เพราะ “ภูมิปัญญาไทย” ไม่ได้จัดจ้านแค่ “อาหารไทย” มรดกล้ำค่าอย่าง “ผ้าทอ” ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ควรให้ชาวโลกได้รู้จัก สัมผัส และจดจำเช่นกัน เพราะผ้าทอแต่ละผืนของไทยนั้นมีขั้นตอนการทำอย่างลึกซึ้งและแตกต่างไปตามแต่ละท้องถิ่นอย่างมี “เอกลักษณ์” ที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น จนกลายเป็น “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม”
ที่ผ่านมาการส่งเสริมผ้าไทย–ผ้าทอมีหลากหลายโครงการและกิจกรรม เพื่อสนับสนุนให้มรดกเม็ดงามเหล่านี้ให้เป็นที่รู้จักและดำรงอยู่กับสังคมไทย หนึ่งในนั้นคือ คิงเพาเวอร์ (KingPower) ภายใต้โครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ ที่ต้องการสนับสนุนสินค้าพื้นเมืองของไทย และ ภูมิปัญญาของไทย ไปสู่เวทีโลก ตัวอย่างเช่น ปี 2561 สินค้าที่ระลึกพิเศษของทีมเลสเตอร์ ซิตี้ Indigo Collection ที่นำเอาเสน่ห์ของ “สีคราม” และ “การมัดย้อม” มาใส่ในเสื้อยืด กระเป๋า หมวก ผ้าพันคอ และอื่นๆ โดยนำมาขาย คิงเพาเวอร์ สาขาในไทย และ เดอะ ซิตี้ แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ (“Design Thinking” เบื้องหลังวิธีคิด ผลักดัน “สีย้อมคราม” ต้นตำรับภูมิปัญญาไทย สู่เวทีโลก อ่านต่อ)
ล่าสุดปี 2562 KingPower ต่อยอดความสำเร็จจากครั้งก่อนด้วยการเปิดตัว สินค้า Ready-to-wear ประจำสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ใหม่ล่าสุด ภายใต้ชื่อ ‘Thai Natural Dye Collection’ สะท้อนความงดงามของการย้อมสีธรรมชาติ และการทอผ้าแบบพื้นถิ่นภาคเหนือที่เกิดจากการผสมผสาน 3 ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยแท้ ได้แก่ ชุมชนปกาเกอะญอ จังหวัดลำพูน การทอจกตามแบบเฉพาะ อ. แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ และเส้นใยย้อมสีธรรมชาติจาก ต. ตะเคียนปม จังหวัดลำพูน
ผ้ามัดย้อม สู่ ผ้าทอท้องถิ่นไทย
Thai Natural Dye Collection ได้รับการออกแบบ และสร้างสรรค์ภายใต้คอนเซ็ปต์ Northern Thai Glory เพื่อเชิดชูมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และคุณค่าอัตลักษณ์ผ้าทอพื้นถิ่นไทยทางภาคเหนือที่เกิดจากฝีมือของชุมชน 3 แห่ง ได้แก่ ชุมชนปกาเกอะญอ จังหวัดลำพูน การทอจกตามแบบเฉพาะ อ. แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ และเส้นใยย้อมสีธรรมชาติจาก ต. ตะเคียนปม จังหวัดลำพูน เกิดเป็นคอลเลกชันเสื้อผ้า กระเป๋า ของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ สไตล์แฟชั่นที่ผสมความเป็นไทยแท้แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า “จากความสำเร็จของ ผ้าครามมัดย้อม INDIGO สองคอลเลกชั่นที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ และทีมดีไซเนอร์แบรนด์ เลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศไทยได้ร่วมพัฒนาคอลเลกชันใหม่ Thai Natural Dye กับสามชุมชนทางภาคเหนือของไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ในการช่วยเหลือชุมชนให้สามารถสร้างอาชีพได้อย่างยั่งยืนจากความถนัดของตัวเอง และภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานหลายยุคสมัย เพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการของตลาดทั้งไทย ต่างประเทศ และเทรนด์แฟชั่นทันสมัย ใส่ได้ทุกโอกาส สำหรับความพิเศษของคอลเลกชันนี้ คือ การนำเส้นใยย้อมสีธรรมชาติมาทอจกแบบกลับหัวเป็นครั้งแรก! จนได้เป็นลายหน้าจิ้งจอก ซึ่งเป็นโลโกประจำสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เรียกได้ว่า เป็นการนำเสนอความงดงาม และเสน่ห์ของผ้าไทยในรูปแบบสากลได้อย่างลงตัว”
3 อำเภอ 3 ภูมิปัญญาท้องถิ่น(ผ้าทอ)ไทย
