“ดิจิลิงก์ เอเชีย” ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดบนโซเชียล มีเดียครบวงจรอันดับ 1 ในจีน เดินหน้ารุกตลาดไทย ตั้ง “ดิจิลิงก์ ไทยแลนด์” หนุนผู้ประกอบการไทยสร้างแบรนด์ในจีนอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างยอดขายผ่านสังคมออนไลน์กว่า 7 แสนเว็บไซต์ มั่นใจปีแรกโกยบิลลิ่งทะลุ 200 ล้านบาท
มร.ไท่ ไว่ ชุน ( Mr. Tai Wai Chun ) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิจิลิงก์ เอเชีย จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดบนโซเชียล มีเดียครบวงจรอันดับ 1 ในสาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดเผยว่า ดิจิลิงก์ เอเชีย เป็นผู้ให้บริการด้านการทำตลาดบนโลกโซเชียล มีเดีย โดยเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการ (Official Partner) ให้กับ WeChat โซเชียล เน็ตเวิร์คอันดับ 1 ของจีนซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 1,000,000,000 ยูสเซอร์ รวมถึงโซเชียล มีเดียและมีเดีย แพลตฟอร์มระดับแนวหน้าของจีน ทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคชาวจีนซึ่งมีอยู่เกือบ 1,400 ล้านคนทั่วประเทศ
ทั้งนี้หลังจากที่ศึกษาตลาดประเทศไทยมาต่อเนื่อง และพบว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยว รวมทั้งยังชื่นชอบผลิตภัณฑ์แบรนด์ของไทย ทำให้ดิจิลิงก์ เอเชียมีความสนใจและมองเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยและผู้ประกอบการไทยอย่างมาก ล่าสุดจึงแต่งตั้งบริษัท ดิจิลิงก์ ไทยแลนด์ จำกัด (DigiLink Thailand Co.,Ltd ) ตัวแทนอย่างเป็นทางการขึ้นในประเทศไทยเพื่อให้บริการด้านการตลาดบนโซเชียล มีเดียครบวงจร สำหรับผู้ที่ต้องการทำตลาดบนโซเชียล มีเดียในประเทศจีนและผู้ที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
ดิจิลิงก์ เอเชีย เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดบนโซเชียล มีเดียวงจรอันดับ 1 ในจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 2557 และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีสาขาอยู่ในกวางโจว, เซิ่นเจิน, ซิดนีย์ และกัวลาลัมเปอร์ โดยความสำเร็จของดิจิลิงก์ เอเชียเกิดจากการให้บริการครบวงจร โดยเฉพาะการเป็นพันธมิตรกับ WeChat โซเชียล เน็ตเวิร์ค อันดับหนึ่งของจีน ซึ่งมีบัญชีผู้ใช้งานถึง 1,000 ล้านบัญชี โดยครอบคลุมถึง 79% ในการให้บริการทั้งการส่งข้อความ อ่านข่าว บทความไลฟ์สไตล์ ติดตามดารา รับโปรโมชั่น ไปจนถึงซื้อของออนไลน์และชำระเงิน ครบ-จบ-ในที่เดียว เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งของผู้ใช้งานเกือบ 24 ชม. ต่อวัน
นางสาวพรรณอวิกา ลิมปะพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิจิลิงก์ ไทยแลนด์ จำกัด บริษัทตัวแทนดิจิลิงก์ เอเชียอย่างเป็นทางการในประเทศไทย กล่าวว่า จากความชำนาญและมีประสบการณ์ในวงการสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์กว่า 5 ปี ภายใต้เครือบริษัท The Fifth Thursday ทำให้บริษัทได้รับแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนผู้ให้บริการด้านการตลาดบนโซเชียล มีเดีย ของดิจิลิงก์ เอเชีย ภายใต้ชื่อ ดิจิลิงก์ ไทยแลนด์ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยเริ่มต้นตั้งแต่เดือนตุลาคม เป็นต้นไป
