หลังจากมีเสียงเรียกร้องมานานจากบรรดาครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์ม YouTube สำหรับฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้เพิ่มรายได้ให้กับแชนแนลของตัวเองได้มากขึ้น ล่าสุดในงาน VidCon งานคอนเฟอเรนซ์ยักษ์ใหญ่ของชาว Youtuber ที่จัดขึ้นที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ก็ได้มีการเปิดตัว 5 ฟีเจอร์ตามคำร้องขอของบรรดาครีเอเตอร์ออกมาแล้ว
โดย Neal Mohan ประธานเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์ (Chief Product Officer) ของ YouTube เผยว่า สิ่งที่ครีเอเตอร์อยากได้ก็คือ ฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ติดตามมีส่วนร่วมกับทางช่องอย่างต่อเนื่อง รวมถึงช่วยให้ครีเอเตอร์ได้ตอบแทนบรรดาแฟน ๆ ของตนเองที่มาติดตามแชนแนลของพวกเขา
ด้วยเหตุนี้ ทาง YouTube จึงได้มีการเปิดตัว 5 เครื่องมือใหม่ ประกอบด้วย
1. Super Stickers
เป็นชุดสติกเกอร์และธีมเคลื่อนไหว ที่แฟนๆ สามารถซื้อเอาไว้ใช้เพื่อให้ข้อความสนทนาของตัวเองโดดเด่นขึ้นระหว่างการไลฟ์สด โดย YouTube เผยว่า ปัจจุบันมีแชนแนลต่าง ๆ นำ Super Stickers ไปใช้แล้วมากกว่า 90,000 ช่อง
2. The Merch feature
ฟีเจอร์ Merch หรือฟีเจอร์ด้านการค้าขาย เป็นฟีเจอร์ที่ให้เจ้าของช่องสามารถขายสินค้าอย่างเสื้อยืดของตัวเองผ่าน partner อย่าง Teespring ซึ่งปัจจุบันกำลังมีพันธมิตรเพิ่มขึ้นทั้ง Crowdmade และ Rooster Teeth เพื่อมาช่วยครีเอเตอร์ผลิตสินค้า
3. Multiple-tier paid Channel Memberships
จากเดิมที่ผู้ชมสามารถจ่ายเงิน 4.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือนให้กับทางช่องเพื่อเป็นการให้กำลังใจ ตอนนี้ ครีเอเตอร์สามารถกำหนดวิธีการเป็นเมมเบอร์ชิปได้ถึง 6 รูปแบบแตกต่างกัน พร้อมกันนี้ยังได้ยกตัวอย่างคนที่ทำรายได้จากเมมเบอร์ชิปแบบใหม่ของ YouTube ก็คือ The Fine Brothers แชนแนลด้านเอนเตอร์เทนเมนต์ที่มีผู้ติดตามเกือบ 20 ล้านราย ปัจจุบันพวกเขาทำรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 6 เท่าจากการใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าว
4. Learning Playlists
Learning Playlists เป็นเพลย์ลิสต์ที่ปรับแต่งมาสำหรับคอนเทนต์ด้านการศึกษา ซึ่งปัจจุบันเปิดใช้งานแล้วกับช่องดัง ๆ เช่น CrashCourse และ Khan Academy โดยฟีเจอร์ที่มาพร้อมกันยังมีเรื่องของการตัด Watch Next ออกไป เพื่อให้ผู้ชมไม่ว่อกแว่ก และรับชมเนื้อหาที่ต้องการได้อย่างมีสมาธิมากขึ้น
5. YouTube Giving
สุดท้ายคือปุ่ม YouTube Giving ที่ครีเอเตอร์สามารถใส่ปุ่มลงในแชนแนลได้ โดยเงินที่ได้จากการบริจาคจะถูกส่งไปยังองค์กรการกุศลที่ครีเอเตอร์เป็นผู้เลือกเอาไว้ 100% โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น (องค์กรการกุศลนั้น ๆ ต้องได้รับการตรวจสอบแล้วจากแพลตฟอร์ม)
Mohan เผยด้วยว่า ปัจจุบัน ตัวเลขของคนที่ทำเงินจากการมีแชนแนลบน YouTube (รวมการขายของและค่าโฆษณาทั้งหมดแล้ว) 5 – 6 หลัก (เหรียญสหรัฐ) ต่อปี มีเพิ่มขึ้นถึง 40% (YoY) อย่างไรก็ตาม YouTube ไม่ได้เปิดเผยว่าเจ้าของช่องไหนบ้างและมีเจ้าของช่องทั้งหมดเท่าไรที่ทำเงินได้ในระดับดังกล่าว