จะทำอย่างไรถึงจะอยู่รอดในตลาดความงามที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีอัตราเติบโตติดต่อกันนานกว่า 5 ปี
เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดความงามหรือสกินแคร์ (Skincare) ที่มีทั้งผู้เล่นหน้าเก่าและหน้าใหม่แย่งเข้ามาชิงเม็ดเงินมูลค่าราว 7-8 หมื่นล้านบาท หากจะหวังใช้กลยุทธ์การตลาดแบบเดิมๆไม่ว่าจะเป็นพรีเซนเตอร์ ส่วนผสมชั้นเลิศ หรือแม้กระทั่ง แพ็คเก็จจิ้ง เป็นต้น มาเป็นกิมมิคดึงดูดผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่เป็น Pro-sumer คงอาจจะไม่เห็นผลมากนัก
แต่ “ผลลัพธ์” ที่ผู้บริโภคจะได้รับตามโฆษณา คือ “จุดขาย” สำคัญที่สุดที่ผู้บริโภคกำลังมองหา ในยุคแบรนด์สกินแคร์เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดและสาดโฆษณาไปในทุกๆสื่อ เพราะฉะนั้นผู้บริโภคต่างมองเห็นความ “คุ้มค่า” ในการจ่ายเงินแต่ละครั้ง (มี Share of Wallet สูง) อีกทั้งยังมีปัญหาด้านผิวเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป
Great Skin Can Be Created – พัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าในปัจจุบัน
จากอินไซท์ดังกล่าวกลายเป็นที่มาของไอเดียทำผลิตภัณฑ์ใหม่ชื่อว่า clinique ID มอยส์เจอไรเซอร์แนวใหม่ที่สามารถให้ DIY เพื่อตอบโจทย์ผิวของผู้บริโภคแต่ละคน จากค่าย คลีนิกข์ (Clinique) แบรนด์สกินแคร์ที่มีอายุมากว่า 50 ปี จุดเด่นสำคัญของ clinique ID คือการทำ Personalized Marketing ที่ให้ลูกค้าสามารถ Customized สูตรได้ตามสภาพผิวและปัญหาผิวของลูกค้า ไม่ว่าจะผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม หรือ มีปัญหาผิวแบบไหนก็สามารถเลือกได้แบบเฉพาะจง โดยลูกค้าสามารถเลือกสูตรได้ตามความต้องการทั้ง Base Moisturizer 3 สูตร และ 5 Boosters ที่แก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด เพื่อรองรับสารพัดปัญหาผิวของลูกค้าที่มีความหลากหลาย เช่น ผิวบอบบางแพ้ง่าย สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวไม่สดใส ฯลฯ และเมื่อใช้คู่กับ “เซรั่ม” จะเสริมประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น
เพราะฉะนั้น clinique ID จึงเป็นอีกหมัดเด็ดของคลีนิกข์ที่ต้องจับตามอง เพราะจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครในตลาด รวมถึงสามารถ Customized สูตรได้ตามสภาพผิวของลูกค้า จะยิ่งทำให้เห็น “ผลลัพธ์” ชัดเจนมากขึ้น และยังสามารถเพิ่ม Brand Loyalty ได้มากขึ้น รวมถึงเป็นตัวเปิดใจไปสู่สินค้าโปรดักท์ไลน์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น คลีนเซอร์ เซรั่ม มาส์ก และอื่นๆ
ปรับสู่โลกของดิจิตัล “ผสานการดูแลผิวเข้ากับเทคโนโลยี”
หลายๆคนอาจจะคุ้นเคยกับบอร์ดวิเคราะห์ผิวของ Clinique ซึ่งเป็นเครื่องมือชิ้นแรกที่สะท้อนให้เห็นถึงคำถามที่แพทย์ผิวหนังที่ปรึกษาของเราถามผู้เข้ารักษาในคลีนิค แต่ในปัจจุบันนอกจากการพัฒนาสูตรของผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้นแล้ว ทาง Clinique ยังเลือกผสานเทคโนโลยีเพื่อเสริมศักยภาพในการดูแลผิว ทำให้ Clinique สามารถสร้างมิติใหม่ในการบริการลูกค้าผ่านรูปแบบต่างๆ โดยการใช้ Clinique Reality เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในการวิเคราะห์ปัญหาผิวพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลผิวแบบรายบุคคล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งไม้เด็ดที่ทาง Clinique ได้ปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ และ Clinique Reality ก็พร้อมให้บริการลูกค้าทุกๆท่านแล้วที่เคาน์เตอร์ Clinique ทุกสาขา
มุ่งสู่อันดับ 1 ของตลาด Beauty เมืองไทย ด้วย concept “Customize , Don’t Compromise”
นอกจากนี้ Clinique ยังวางเป้าหมายหลักโดยการมุ่งสู้ผู้นำทางด้าน Beauty และรักษาผู้นำความงามอันดับ 1 ในด้าน Moisturizing and Emulsion Market โดยยึดถือคำพูดที่ว่า “Customize , Don’t Compromise”
Customize หมายถึง ผลิตภัณฑ์ของ Clinique ที่สามารถปรับแต่งให้ตรงความต้องการของลูกค้าแต่ละคน
Don’t Compromise หมายถึงการที่ ผลิตภัณฑ์ของ Clinique จะแสดงผลในการบำรุงผิวให้คุณอย่างดีที่สุด