ปัญหาหน้ากากอนามัยขาดตลาดที่กำลังทำให้คนญี่ปุ่นเกิดการทะเลาะเบาะแว้งจนเป็นข่าวไปทั่วโลกนั้นอาจบรรเทาเบาบางลงในอนาคตอันใกล้ เมื่อบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Sharp ตัดสินใจเปลี่ยนโรงงานผลิตจอแอลซีดีในจังหวัดมิเอะเป็นโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยแทนเสียเลย
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่ง Sharp ระบุด้วยว่า กำลังการผลิตที่โรงงานแห่งนี้สามารถทำได้คือ 150,000 ชิ้นต่อวัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ได้อีกในอนาคต
เหตุที่ Sharp เปลี่ยนโรงงานผลิตจอแอลซีดีมาเป็นโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยครั้งนี้เป็นเพราะสถานการณ์การขาดแคลนหน้ากากอนามัยของญี่ปุ่นค่อนข้างรุนแรง อีกทั้งมีการพบว่า ประชาชนและบริษัทต่าง ๆ ในเมืองใหญ่ พยายามกว้านซื้อหน้ากากอนามัยมาตุนเอาไว้ และนำไปขายในราคาแพง ๆ บนเว็บไซต์ประมูลออนไลน์กันมากมาย ส่งผลให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องยื่นมือเข้ามาแก้ปัญหานี้ด้วยการขอความร่วมมือกับเว็บไซต์ออนไลน์ทั้งหลายให้หยุดนำหน้ากากอนามัยออกมาแสดงบนเว็บไซต์สักระยะ รวมถึงออกคำสั่งห้ามให้เชนร้านขายยาในญี่ปุ่นขายหน้ากากอนามัยโดยแพ็กไปกับสินค้าอื่นที่มีราคาแพงด้วย
นอกจากนี้ หากย้อนไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา พบว่า ญี่ปุ่นเคยมีสต็อกหน้ากากอนามัยในคลังสินค้ามากถึง 1,800 ล้านชิ้น (อ้างอิงจากกลุ่มผู้ผลิตหน้ากากอนามัยของญี่ปุ่น) ทว่ามาถึงเดือนกุมภาพันธ์นี้ หน้ากากอนามัยทั้งหมดได้ถูกจำหน่ายออกไปจนหมดแล้ว