องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) เดินหน้ากระชับพันธมิตรธุรกิจไทย-ฮ่องกง ผ่านการก่อตั้งโครงการ InnoSpace Thailand, โครงการ Thai Access to International Markets, และโครงการ SME Idol ซึ่งล้วนเป็นโครงการบ่มเพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ให้ตอบรับกับแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) รวมถึงการเปิดช่องทางให้แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์จากฮ่องกง Design Gallery Studio (DG Studio) เข้ามาสู่ตลาดไทย
การจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจและการค้า (HKETO) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยและฮ่องกง ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มองว่าจะช่วยเปิดโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ สอดรับกับมาตรการพิเศษเพื่อกระตุ้นการลงทุน “2562 ปีแห่งการลงทุน” โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)รายงานว่าประเทศไทยถูกวางให้เป็นศูนย์กลางการลงทุนของฮ่องกงในกลุ่มประเทศ CLMVT และภูมิภาคอาเซียน ในขณะที่ฮ่องกงเป็นจุดเชื่อมต่อกับตลาด “กวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า” หรือGreater Bay Area (GBA) ของไทย จากรายงานระบุว่า ปี 2561 ฮ่องกงมีการลงทุนในประเทศไทยถึง 44 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 20.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีทั้งหมด 41 โครงการ มูลค่า 7.5 พันล้านบาท
องค์กรหลักที่เป็นตัวการประสานงานกับสำนักงานเศรษฐกิจและการค้า (HKETO) คือ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) หน่วยงานที่บริหารงานเพื่อสร้างโอกาสให้กับการค้าระหว่างสองภูมิภาคและได้ให้ความช่วยเหลือธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ในไทยและฮ่องกงมาโดยตลอด
นายซันนี่ เชาว์ ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยและเอเชียใต้ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC)กล่าวว่า “ตั้งแต่เปิดสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคที่กรุงเทพฯHKTDC ได้นำผู้ประกอบการไทยไปสร้างเครือข่ายในฮ่องกงมากกว่า 8,000 รายต่อปี สะท้อนถึงคำมั่น ‘Your Business, Our Mission’ หรือ ‘ธุรกิจของคุณ ภารกิจของเรา’ ขององค์การฯ หนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จคือ โครงการ SME Idol ที่ทำให้ธุรกิจไทย 20 ราย ได้รับคำสั่งซื้อกว่า 100 ครั้ง ในงานแสดงสินค้า HKTDC Hong Kong Houseware Fair ในทางกลับกัน HKTDC ได้ช่วยนำธุรกิจฮ่องกงมายังประเทศไทย โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้จับคู่กระทรวงอุตสาหกรรมกับบรรษัท Cyberport ของฮ่องกง ส่งผลให้เกิดการก่อตั้งโครงการ InnoSpace Thailand ที่มีมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ในด้านไลฟ์สไตล์ ยังได้ชักนำ บริษัท ฮ่องกง เอเชีย ดิสทริบิวชั่น จำกัด (HKAD) ให้มาเปิดตัวแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ DG Studio ในตลาดไทยอีกด้วย”
นอกเหนือจากกิจกรรมที่ HKTDC ได้จัดขึ้น เช่น การจัดแสดงสินค้าระดับนานาชาติ การจัดการประชุม ภารกิจทางธุรกิจต่างๆ และการสร้างฐานข้อมูลทางธุรกิจ แล้ว หัวใจสำคัญของการช่วยผลักดันผู้ประกอบการใหม่ของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน คือโครงการความร่วมมือ ซึ่งได้แก่
- โครงการ InnoSpace Thailand: เป็นโครงการร่วมทุนมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน จากทุนจัดตั้งจากบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด เครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด และธนาคารกรุงเทพ ล่าสุดได้ร่วมมือกับบรรษัท Cyberport ของฮ่องกง ให้คำปรึกษาผู้ประกอบการใหม่ในภูมิภาค ผ่านการเข้าถึงจุดยุทธศาสตร์ตลาดอาเซียนในประเทศไทย เครือข่ายร่วมทุนของฮ่องกง ความสามารถและประสบการณ์ของบรรษัทฯ ตัวโครงการฯ ตั้งอยู่ที่ เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) จังหวัดระยอง
