เรียกว่าสร้างความฮือฮาได้อีกครั้งสำหรับเทคโนโลยีเครือข่าย 5G ที่ล่าสุดทางกลุ่มทรูได้นำประสบการณ์การใช้งาน 5G มาจัดแสดงอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้ชื่อกิจกรรม “TRUE 5G WORLD” ให้ได้สัมผัสกันในทุกมิติถึง 5 จุดทั่วเมือง ไม่ว่าจะเป็นที่ ลิโด้ คอนเนคท์, ทรูช้อปทั้ง 3 สาขาในสยามสแควร์ และไอคอนสยาม
สำหรับการมาถึงของเทคโนโลยีเครือข่าย 5G ที่ True นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ สิ่งที่จะสัมผัสได้ไม่ใช่แค่ความเร็วที่เพิ่มขึ้น อย่างที่หลายคนเคยมีประสบการณ์ตอนยกระดับจาก 2G เป็น 3G หรือจาก 3G เป็น 4G แต่ 5G ยังมาพร้อมความหน่วง (Latency) ที่ต่ำมากแค่ 1 มิลลิวินาที ซึ่งค่า Latency นี้จำเป็นอย่างมากสำหรับการต่อยอดในหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น รถอัจฉริยะไร้คนขับ หรือการผ่าตัดทางไกล
ขณะที่ จุดเด่นอีกข้อของ 5G คือการรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT ได้สูงถึงหนึ่งล้านชิ้นต่อพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเมื่อเทียบกับความสามารถของเครือข่ายยุค 4G ที่ทำได้ระดับแสนชิ้น ยิ่งถือเป็นโอกาสใหม่ ๆ ที่ภาคธุรกิจสามารถนำไปต่อยอดได้อย่างหลากหลาย
โดยคุณพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ หัวหน้าคณะทำงาน และกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ยกเคสของการนำ 5G มาใช้ในเชิงธุรกิจว่า สามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการนำมาประยุกต์ใช้กับภาคการเกษตร ที่อาจเปลี่ยนรถไถนามาสู่การใช้โดรนร่วมกับเทคโนโลยี Image Recognition เพื่อตรวจสอบว่าพื้นที่ใดควรให้ปุ๋ยเพิ่ม หรือหากจำเป็นต้องพ่นยากำจัดศัตรูพืชก็สามารถทำได้เฉพาะจุด ไม่ต้องพ่นยาทั้งแปลงเหมือนที่เคยเป็นมา
นอกจากนั้น ยังสามารถนำไปปรับใช้กับการทำปศุสัตว์ เช่น ระบบ Cow Monitoring ที่ True พัฒนาขึ้น กับการติดอุปกรณ์ IoT บริเวณใบหูของวัว ทำให้เจ้าของฟาร์มสามารถตรวจสอบความพร้อมในการผสมพันธุ์ การเจ็บป่วยของวัวได้แบบเรียลไทม์
“เรายังสามารถนำ 5G ไปปรับใช้กับโลกของหุ่นยนต์ ซึ่งจะช่วยให้หุ่นยนต์ทำงานได้อย่างอัจฉริยะมากขึ้น หรือการนำไปปรับใช้กับวงการการแพทย์ เช่น พัฒนา Smart Rescue Helmet สำหรับให้เจ้าหน้าที่พยาบาลสวมใส่ขณะให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ โดยตัวหมวกสามารถถ่ายทอดภาพสถานการณ์จริงในที่เกิดเหตุให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่อีกฝั่งได้รับทราบ และให้คำแนะนำในการช่วยเหลือได้อย่างถูกต้อง”
“ไม่เพียงเท่านั้น 5G ยังสามารถนำไปปรับใช้กับวงการเกม VR, วงการบันเทิง (การแสดงคอนเสิร์ตแบบ Multi-Stage ที่สามารถนำศิลปินจากคนละสถานที่มาแสดงคอนเสิร์ตร่วมกัน), วงการกีฬา, อุตสาหกรรมค้าปลีก, วงการโลจิสติกส์ และอื่น ๆ อีกมากมาย”
โอเปอเรเตอร์ในยุค 5G ต้องปรับตัวอย่างไร
จากความสามารถของ 5G ที่สามารถปฏิวัติได้ทุกวงการดังที่กล่าวมาข้างต้น สิ่งที่เป็นความท้าทายของผู้ให้บริการเครือข่ายจากการเปิดเผยของคุณสุภกิจ วรรธนะดิษฐ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการพาณิชย์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก็คือการหาพาร์ทเนอร์ เพื่อให้เกิดการร่วมมือกันพัฒนาโซลูชัน และนำไปสู่การประยุกต์ใช้จริงในเชิงพาณิชย์
โดยในจุดนี้ คุณสุภกิจเผยว่า ที่ผ่านมา True ได้มีการจับมือกับ China Mobile ผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่ของจีนที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 900 ล้านคน ซึ่ง China Mobile มีการใช้งานเครือข่าย 5G แล้ว ทำให้ True สามารถศึกษาและนำเคสที่ประสบความสำเร็จมาใช้งานได้ทันที
