HomeBrand Move !!D2C อิงค์ เบอร์ 1 โมบายมาร์เก็ตติ้งญี่ปุ่น ดึง MCFIVA ลุยตลาดไทย

D2C อิงค์ เบอร์ 1 โมบายมาร์เก็ตติ้งญี่ปุ่น ดึง MCFIVA ลุยตลาดไทย

แชร์ :

mcfiva d2c inc

                                                             

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

 “แมคฟิว่า” (MCFIVA) ผนึกกำลังกับ D2C อิงค์” (D2C Inc.) เตรียมขยายธุรกิจโฆษณาโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มั่นใจในประสบการณ์และแคมเปญที่ประสบความสำเร็จจาก “D2C อิงค์” ลั่นจะต่อยอดและสร้างรายได้ให้ “แมคฟิว่า” เป็นดิจิทัลเอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญโมบายมาร์เก็ตติ้งเบอร์ 1 ในเมืองไทย หรือมีรายได้กว่า 100 ล้านบาทภายในสิ้นปี

ดร.ศุภชัย ปาจริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมคฟิว่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้ เกิดขึ้นโดยเราเล็งเห็นว่าปัจจุบันโทรศัพท์มือถือได้กลายเป็นอุปกรณ์หลักที่ผู้บริโภคจะได้รับข้อมูลและติดต่อ รวมทั้งตลาดมือถือในประเทศไทยเติบโตขึ้นกว่า 120% มีคนใช้มือถือสมาร์ทโฟน รวมกว่า 20 ล้านเครื่อง โดยอัตราการถือครองมือถือสูงถึง 120% บางคนอาจจะถือมากกว่า 2-3 เครื่อง และมากกว่า 1 ใน 3 ที่เข้าถึงเว็บผ่านโทรศัพท์มือถือ นี่จึงเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าเวลานี้เป็นโอกาสที่ดีของแบรนด์ต่างๆ ที่จะเข้าถึงผู้บริโภค ประกอบกับในปีนี้มีการเปิดใช้ 3G อีก ดังนั้น จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามือถือนี้เป็นหนึ่งในเทรนด์ที่มาแรง และยังเป็นช่องทางหนึ่งที่นักการตลาดจับตามอง”

 

จากผลการสำรวจของสมาคมโฆษณาดิจิตอลแห่งประเทศไทย (DAAT) พบว่าตลาดสื่อดิจิตอลมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงถึง 34.12% ในปี 2013 หรือ 3.73 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เติบโตเพียง 2.78 พันล้านบาท ซึ่งนับว่าตลาดสื่อดิจิตอลในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็วและก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัด

 

“และเพื่อต่อยอดธุรกิจ เราจึงได้ร่วมกับ D2C อิงค์ โมบายมาร์เก็ตติ้ง อันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านเทคโนโลยีมือถือ รวมทั้งมีบริษัทแม่ที่เข็มแข็ง เป็นพันธมิตรลงนามทำธุรกิจร่วมกัน ซึ่งเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของเราที่ได้รับความเชื่อมั่นจากพันธมิตรที่แข็งแกร่งมากเช่น D2C อิงค์ ความเชื่อมั่นนี้น่าจะเป็นเพราะอย่างแรกเลยคือเรามีความพร้อม และเราเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านดิจิทัลในประเทศไทย เพราะฉะนั้น จึงทำให้ได้รับการยอมรับ พร้อมกับมีฐานลูกค้าชั้นนำในประเทศรายหลาย ซึ่งล้วนเป็นบิ๊กเนมทั้งหมด รวมทั้งทีมงานมืออาชีพ ตลอดจนเป็นบุคลากรที่มีประสบการณ์ในระดับนานาชาติ เหล่านี้น่าจะเป็นเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ D2C อิงค์ มั่นใจว่าเราจะมาต่อยอดธุรกิจร่วมกันได้”