- โครงการ Thai Access to International Markets: เป็นโครงการต่อเนื่องจากปี 2557 ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อเปิดทางให้นักออกแบบไทยได้มีช่องทาง O2O (โอทูโอ) หรือ การผสานธุรกิจจากออนไลน์ไปออฟไลน์ (Online to Offline) ในการขายสินค้าให้กับผู้ซื้อระดับนานาชาติกว่า 50,000 ราย เหล่านักออกแบบที่เข้ารอบจากการโหวตบนหน้าเฟสบุ๊ค จะได้จำหน่ายสินค้าที่ห้างสรรพสินค้า ZEN ที่เซ็นทรัลเวิล์ด ได้ร่วมแชร์ประสบการณ์ที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) และได้รับตั๋วเครื่องบินจากสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักออกแบบจากทั่วทุกมุมโลกในงาน DesignInspire ที่ฮ่องกง
- โครงการ SME Idol: จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของผู้ประกอบการใหม่ในด้านต่างๆ เช่น การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การทำสัญญาค้าขายระหว่างประเทศ การจัดส่งสินค้า การต่อรองและจำหน่ายสินค้าในตลาดจีน การเตรียมตัวสำหรับงานขายสินค้า โดยมีธุรกิจสาขาเป้าหมาย ได้แก่ ของตกแต่งบ้าน สปา ผลิตภัณฑ์ให้กลิ่นหอม และเครื่องใช้ในครัวเรือน
HKTDC ได้วางกลยุทธ์ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและตลาดที่มีศักยภาพสำหรับสินค้าทั่วไป จึงได้ร่วมมือกับ HKAD นำเข้าแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ดีไซน์ฮ่องกง 100%ภายใต้ชื่อแบรนด์ DG Studio เข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2559 เริ่มเปิดตัวครั้งแรกในงาน In Style ž Hong Kong ซึ่งทาง HKTDC จัดขึ้นในกรุงเทพฯ เนื่องในโอกาสการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเป็นปีแรก ทำให้แบรนด์ DG Studio เป็นตัวชูโรงสินค้าดีไซน์ฮ่องกงและช่วยเปิดช่องทางการขายสินค้าฮ่องกงในประเทศไทยและภูมิภาคใกล้เคียง
นายไมเคิล ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮ่องกง เอเชีย ดิสทริบิวชั่น จำกัด กล่าวว่า “HKAD ได้เห็นการเติบโตกว่า 10 เท่าของบริษัทฯ ภายหลังเปิดทำการในกรุงเทพฯ เพียงแค่สามปีเท่านั้น เราเริ่มจากการจำหน่ายสินค้าประเภทของขวัญและสินค้าราคากลางๆ ต่อมาได้เริ่มนำเข้าสินค้าใหม่ๆ ที่มีนวัตกรรมมากขึ้น เช่น นาฬิกาข้อมือและตัวตุ๊กตาคาแรคเตอร์ต่างๆ เรามองว่าคนไทยเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีสไตล์มากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ดีไซน์และคุณภาพเป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้อสินค้า ราคาถือเป็นปัจจัยรอง HKAD ช่วยส่งเสริมธุรกิจร้านค้าปลีกของไทยผ่านการบริการมูลค่าเพิ่มต่างๆ เช่น การจัดวางสินค้า การตลาด และงานอีเว้นท์ ส่งผลให้ยอดขายในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างมาก”
พันธมิตรเชื่อมโยงธุรกิจไทย-ฮ่องกง จากภารกิจเหล่านี้ ตอบรับแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และมาตรการพิเศษ “2562 ปีแห่งการลงทุน” ของรัฐบาลไทย การแลกเปลี่ยนข้อมูลแนวโน้มผู้บริโภค เทคโนโลยี และนวัตกรรม จึงเป็นตัวการขับเคลื่อนสำคัญที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรและบริษัทอย่างองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) และบริษัท ฮ่องกง เอเชีย ดิสทริบิวชั่น จำกัด
“สำหรับแผนการต่อๆ ไป เราหวังว่าโครงการ InnoSpace Thailand จะเป็นตัวอย่างของโครงการที่ช่วยสร้างระบบนิเวศน์ที่มีประสิทธิผลให้กับผู้ประกอบการใหม่ เรายังมองถึงการนำเอาเทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะเข้ามาในประเทศไทยเพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดยุค Thailand 4.0 ทำให้เราสามารถสนับสนุนผู้ประกอบการไทยได้จำนวนมากขึ้นในอนาคต” นายซันนี่ เชาว์ กล่าวทิ้งท้าย