMall เพื่อก้าวสู่การเป็น “Super eBusiness (สุดยอดธุรกิจออนไลน์)” สร้างโอกาสในการชิงส่วนแบ่งการตลาดในระดับภูมิภาค
ที่มาของการทำ LazMall ขึ้นมา เพราะการเข้าใจผู้บริโภคหรือนักช้อปมาตลอด 7 ปีของลาซาด้า ครอบคลุมกว่า 10 ประเทศใน SEA พบว่า ความกังวลของนักช้อป หรือ Painpoint หลักๆ ก็คือ คุณภาพของสินค้า และ ความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้า จึงเป็นที่มาของการเปิดตัว LazMall ในแพลตฟอร์มลาซาด้า ในปี 2561 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ของแท้ชัวร์ และ ส่งถึงเร็ว” ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าแบรนด์ดังต่างๆ คล้ายกับห้างสรรพสินค้าปัจจุบัน ที่เราสามารถซื้อสินค้าได้อย่างมั่นใจจากเจ้าของแบรนด์โดยตรง และส่งถึงบ้านได้อย่างรวดเร็ว
Super Solutions ทางออกของนักการตลาด
LazMall นอกจากจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถหาสินค้าได้ตามที่ต้องการแล้ว ขณะเดียวกันยังเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยแบรนด์หรือนักการตลาดเข้าถึงและปิดการขายให้ผู้บริโภคได้อย่างง่ายดาย หรือที่เรียกว่า “ซูเปอร์ โซลูชั่นส์ (Super-Solutions)” จะช่วยตอบโจทย์ปัญหาหลัก 3 ประการที่แบรนด์และผู้ขายมักประสบในการทำธุรกิจออนไลน์ ได้แก่ การสร้างแบรนดิ้ง (Branding) การทำการตลาด (Marketing) และการขาย (Sales) โดยมุ่งหวังให้แบรนด์และผู้ขายทุกรายสามารถเกาะกระแสการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ รวมไปถึงก้าวสู่การเป็น Super eBusinesses
3 เครื่องมือดันสู่ Super eBusinesses
แคมเปญ ‘Super’ Series แบรนด์และผู้ขายบน LazMall สามารถเข้าร่วมแคมเปญ ‘Super’ ใดก็ได้จาก 4 ซีรี่ย์ เพื่อส่งเสริมการขายและพัฒนาการสื่อสารกับลูกค้าผ่านวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Super brand day , Super Grand Opening , Super Category Festival และ Super Category Day
แพคเกจโซลูชันทางการตลาด และ Business Advisor Dashboard ซึ่งเป็นกระดานแสดงผลข้อมูลทางธุรกิจใหม่ที่ดีกว่าเดิมเพื่อให้แบรนด์และผู้ขายนำไปใช้ในการตัดสินใจวางแผนเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมหน้าร้าน ทำให้นักช้อปเห็นผลิตภัณฑ์ของพวกเขามากขึ้น และผู้ขายเองสามารถเลือกสรรโปรโมชั่นที่เหมาะสม ตอบโจทย์ลูกค้าที่เปลี่ยนไปได้ดียิ่งขึ้น และเพื่อเพิ่มยอดขายได้
เครื่องมือเทคโนโลยีที่ล้ำยุคทันสมัยเพื่อเพิ่ม Brand Awarenessและยอดขายด้วยการใช้ Store Builder เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับหน้าร้านของตัวเอง รวมถึงการเปิดตัวเครื่องมือแบบโซเชียลสำหรับแสดงความคิดเห็นระหว่างการไลฟ์สตรีม และการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าผ่านกิจกรรมในแอปพลิเคชัน อาทิ เกม เพื่อให้แบรนด์และผู้ขายสามารถติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
มร. ปิแอร์ ปัวยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวภายในงาน LazMall Brand Future Forum ว่า “ไม่มีผู้ขายรายใดที่เล็กเกินไปที่จะเติบโต และไม่มีแบรนด์ใดที่ใหญ่เกินสำหรับการเป็นสุดยอดธุรกิจออนไลน์ (Super eBusiness) คือแนวคิดสำคัญที่ทำให้ลาซาด้าเปิดตัว “ซูเปอร์ โซลูชั่นส์ (Super-Solutions)” เพื่อผลักดันแบรนด์และผู้ขายบนแพลทฟอร์มของเราให้สามารถดำเนินธุรกิจออนไลน์และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงเป้าหมาย และเพิ่มจำนวนได้มากยิ่งขึ้น” โดย “Super-Solutions) ที่มีการเปิดตัวภายในงาน LazMall Brands Future Forum (BFF)
ปัจจุบันใน LazMall มีลูกค้า/แบรนด์จำนวน 1,500 แบรนด์ ราว 10,000 รายการสินค้า ทำให้กลายเป็นห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตั้งเป้าเพิ่มจำนวนแบรนด์อีก 5 เท่าในปีนี้
มร. จิง ยิน (Jing Yin) ประธานกรรมการ ของ ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวว่า “ด้วยการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและโลจิสติกส์จากอาลีบาบา (Alibaba) ที่ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการ ทำให้ลาซาด้าเป็นผู้นำด้านการใช้เทคโนโลยีในอุตสาหกรรม อาทิ ฟังก์ชั่นการค้นหารูปภาพ การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านเกม และฟีเจอร์ไลฟ์สตรีมในแอปพลิเคชั่น ทำให้เกิดการนำความบันเทิงเต็มรูปแบบสู่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (Shoppertainment) ซึ่งลูกค้าสามารถชม ช้อป และเพลิดเพลินไปพร้อมๆ กันได้”