Advertorial
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะขับเคี่ยวกันด้วยกลยุทธ์ด้านราคาและโปรโมชันกันอย่างหนักหน่วง แต่สิ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งคงหนีไม่พ้นพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่เริ่มหยิบเอาเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่มาเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์คู่ใจ โดยเฉพาะเมื่อมองไปถึงสถิติเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางถนนที่มีตัวเลขเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ก็ยิ่งทำให้เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยกลายเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องพิจารณาอันดับต้นๆ และต้องเปรียบเทียบเทคโนโลยีของแต่ละแบรนด์กันอย่างละเอียด อีกทั้งยังมีการศึกษาข้อมูลในเชิงลึกเกี่ยวกับเทคโนโลยีเหล่านั้นมากยิ่งขึ้น
ซึ่งหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่ไม่เคยหยุดพัฒนาในด้านเทคโนโลยียานยนต์อย่าง “Subaru” ก็ยังเข้าอกเข้าใจนักขับลึกลงไปอีกขั้น ว่าไม่ใช่แค่รถยนต์ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเท่านั้นที่จะตอบโจทย์ แต่รถยนต์ในยุคนี้จะต้องก้าวข้ามไปสู่การเป็นเพื่อนหรือผู้ช่วยที่คอยระมัดระวังภัยให้กับผู้ขับขี่ โดยเฉพาะในยามที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉินในเสี้ยววินาที ที่รถยนต์จะต้องสามารถปกป้อง และดูแลทั้งตัวผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงผู้อื่นบนท้องถนน ซึ่งสิ่งเหล่านี้มาในราคาที่ทุกคนสามารถเอื้อมถึงได้
ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ คือคุณสมบัติที่ถูกอัดแน่นอยู่ใน The All-New Forester 2.0i-S EyeSight รถยนต์เอสยูวี (SUV) ที่ครบครันไปด้วยสมรรถนะการขับขี่และความเอนกประสงค์ที่เติมเต็มทุกการใช้งานของผู้บริโภคยุคใหม่ ตอบโจทย์ทั้งการทำงานประจำวันและไลฟ์สไตล์ในวันพักผ่อนได้ในคันเดียว พร้อมเทคโนโลยีเสริมความปลอดภัยล่าสุดภายใต้เครื่องหมายการค้า EyeSight® ซึ่ง Subaru ภูมิใจนำเสนอ
ที่ผ่านมาแบรนด์ Subaru นอกจากจะมีชื่อเสียงในเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งทำให้แบรนด์ Subaru มีความโดดเด่นและแตกต่างอย่าง เครื่องยนต์อย่างบ็อกเซอร์สมรรถนะสูง (Boxer Engine) ,ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตรที่ขึ้นชื่อเรื่องของการเกาะถนน (Symmetrical All-Wheel Drive – SAWD) และ โครงสร้างตัวถังแบบใหม่ (Subaru Global Platform) และนอกจากนี้ Subaru ยังถือเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับอย่างมากเกี่ยวกับเทคโนยีด้านความปลอดภัยที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน โดยเฉพาะ EyeSight® เทคโนโลยีเสริมความปลอดภัยใหม่ล่าสุดที่ทำหน้าที่เสมือนเป็นดวงตาคู่พิเศษอีกคู่ ที่จะมาเป็นผู้ช่วยให้ผู้ขับขี่สะดวกสบาย และที่สำคัญช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างดีเยี่ยม
โดยหลักการทำงานของ EyeSight® แตกต่างจากระบบอื่นๆ ตรงที่เป็น การผสานการทำงานของกล้องสเตอริโอสองตัว ซึ่งมีหลักการทำงานใกล้เคียงกับการทำงานของสายตามนุษย์ ทำให้การทำงานมีความแม่นยำและครอบคลุมเงื่อนไขต่างๆ มากยิ่งขึ้น ระบบกล้องสามารถจับภาพสีสามมิติ สามารถประมวลผลได้ทั้งระยะใกล้-ไกล เพื่อช่วยตรวจเช็คบุคคลหรือยานพาหนะด้านหน้า, วัดระยะห่างจากตัวรถ พร้อมมีการแจ้งเตือนด้วยไฟกะพริบและเสียงให้ผู้ขับทราบทันทีหากมีสัญญาณอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ ในบางกรณี EyeSight® ยังพร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติหรือตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการปะทะชนหรือลดความรุนแรงให้น้อยลง ซึ่งแตกต่างจากแบรนด์รถยนต์ทั่วไปในท้องตลาดที่ใช้อาจใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ ซึ่งมีข้อจำกัดในการทำงานและอาจเสริมความปลอดภัยเพียงบางกรณีเท่านั้น ทั้งนี้มีการเก็บข้อมูลเชิงสถิติในญี่ปุ่นจากรถยนต์ซูบารุกว่า 250,000 คันที่มีเทคโนโลยี EyeSight มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุลดลงถึง 61% เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ไม่มีระบบนี้ ที่สำคัญระบบนี้มีความแม่นยำ, ใช้งานง่ายและครอบคลุมการช่วยเหลือต่างๆ อย่างครบถ้วน
ความสำเร็จของ Subaru ในปัจจุบัน ดูได้จากตัวเลขยอดขายจากทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมียอดขายมากกว่า 1 ล้านคัน โดยมี Subaru Forester เป็นหนึ่งในรถยนต์เอนกประสงค์ (SUV) รุ่นที่ขายดีที่สุดรุ่นหนึ่ง และนอกจากจะสามารถกวาดยอดขายที่เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปีแล้ว Subaru Forester รุ่นที่มีเทคโนโลยี Eyesight ยังเป็นรถยนต์ที่คว้ารางวัลต่างๆ มากกว่า อาทิ รางวัลด้านความปลอดภัย Grand Prix Prize จาก JNCAP ด้วยคะแนนสูงสุด ,รางวัลด้านการออกแบบ Good Design Award จากประเทศญี่ปุ่น หรือ การได้รับการโหวตโดยนิตยสาร Motor Trend ให้เป็นสุดยอดรถยนต์เอสยูวีแห่งปี (SUV of the Year) แม้ว่าทั้งหมดนี้จะยังไม่ใช่รถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ 100% แต่ “EyeSight” ก็เปรียบเสมือนดวงตาแห่งอนาคตของ Subaru และเป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้บริโภคคุ้นชินกับการช่วยเหลือและเพิ่มความปลอดภัย ก่อนที่เราจะเข้าสู่การขับเคลื่อนยุคใหม่อย่างแท้จริง