สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบทุกธุรกิจ ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจอาหาร ซึ่งถือเป็นปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิต อย่างไรก็ตาม ในวิกฤตมีโอกาสเสมอ มาตรการทางสังคมที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) การกักตัว (Self-Quarantine) ได้สร้างพฤติกรรมใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค และได้กลายเป็นโอกาสใหม่ของธุรกิจเช่นเดียวกัน
จะเห็นได้ว่าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ผู้บริโภคได้ลุกขึ้นมาทำพฤติกรรมหลายอย่างในเชิงสร้างสรรค์ โดยเฉพาะพฤติกรรมอย่างหนึ่งของผู้คนที่ฮิตกันมากในช่วงนี้ คือการลุกขึ้นมาทำอาหารรับประทานกันเองมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะข้อจำกัดในเรื่องการเดินทางไปรับประทานอาหารนอกบ้าน รวมทั้งโอกาสที่จะไปแฮงเอาท์กับกลุ่มเพื่อนมีน้อยลง
ดูเหมือนว่าการทำอาหารจะกลายเป็นกิจกรรมที่สร้างความสุขเล็กๆ น้อยๆ ให้กับคนที่อยู่ในระหว่างการทำงานหรือกักตัวอยู่ที่บ้านได้อีกด้วย ซึ่งในอนาคตการทำอาหารรับประทานเอง อาจจะกลายเป็นพฤติกรรมปกติ (New Normal) ของคนรุ่นใหม่ก็เป็นได้
พฤติกรรมดังกล่าว ได้เปิดโอกาสให้แบรนด์ธุรกิจอาหารสามารถเป็นส่วนหนึ่งในทางเลือกของกิจกรรมร่วมในสังคมไทยขณะนี้ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มปลากระป๋องภายใต้แบรนด์ “ซีเล็ค” (SEALECT) ของบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มองเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือกัน และอาสาเป็นทางรอดให้กับแบรนด์อื่นๆ ด้วย จึงริเริ่มแคมเปญ COOKING UNITED #เราจะผ่านวิกฤตไปด้วยกัน
แคมเปญ COOKING UNITED #เราจะผ่านวิกฤตไปด้วยกัน ถือเป็นการฉีกตำราการตลาดที่น่าสนใจ โดย “ซีเล็ค” ไม่ได้จะผ่านวิกฤตินี้ไปเพียงแบรนด์เดียว แต่อาสาเป็นทางรอดให้กับแบรนด์อื่น ๆ ด้วยการถอดหมวกคู่แข่งในแง่ธุรกิจ เปิดเวทีชวนเหล่าเพื่อนร่วมวงการธุรกิจอาหารต่างค่ายต่างแบรนด์ เข้ามาร่วมกัน ผ่านกิจกรรมให้ผู้บริโภครังสรรค์เมนูอาหารจากปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน หรือปลาแมคเคอเรลกระป๋อง บนเฟซบุ๊กแฟนเพจ SEALECT พร้อมแท็กแบรนด์สินค้าอื่นๆ ที่เป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร อาหารกระป๋อง ขนมปัง ผักสดผลไม้ น้ำมัน ซอสปรุงรส เป็นต้น
สำหรับแบรนด์อาหารที่สนใจเข้าร่วมแคมเปญกับซีเล็ค เพียงสร้างสรรค์เมนูอาหารที่มีวัตถุดิบของตนเองเป็นหลักลงในเฟซบุ๊กแฟนเพจของแบรนด์นั้น และแท็กแบรนด์สินค้าอื่นที่เป็นวัตถุดิบช่วยทำให้เกิดเมนูที่แสนอร่อยจานนั้นด้วย โดยใช้ Template ของแคมเปญในการโพสต์ลงรูป พร้อมติดแฮชแท็ก #COOKINGUNITED #เราจะผ่านวิกฤตไปด้วยกัน เพื่อสร้างพลังให้กับแต่ละแบรนด์ในการเข้าร่วมแคมเปญครั้งนี้
จุดที่น่าสนใจของแคมเปญนี้ เป็นการเปิดพื้นที่สื่อกับแบรนด์อื่นๆ ได้เข้ามามี Interaction ระหว่างแบรนด์ต่างๆในกิจกรรมเดียวกัน พร้อมกับเป็นเวทีรวมแบรนด์ในธุรกิจอาหารที่สามารถโชว์จุดเด่นของแต่ละผลิตภัณฑ์ แต่ละแบรนด์ ผ่านวิธีการปรุงอาหารของผู้บริโภค ที่จะถูกส่งต่อกันไปในโซเชี่ยลมีเดียแบบไม่รู้จบ อีกทั้งยังสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ต่างๆ ในช่วงที่ไม่สามารถทำการตลาดได้แบบปกติ เป็นโอกาสและทางรอดภายใต้สถานการณ์วิกฤตครั้งนี้
นี่จึงเป็นอีกเวทีหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงพลังความสามัคคีของคนไทย การร่วมแรงร่วมใจ และแสดงถึงศักยภาพของธุรกิจอาหารในประเทศไทยในฐานะครัวของโลก เพราะเมนูอาหารหนึ่งจาน ไม่ได้เกิดขึ้นจากวัตถุดิบของสินค้าแบรนด์ๆ เดียว ผู้บริโภคมีทางเลือก แบรนด์มีทางรอด! #เราจะผ่านวิกฤตไปด้วยกัน #ภูมิต้านทานของคนไทย