“จริงๆ ก่อนหน้านี้แมคฟิว่ามีการทำโมบายมาร์เก็ตติ้งอยู่แล้ว โดยมีลูกค้า อาทิเช่น โตโยต้า เทสโก้โลตัส เป็นต้น ซึ่งเราจะมีหน้าที่ดูแลกลยุทธ์ รวมถึงมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นโมบายให้กับลูกค้าของเราด้วย และหลังจากการลงนามครั้งนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้น แน่นอนว่าเราจะมีความร่วมมือกันกับ D2C อิงค์ ที่เกี่ยวข้องในด้านโมบายมาร์เก็ตติ้ง รวมถึงเทคนิคในการโฆษณาผ่านมือถือที่ได้รับการพิสูจน์ในระดับโลกแล้วจากประเทศญี่ปุ่น มาใช้ในประเทศไทยมากขึ้น เราเชื่อมั่นในเรื่อง Know-how ของ D2C อิงค์ เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ใช้มือถือเยอะมาก คนเดินมา 10 คน มี 8 คนใช้สมาร์ทโฟน ซึ่งมีความเป็นไปได้ในทางธุรกิจอีกหลายรูปแบบที่สามารถร่วมมือกันในอนาคต”

 

ด้าน Mr.Takayuki Hoshuyama CEO บริษัท D2C อิงค์ กล่าวว่า “จนถึงขณะนี้ D2C อิงค์ได้มีการขยายธุรกิจเข้าในภูมิภาคเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นจีน, ไต้หวัน, อินเดีย และอินโดนีเซีย ทั้งโดยการตั้งบริษัทลูกและการเป็นพันธมิตรกับบริษัทท้องถิ่น และการเป็นพันธมิตรกับแมคฟิว่าครั้งนี้ เราเชื่อมั่นในการดำเนินการด้วยความมุ่งมั่น ในการขยายตลาดและธุรกิจของแมคฟิว่า นอกจากนี้ เรามั่นใจว่า D2C อิงค์จะช่วยยกระดับช่องทางและการบริการให้ลูกค้าแมคฟิว่า ด้วยการทำโฆษณาโทรศัพท์มือถือในเมืองไทย และทำตลาดจากการให้ในส่วนของ Know-how และประสบการณ์ในตลาดญี่ปุ่น  เพื่อที่จะเสริมสร้างความสำเร็จในการบุกตลาดดิจิตอล รวมทั้งโทรศัพท์มือถือในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงในระยะยาว”

ทั้งนี้ D2C อิงค์เข้ามาร่วมถือหุ้นเป็น 49% ของ MCFIVA  โดยลงทุุน 150 ล้านบาทขยายตลาดโมบายมาร์เก็ตติ้งในประเทศไทย  โดยแบ่งเป็น 1. สร้าง Awareness กับลูกค้าให้เห็นความสำคัญของ Mobile Marketing  2. พัฒนาเทคโนโลยีและงานการวิจัยใหม่ๆ  3.พัฒนาบุคลากรให้ทัดเทียมต่างประเทศ

 

______________________

FYI

– จำนวนผู้ใช้มือถือในประเทศไทย 87 ล้านเบอร์  (Q1 2013)

– Mobile Penetration ของประเทศไทย  128.77 %

– D2C อิงค์ (สำนักงานใหญ่: Minato-ku, โตเกียว; CEO: Takayuki Hoshuyama), บริษัทแรกในโลกที่มีความเชี่ยวชาญในการโฆษณาและการตลาดมือถือ, ก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2000, เป็นบริษัทร่วมทุนของ NTT DOCOMO Inc., Dentsu Inc. และ NTT Advertising Inc. ภายใต้สโลแกนของ “No Wireless, No Marketing” ธุรกิจหลักของ D2C อิงค์ (1) ธุรกิจด้านโฆษณาและการตลาด ซึ่งมีการให้บริการสำหรับการโฆษณาบนสื่อ DOCOMO และสื่ออื่นๆ ทั่วไป เช่นเดียวกับการให้บริการเกี่ยวกับตลาดดิจิตอลแบบบูรณาการและดำเนินการแบบครบวงจรหรือ “One-Stop” (2) ธุรกิจเกี่ยวกับผู้บริโภค โดยการพัฒนาและเสนอแอพพลิเคชั่น รวมถึงคอนเทนต์สำหรับผู้บริโภค และ (3) ธุรกิจระหว่างประเทศ ที่ดำเนินธุรกิจในการโฆษณาการตลาดในประเทศอื่นๆ ศูนย์กลางอยู่ในเอเชีย

 


แชร์ :

You may also like