ในยุคนี้ที่มีปัญหา ฝุ่น มลภาวะ ไวรัส เชื้อโรคต่างๆมากมาย ทำให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น สินค้าต่างๆ เริ่มปรับตัวหันมาเน้นจุดขายที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการในด้านสุขภาพของผู้บริโภคมากขึ้น รวมถึงสินค้าอย่างโยเกิร์ตด้วย โดยโยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรียในฐานะที่มี positioning เรื่องการเป็นโยกิร์ตเพิ่อสุขภาพ จึงลุกมากระตุ้นให้คนไทยดูแลสุขภาพให้แข็งแรงโดยเริ่มจากการดูแลสุขภาพช่องท้องให้ดี
ตลาดสินค้าโยเกิร์ต (Yogurt) ในประเทศไทยยังถือว่าค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆเช่น ญี่ปุ่น หรือยุโรป เนื่องจากผู้บริโภคยังบริโภคโยเกิร์ตน้อย และบริโภคเป็นขนมหรือของว่างที่อร่อยแต่ดีต่อสุขภาพมากกว่าจะบริโภคเพื่อดูแลสุขภาพ แบรนด์ต่างๆในตลาดก็มักจะแข็งขันกันด้วยรสชาติใหม่ๆ และเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา “เมจิ บัลแกเรีย” ภายใต้เครือ CP Meiji ถือเป็นแบรนด์ที่สร้างปรากฎการณ์ใหม่ด้วยการนำเสนอสินค้าที่แตกต่างและชูจุดขายที่แตกต่างด้านสุขภาพและความเป็นโยเกิร์ตต้นตำรับมาจากบัลแกเรียประเทศต้นกำเนิดโยเกิร์ต
ในการทำตลาดของโยเกิร์ต “เมจิ บัลแกเรีย” (Meiji Bulgaria) นอกจากชูจุดเด่นของสินค้าที่รสชาติโยเกิร์ตต้นตำรับ ซึ่งได้ใช้กระบวนการที่คล้ายกับวิธีดั้งเดิมของชาวบัลแกเรียในการผลิตโยเกิร์ต ไม่ใส่สารสังเคราะห์ใดๆทั้งสิ้น ทำให้ได้เนื้อโยเกิร์ตที่เนียนนุ่มไม่เหมือนใคร
แต่การทำตลาดล่าสุด แบรนด์ต้องการกระตุ้นให้คนไทยดูแลสุขภาพมากขึ้น จึงยกระดับไปเน้นสื่อสารเรื่องคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์หรือ “ฟังก์ชั่นนอล” มากขึ้น โดยเฉพาะการเน้นเล่า (Storytelling) เกี่ยวกับคุณประโยชน์จุลินทรีย์ LB81 เป็นจุลินทรีย์สายพันธุ์แท้จากประเทศบัลแกเรีย ซึ่งพบได้ในผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตเมจิบัลแกเรียเท่านั้น ที่สำคัญยังมีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในระดับอินเตอร์เนชั่นอลรองรับเรื่องประโยชน์ที่มีต่อสุขภาพจนได้รับรองตราโฟชู (FOSHU :Food for Specified Health Usess) จากประเทศญี่ปุ่นด้วย ซึ่งเป็นตรารับรองที่แสดงถึงสินค้าที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
โดยจุลินทรีย์ LB81 มีการวิจัยว่าาผู้ที่รับประทานโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์ LB81 ติดต่อกันเป็นเวลา 14 วันจะช่วยทำปรับปรุงระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ ลดอาการท้องผูก ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ รวมถึงการเพิ่มจุลินทรีย์ดีในร่างกายนำไปสู่การมีภูมิคุ้มกันที่ดี ไม่เจ็บป่วยได้ง่ายจากเชื้อโรคต่างๆ เป็นต้น
โยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรีย ที่รู้จักกันดีในแบบถ้วยมี 4 รสชาติ ซึ่งประกอบด้วย 1. รสธรรมชาติ สำหรับคนชอบโยเกิร์ตแท้ธรรมชาติ ออกรสเปรี้ยว เพราะไม่มีการปรุงแต่งใดๆ 2. รสกลมกล่อม เอาใจผู้บริโภคที่ชอบในความอร่อยกลมกล่อมลงตัว ทานง่ายๆสบายๆ 3. รสน้ำผึ้ง ผสมน้ำผึ้งแท้ๆจากธรรมชาติ ที่เพิ่มความหอมหวานจากน้ำผึ้งผสมผสานเข้ากับโยเกิร์ตแท้ๆ และ 4.สินค้าใหม่ สูตร 0% Light&Mild ที่สูตรไม่มีไขมัน มีแคลอรี่เพียงแค่ 60 กิโลแคลรอรี่ น้ำตาลน้อย รสกลมกล่อม
และล่าสุดเพื่อตอบสนองความสะดวกสบายให้ผู้บริโภคมากขึ้น จึงออกมาในรูปแบบขวดเรียกว่า โยเกิร์ตพร้อมดื่ม ซึ่งมีความแตกต่างจจากนมเปรี้ยวแบบขวดตรงที่เนื้อโยเกิร์ตเข้มข้นกว่า แต่ยังเน้นจุดขาย จุลินทรีย์ดี LB81 เหมือนเดิม และมีให้เลือกถึง 2 สูตรคือสูตรไขมันต่ำ มี 3 รสคือ รสกลมกล่อม รสไวล์ดเบอร์รี่ และรสสตรอเบอร์รีและ สูตร 0% มี 2 รสคือ รสไลท์แอนด์มายด์ และรสองุ่นผสมมัลเบอร์รี
สำหรับตลาดโยเกิร์ตมีมูลค่ามากกว่า 4,000 ล้านบาท ในปี 2019 ที่ผ่านมาเติบโตอยู่ที่ 1% หลังจากติดลบต่อเนื่องมา 3 ปีโดยโยเกิร์ตในกลุ่มซีพี-เมจิ ทั้งแบรนด์โยเกิร์ตเมจิ และแบรนด์โยเกิร์ตเมจิ บัลแกเรีย ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้ตลาดกลับมาเติบโต โดยเติบโตได้มากกว่า 20% ทั้งหมดก็มาจากความพยายามในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มากขึ้น โดยเน้นใจความสำคัญในการพัฒนาสินค้าให้อร่อย และดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง