เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่รวดเร็วกำลังกลายเป็นสิ่งท้าทายสำหรับทุกธุรกิจ ซึ่งแม้แต่ผู้ให้บริการรถไฟยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง Japan Rail ก็หนีไม่พ้นเช่นกัน หลังมีรายงานว่า หนึ่งในสีสันของการเดินทางโดยชินคันเซนกำลังจะหายไป เมื่อผู้ให้บริการรถไฟอย่าง JR East และ JR West เริ่มมีแผนจะปรับลดพนักงานผู้ดูแลรถเข็นขายอาหารบนรถไฟ เหตุเพราะเป็นส่วนงานที่ไม่สามารถทำกำไรได้อีกแล้วนั่นเอง
โดยรายงานจาก Nikkei ระบุว่า ผู้ให้บริการอย่าง JR East ได้ยุติการขายสินค้าในขบวนรถไฟตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ JR West ได้ลดจำนวนการให้บริการบนรถไฟชินคันเซน เส้นทาง Hokuriku ซึ่งวิ่งระหว่างกรุงโตเกียวกับคานาซาว่าลงตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเช่นกัน ส่วนรถไฟชินคันเซนที่วิ่งในฮอกไกโด และคิวชูนั้น ได้ยกเลิกบริการนี้ไปแล้วเรียบร้อย
โดยผู้ให้บริการที่ยังคงตำแหน่งพนักงานเข็นรถขายอาหารบนชินคันเซนเอาไว้อยู่มีเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ JR Central ซึ่ง Akihiko Nakamura ผู้บริหารส่วนงาน JR-Central Passengers เองก็ยอมรับว่า มันไม่ใช่ส่วนงานที่ทำกำไรได้เลย
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า ผู้ใช้บริการรถไฟชินคันเซนในปัจจุบัน นิยมซื้อเบนโตะ หรือเครื่องดื่มจากร้านค้าตามสถานีขึ้นมารับประทานบนรถไฟกันมากขึ้น อีกทั้งข้าวกล่องตามสถานีก็มีความหลากหลาย และมีการแข่งขันกันในเรื่องวัตถุดิบสูงกว่าข้าวกล่องที่ขายบนรถไฟชินคันเซนพอสมควร
นอกจากนั้น อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้ให้บริการรถไฟของญี่ปุ่นตัดสินใจลดบริการในส่วนนี้ลงก็คือปัญหาขาดแคลนแรงงาน ทำให้ไม่สามารถหาพนักงานเข้ามารับหน้าที่เข็นรถขายอาหารบนรถไฟได้มากเพียงพอนั่นเอง
อย่างไรก็ดี แม้ว่าพนักงานเข็นรถขายอาหารบนชินคันเซนทั้ง JR East, JR West, หรือ JR ที่ให้บริการในฮอกไกโด และคิวชูจะเริ่มหายไป แต่สำหรับ JR Central หรือผู้ให้บริการในภาคกลางที่ดูแลสาย Tokaido Shinkansen ธุรกิจดังกล่าวกลับยังต้องมีอยู่ เนื่องจากพบว่า ในจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย 470,000 คนต่อวันนั้น ลูกค้าของ Tokaido shinkansen มักเป็น “นักธุรกิจ” ซึ่งผู้โดยสารกลุ่มนี้มีความรีบเร่งสูง และมักขึ้นรถไฟโดยไม่ได้เตรียมข้าวกล่อง หรือเครื่องดื่มติดตัวมาแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้ รถเข็นขายอาหารของ JR Central จึงต้องมีตัวตนอยู่เพื่อตอบโจทย์ผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าว
ปัจจุบัน รายได้ของแผนก JR-Central Passengers อยู่ที่ 3.4 หมื่นล้านเยน (รายได้ของปี 2019 สิ้นสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา) โดยมาจากร้านค้าในสถานีกว่า 70% ซึ่ง Nakamura บอกว่า เพื่อไม่ให้ตำแหน่งงานนี้หายไป เขากำลังศึกษาเกี่ยวกับเอกิเบน (เบนโตะที่ขายในสถานีและรถไฟชินคันเซน) ให้มากขึ้น โดยตั้งกฎกับตัวเองว่าจะลองชิมเบนโตะ 2 กล่องทุกวันด้วย