ธุรกิจญี่ปุ่นระส่ำหนัก หลังการขึ้นภาษีรอบใหม่ของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อสินค้าจากจีนอีก 15% มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ล่าสุด Uniqlo เตรียมย้ายฐานการผลิตมาเวียดนาม – กัมพูชา, ค่าย Seiko Holding เตรียมย้ายการผลิตนาฬิกากลับญี่ปุ่น ส่วนค่าย Citizen อาจย้ายมาผลิตที่ประเทศไทยแทนแล้ว
เหตุที่ค่ายญี่ปุ่นต้องย้ายฐานการผลิตกันจ้าละหวั่นนั้น เพราะภาษีรอบใหม่ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะคิดกับสินค้าส่งออกจากจีนนั้นเหมารวมสินค้าที่กว้างมากขึ้น (3,243 ชนิด) โดยรวมสินค้ากลุ่มเสื้อผ้า – นาฬิกา ฯลฯ เข้าไปด้วย ซึ่งสำหรับ Uniqlo แล้วมองว่าเป็นภาระที่หนักเกินไปเพราะไม่ว่าจะเสื้อยืดหรือกางเกง ก็จะได้รับผลกระทบจากภาษีรอบนี้ไปด้วย จากเดิมที่คิดภาษีอย่างมากก็แค่เข็มขัดหนังเท่านั้น
โดยปัจจุบัน ฐานการผลิตของ Fast Retailing ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Uniqlo อยู่ในจีนเป็นหลัก และสินค้าที่ผลิตมานั้น จะถูกส่งไปจำหน่ายในร้านของ Uniqlo จำนวน 52 สาขาในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีขนาดตลาดประมาณ 90,000 ล้านเยน (รวมทั้งทวีปอเมริกาเหนือ) หรือคิดเป็น 5% ของยอดขายทั้งปีของบริษัท (ยอดขายปี 2018)
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวใกล้ชิดของ Uniqlo ยอมรับว่า ต้นทุนด้านวัตถุดิบคงจะเพิ่มขึ้น เพราะบริษัทต้องพึ่งพาวัตถุดิบจากจีนแผ่นดินใหญ่อยู่ดี และอาจทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นได้
ทั้งนี้ สินค้าญี่ปุ่นที่มีแผนย้ายฐานการผลิตไม่ได้มีแค่เสื้อผ้า เพราะเครื่องถ่ายเอกสาร และพรินเตอร์แบบ all-in-one ก็ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน โดยคุณ Hideo Tanimoto ประธานบริษัท Kyocera เผยว่า จากเดิมที่โรงงานในจีนคือแหล่งผลิตสินค้าที่จะส่งไปขายในตลาดสหรัฐอเมริกา ขณะที่โรงงานในเวียดนาม จะผลิตสินค้าเพื่อป้อนตลาดยุโรป แต่เมื่อเจอภาษีที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เข้าไป บริษัทก็มองว่า การสลับการผลิตน่าจะเป็นทางออกที่ดี นั่นคือ โรงงานในเวียดนามจะผลิตสินค้าเพื่อป้อนตลาดสหรัฐ ส่วนโรงงานในจีนก็จะผลิตสินค้าเพื่อป้อนตลาดยุโรปแทน โดยทาง Kyocera ระบุว่า กระบวนการดังกล่าวน่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้
อีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างนาฬิกานั้นพบว่า ค่าย Seiko Holding ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาย้ายฐานการผลิตนาฬิกาเช่นกัน โดยนาฬิกาที่มีราคาต่ำกว่า 500 เหรียญสหรัฐจากจีน จะถูกย้ายกลับมาผลิตที่ญี่ปุ่น ขณะที่ค่าย Citizen นั้น ระบุว่า มีแผนจะย้ายมาที่ประเทศไทย
เจอเข้าไปแบบนี้ ทางการจีนก็ไม่ยอมแพ้ ขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐอเมริกาอีก 5 – 10% เป็นการตอบโต้เช่นกัน และสำนักข่าวซินหัว ได้มีการออกมากล่าวย้ำด้วยว่า สหรัฐอเมริกาควรเรียนรู้วิธีการประพฤติตัวอย่างคนที่มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม และควรเลิกพฤติกรรมเด็กเกเรหลังห้องได้แล้ว พร้อมกับสำทับว่า การจะทำให้อเมริกายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งนั้น แท้จริงแล้วอาจเป็นการร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกทำสิ่งดี ๆ มากกว่ามาทำแบบนี้ ส่วนภาษีการค้าที่จัดมาสำหรับจีนแผ่นดินใหญ่นั้น ไม่สามารถทำอะไรประเทศจีนได้อย่างแน่นอน