“โลกของ 5G คือโลกที่เราทุกคนต้องทำงานร่วมกัน ข้อดีคือเราไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ และ China Mobile มีศูนย์วิจัยและพัฒนาที่ใหญ่มาก การที่เราไปเรียนรู้จากเขา ทำให้การนำมาปรับใช้ทำได้รวดเร็วขึ้น”
ทั้งนี้ พาร์ทเนอร์ของ True ยังมีอีกหลายภาคส่วน ทั้งบริษัทเทคโนโลยีในประเทศ สถาบันการศึกษา และผู้ผลิตคอนเทนต์ต่าง ๆ เช่น เกม VR ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า ทาง Ture มีการเชิญพาร์ทเนอร์ไปร่วมสร้างประสบการณ์ใน TRUE 5G WORLD ด้วย
พบอะไรใน TRUE 5G WORLD
สำหรับการจัด TRUE 5G WORLD ครั้งนี้ ทาง True ได้แบ่งออกเป็น 5 โลก 5 กิจกรรมให้ได้เลือกชมกันตามความสนใจ ประกอบด้วย
ทรูช็อป สาขาสยามซอย 2 เป็นโลกของไลฟ์สไตล์ (World of Lifestyle) ผู้ที่เข้าไปเยี่ยมชมจะได้พบกับประสบการณ์ 5G ล้ำ ๆ เช่น Dating with a star (การได้ไปใช้เวลาออกเดทกับศิลปินเกาหลีผ่านเทคโนโลยี VR) หรือการนำเสนอหุ่นยนต์ต้อนรับที่ได้หุ่น Relay มาเสิร์ฟกาแฟใน True Coffee นอกจากนั้นยังมี 5G Robotic Art Experience ที่จะมาสาธิตการวาดภาพด้วยแขนกล เพื่อให้ผู้ชมเข้าใจถึงการควบคุมเครื่องจักรจากระยะไกลที่จะมีบทบาทมากขึ้นในภาคอุตสาหกรรมยุค 5G
ทรูช็อป สาขาสยาม ซอย 3 นำเสนอในหัวข้อ World of Robotics กับการนำหุ่นยนต์ 3 ตัวที่เคยได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางมาจัดแสดง ได้แก่ Cruzr, Temi และฮิวแมนนอยด์โรบ็อทสัญชาติไทยอย่าง สาวสวย ณ สยาม มาเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าไปทำความคุ้นเคย และพูดคุย
ทรูช็อป สาขาสยามเกทเวย์ เป็นการนำเสนอประสบการณ์ World of Interactive Gaming ด้วยบูธจำลองการขับรถบนเทคโนโลยี VR หรือการเล่นเกม Interactive ต่าง ๆ ผ่านแว่น VR เช่น Araya เกมสยองขวัญสัญชาติไทย, Invictus เกมแอคชันพร้อมภาพกราฟิกอลังการ หรือ Mar 3 เกมต่อสู้กับกองทัพมนุษย์ต่างดาว เป็นต้น
ลิโด้ คอนเน็คท์ เป็นสถานที่ที่เหมาะสมทีเดียวสำหรับการเป็น World of Entertainment โดยจะมีการจัดคอนเสิร์ตแบบ Multi-stage (การแสดงคอนเสิร์ตที่ศิลปินไม่ได้อยู่บนเวทีเดียวกัน) ขึ้นเป็นครั้งแรกในวันนี้ (19 ธันวาคม) แถมด้วย Hologram Concert ที่เชิญดีเจตัวจริงเสียงจริงมาสแครชแผ่นกันแบบเสมือนจริงผ่านเทคโนโลยี Hologram, Football VR Soccer และอีกหลากหลายความบันเทิง
สุดท้ายคือ ทรู แบรนดิ้งช็อป ไอคอนสยาม ที่บริษัทวางโพสิชันเอาไว้เป็น World of Innovation กับการนำเทคโนโลยีเช่น หมวกอัจฉริยะ (Smart Rescue Helmet) สำหรับช่วยเหลือผู้ป่วยเบื้องต้นอย่างถูกวิธี, VR Smart Suit สำหรับให้สวมใส่เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลการเคลื่อนไหวร่างกายตามหลักสรีรศาสตร์ หรือ 5G Cow Monitoring System เครื่องมือตรวจจับพฤติกรรมสัตว์
โดยกิจกรรมทั้งหมดนี้ True บอกว่าจัดต่อเนื่องข้ามปีจนถึง 14 มกราคม 2020 เลยทีเดียว ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายของกิจกรรมคือการให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์จริงของ 5G ขณะเดียวกันทาง True ก็สามารถศึกษาความต้องการ หรือรูปแบบการมีปฏิสัมพันธ์กับเทคโนโลยี 5G ของผู้บริโภคชาวไทยไปพัฒนาต่อได้ด้วย และทั้งหมดนี้ดูท่าจะสอดคล้องกับพันธกิจของทรูมูฟ เอชที่ คุณสุภกิจ ตั้งเป้าว่าจะต้องเป็นผู้ให้บริการเครือข่าย 5G ที่ดีที่สุดของประเทศในอนาคตอันใกล้นั่นเอง
#True5G #True5GCompleteYourWorld #True5Gเพื่อคนไทย