จุดเริ่มต้นของคอลเลกชันใหม่นี้ ทางทีมนักออกแบบของกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ และดีไซเนอร์ แบรนด์ เลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศไทยได้ร่วมกับชุมชนตำบลตะเคียนปม จังหวัดลำพูน เพื่อสานต่อเสน่ห์ของการย้อมสีธรรมชาติแบบดั้งเดิม ภูมิปัญญาที่ชาวบ้านตะเคียนปมสั่งสม และสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยมีดีเอ็นเอของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เป็นโจทย์สำคัญ จึงเป็นที่มาของสีหลักใหม่ 4 สี ที่ได้มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ ผ่านกระบวนการ ‘ย้อมร้อน’ ที่ใช้ความร้อนในการดึงสีออกมาจากต้นพืช หรือ ‘ย้อมเย็น’ การจุ่มน้ำพร้อมพืชเพื่อดูดซับสีที่ออกมาตามธรรมชาติ ได้แก่ สีฟ้า-น้ำเงิน จากต้นฮ่อม สีน้ำตาล-เทา จากยางในผลมะเกลือ สีส้ม จากเมล็ดคำแสด และสีเหลือง จากใบเพกา โดยเส้นใยที่ย้อมได้มีคุณสมบัติเด่น คือ เป็นสีธรรมชาติ สวมใส่สบาย และระบายอากาศได้ดี
จากนั้น จะนำเส้นใยย้อมสีจากลำพูนมาทอแบบวิถีของจกแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ซึงมีจุดกำเนิดมาจากฝีมือเชื้อสายพญาเขื่อนแก้ว เมืองเชียงแสนเมื่อ 200 กว่าปีมาแล้ว ความโดดเด่นอยู่ที่ลวดลายบนผืนผ้าที่เพิ่มเส้นด้ายเป็นช่วงๆ บนหน้ากว้างของผืนผ้าโดยใช้ไม้ขนเม่น หรือนิ้วมือยกเส้นด้ายแล้วพุ่งเส้นด้ายสีพิเศษเพื่อสร้างลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ และงดงามแตกต่างกันไป ปัจจุบันผ้าซิ่นตีนจกเป็นมรดกล้ำค่าทางวัฒนธรรม และเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของคนแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ทั้งหมด 16 ลาย
สำหรับคอลเลกชันนี้ ใช้ลายดอกจัน และลายโคมหัวหมอน ซึ่งเป็นลายที่ใช้ทอเฉพาะหัวหมอนที่แม่แจ่ม รวมถึงลายทอตัวหนังสือโลโก้แบรนด์ LCFC ที่เกิดจากการทอจกกลับหัว ซึ่งเป็นครั้งแรกของชุมชนที่ใช้กรรมวิธีการทอแบบใหม่ เพื่อให้ได้ลายใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคิง เพาเวอร์
ความมหัศจรรย์ของคอลเลกชัน Thai Natural Dye อยู่ที่โลโก ‘หน้าจิ้งจอก’ ที่เกิดขึ้นจากการทอจกแบบกลับหัวซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ทำให้สามารถมองเห็นลายจากผ้าทั้งสองด้านอย่างสวยงาม เพิ่มลาย คือ ลายทอจกดอกจัน ลายโคมและลายทอหน้าหมอน ซึ่งเป็นลายที่แตกต่างจากลายบนผ้าซิ่นทั่วไป และเหมาะจะสวมบนศีรษะ จะไม่เป็นลายบนผ้าซิ่นที่ใช้นุ่งบริเวณส่วนล่างใกล้กับปลายเท้า เกิดเป็นลูกเล่น และดีไซน์แปลกใหม่ โดยเน้นการตัดเย็บที่ทันสมัย และใช้ได้ทุกวัน
“ที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์ เน้นการให้องค์ความรู้กับผู้ผลิตในชุมชน เพื่อต่อยอดพัฒนาสินค้าพื้นถิ่นให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย และเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก สะท้อนขนบธรรมเนียม วิถีชีวิตอันดีงามดั้งเดิม ความเป็นอัตลักษณ์พื้นถิ่นภาคเหนือ และศักยภาพฝีมือคนไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในระดับสากล” นายอัยยวัฒน์ กล่าวเสริม
คอลเลคชัน Thai Natural Dye มีสินค้า 4 ประเภท
- เสื้อผ้ายืดมัดย้อมคอกลมแขนสั้น 3 แบบ ราคา 1,250 บาท
- กระเป๋า Tote มัดย้อม พิมพ์ลายหน้าจิ้งจอก ราคา 1,250 บาท
- หมวกผ้าทอตีนจก 2 แบบ ราคา 1,350 บาท
- หมวกมัดย้อมสี ราคา 1,100 บาท
โดยเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นต้นไป ณ เดอะ ซิตี้ แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ คิง เพาเวอร์ สาขารางน้ำ พัทยา ศรีวารี ภูเก็ต และคิง เพาเวอร์ มหานคร ภายในสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินภูเก็ต และสนามบินอู่ตะเภา
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าเลือกชม และช้อปสินค้าในคอลเลกชัน Thai Natural Dye ได้ที่ https://www.kingpower.com/brand/leicester-city-football-club