โดยดิจิลิงก์ ไทยแลนด์ จะให้บริการครบวงจร ทั้งการวางแผนสื่อสารบนโลกโซเชียล มีเดีย การกำหนดคอนเทนต์ การเลือกใช้สื่อ การกำหนดโปรโมชั่น เพย์เม้นท์ การเลือกใช้ Influencer เป็นต้น สำหรับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักได้แก่ องค์กรขนาดใหญ่ และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพ และต้องการขยายตลาดไปยังประเทศจีน ซึ่งช่องทางโซเชียล มีเดียถือเป็นช่องทางสำคัญในการกระจายและเข้าถึงผู้บริโภคชาวจีนได้มากที่สุด
“วันนี้ต้องยอมรับว่า กลุ่มชาวจีนระดับกลาง (middle class) มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10 และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ชื่นชอบการท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทย ดังนั้นการจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้จะต้องเข้าใจถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภค หรือ Customer Journey และเลือกใช้การสื่อสารให้ถูกจังหวะและเวลา”
ด้านนางสาวพรรณอวิกา ลิมปะพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิจิลิงก์ ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า วันนี้มีผู้ประกอบการไทยจำนวนมากที่ต้องการขยายตลาดไปยังประเทศจีน แต่กว่าครึ่งยังไม่ประสบความสำเร็จเพราะขาดความรู้ ความเข้าใจ บางรายถูกหลอกเมื่อเข้าไปทำแล้วก็ทิ้งกลางทาง หรือบางรายบอกว่าเข้าไปทำแล้ว แต่แท้จริงยังไม่ได้ทำอะไรเลย ในความเป็นจริงแล้วในตลาดจีนไม่ได้มีแค่ WeChat อย่างเดียว แต่เรามีการให้บริการครอบคลุมถึง โซเชียลมีเดีย, มีเดียแพลตฟอร์ม และ Programmatic ที่ในประเทศมีการใช้กันมากกว่า 100 Platforms ยกตัวอย่าง Platforms ชั้นนำที่เราคัดมาเพื่อเจาะกลุ่มฐานลูกค้าแบบเจาะลึกด้วยระบบ Baidu, Qiboo 360, Weibo, Ctrip, Mafengwo, Tripadvisor, Tictok รวมถึง Influencer และยังสามารถ target กลุ่มคนที่กำลังค้นหาข้อมูลแบบ real time ด้วย Baidu รวมกับ ISP Program ที่ช่วยเพิ่ม awareness ดังนั้นผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าไปต้องมีความรู้หรือมีที่ปรึกษาที่มีทักษะความรู้และความเข้าใจในโลกโซเชียล มีเดียของจีน และสำคัญคือต้องรู้จักภาษาจีน
สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในประเทศไทย ได้แก่ 1. ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและบริการ (Tourist & Hospitality) 2. อสังหาริมทรัพย์ (Real Estate) 3. สินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG : Fast Moving Consumer Goods) และ 4. แฟชั่นและรีเทล (Fashion & Retail) โดยในปีแรกบริษัทตั้งเป้าที่จะมีรายได้ราว 200 ล้านบาท
นางสาวพรรณอวิกา ลิมปะพันธุ์ กล่าว “ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายตลาดไปประเทศจีน ไม่อยากให้มองถึงเรื่องของรายได้เพียงอย่างเดียว แต่วันนี้ต้องมุ่งไปที่การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและเติบโตอย่างยั่งยืน ตอบรับกับนโยบาย One Belt One Road ของประเทศจีนที่ต้องการเผยแพร่วัฒนธรรมและความเข้าใจ ไปยังประเทศต่าง ๆ เพราะสามารถสร้างฐานลูกค้าได้ทั้งกลุ่มผู้บริโภคในประเทศจีน และรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมายังเมืองไทย และชาวจีนที่กระจายอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย”
สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.digilinkthailand.com