“จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” ประกาศผลดำเนินงานปี 2562 โชว์กำไรสุทธิ 342 ล้านบาท กำไรต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 หลังยุคทีวีดิจิทัล
คุณบุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม GRAMMY เปิดเผยว่าในปี 2562 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า บริการ และค่าลิขสิทธิ์ 6,602 ล้านบาท ลดลง 5.78% จากปีก่อนหน้า กำไรสุทธิ 342 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ทำกำไร 15 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 326 ล้านบาท เนื่องจากบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดี และผลการดำเนินงานของบริษัทย่อย และกิจการร่วมค้าดีขึ้น
ปีที่ผ่านมา ธุรกิจเพลง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ประกอบด้วยการจำหน่ายสินค้าเพลง, ดิจิทัลมิวสิค, การจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์, ธุรกิจโชว์บิซ, ธุรกิจบริหารศิลปิน และธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียมฟรีทูแอร์ช่องแฟนทีวี รายได้รวมจากธุรกิจเพลงในปี 2562 เท่ากับ 4,014 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% และคิดเป็นสัดส่วน 61% ของรายได้จากการขายสินค้า การให้บริการ และค่าลิขสิทธิ์ รายได้ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของธุรกิจโชว์บิซ ธุรกิจดิจิทัลมิวสิค และธุรกิจการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์
ธุรกิจการร่วมค้า ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจ เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ ผู้บริหารทีวีดิจิทัล ช่อง ONE31 มีผลการดำเนินงานดีขึ้นต่อเนื่อง เข้าถึงผู้ชมกลุ่มเป้าหมายได้ทั่วถึง ตลอดปีที่ผ่านมา ละคร “ช่องวัน31” ได้รับการตอบรับที่ดีทั้งในแง่ของเรตติ้งและกระแสโซเชียล อาทิ ละครเรื่อง หัวใจศิลา, ลูกกรุง, ใบไม้ที่ปลิดปลิว และ My Ambulance รักฉุดใจ นายฉุกเฉิน ขณะที่รายการข่าว และวาไรตี้ก็ได้รับความนิยมและสร้างเรตติ้งได้เช่นกัน
กลุ่มธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้ง ที่ดำเนินธุรกิจ ทีวีดิจิทัล ช่อง GMM25 ธุรกิจสื่อวิทยุและโชว์บิซ และธุรกิจผู้ผลิตคอนเทนต์ ในปีที่ผ่านมาช่องจีเอ็มเอ็ม 25 มีทั้งละครและซีรีส์ ที่ได้รับความนิยม ตัวอย่างเช่น เมียน้อย, แรงเทียน และ รักหมดใจ ขณะที่ธุรกิจวิทยุและโชว์บิซมีผลประกอบการที่ใกล้เคียงกับปีก่อน
ธุรกิจเทรดดิ้ง ประกอบด้วยธุรกิจซื้อขายสินค้าโฮม ช้อปปิ้งภายใต้ชื่อ “โอ ช้อปปิ้ง และธุรกิจจัดจำหน่ายกล่องรับสัญญาณดาวเทียม “จีเอ็มเอ็ม แซท” ในปี 2562 ธุรกิจกล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียม “จีเอ็มเอ็ม แซท” มีรายได้เท่ากับ 280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน ส่วนธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง รายได้เท่ากับ 1,694 ล้านบาท ลดลง 27% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัวส่งผลให้มูลค่าตลาดโฮมช้อปปิ้งเติบโตน้อยกว่าปีที่ผ่านมา
ธุรกิจภาพยนตร์ ในปี 2562 มีภาพยนตร์เข้าฉาย 3 เรื่องคือ “Friend Zone…ระวังสิ้นสุดทางเพื่อน” “ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค” และ “ฮาวทูทิ้ง…ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” มีรายได้ Box Office รวมเท่ากับ 289 ล้านบาท เมื่อรวมรายได้จากช่องทางอื่นแล้ว ส่งผลให้รายได้รวมทั้งหมดจากธุรกิจภาพยนตร์ในปีนี้เท่ากับ 465 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%
โดยมีมติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเห็นชอบให้นำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เมษายน 2563 อนุมัติจ่ายเงินปันผลเพิ่มในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 164 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับที่จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อเดือนกันยายน 2562 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท หรือประมาณ 82 ล้านบาท หมายความว่า GRAMMY มีแผนเสนอขออนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตรา 90% ของกำไรสุทธิประจำปี 2562 หรือคิดเป็นหุ้นละ 0.30 บาท