หลังจาก กรุงเทพมหานคร ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อประจำ กทม. ในวันที่ 2 พฤษภาคม ได้กำหนดมาตรการผ่อนปรนให้สถานที่เสี่ยงน้อยกลับมาเปิดดำเนินการได้ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2563 ตามที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.กำหนดไว้ 6 กิจการและกิจกรรม
ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงถึงข้อกำหนดการผ่อนปรนมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ในส่วนของกรุงเทพมหานครว่า การคลายล็อกให้สถานที่ต่างๆ กลับมาดำเนินการได้ในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ ศบค.ได้กำหนดมาตรการกลาง ให้ปฏิบัติไว้แล้ว ซึ่งแต่ละจังหวัดรวมทั้งกรุงเทพมหานคร ต้องมาปรับมาตรการให้สอดคล้องกับมาตรการกลางของรัฐบาล โดยผู้ประกอบการและประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ไหน ก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการที่แต่ละจังหวัดกำหนดขึ้น สามารถทำให้เข้มงวดกว่ามาตรฐานกลางได้
ดังนั้น กทม.ได้ออกมาตรการผ่อนปรน 10 สถานที่ ซึ่งมีทั้งที่กลับมาเปิดดำเนินการใหม่และที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว โดยมีมาตรการเพิ่มขึ้น ให้สอดคล้องกับ ศบค. ดังนี้
1. ร้านอาหารและเครื่องดื่ม
ร้านอาหารและเครื่องดื่มทั่วไปเปิดได้ทุกร้าน แต่ร้านที่มีพื้นที่มากกว่า 200 ตารางเมตร ต้องมีมาตรการคัดกรองผู้ใช้บริการ ส่วนร้านขนาดต่ำกว่า 200 ตารางเมตรให้มีมาตรการคัดกรองตามขีดความสามารถ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่ให้บริการในร้าน ต้องมีมาตรการเว้นระยะห่าง หากเว้น 1-1.5 เมตรต้องมีฉากกั้นระหว่างผู้ใช้บริการแต่ละคน หากเว้นระยะห่างเกิน 1.5 เมตร ไม่ต้องมีฉากกั้น
งดให้บริการบุฟเฟ่ต์ไลน์อาหารที่ให้ลูกค้าตักเอง แต่ให้บริการบุฟเฟ่ต์สั่งจากรายการอาหารได้ “งดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดื่มในร้านหรือนำมาดื่มในร้าน” งดเล่นดนตรีหรือแสดงสด จัดระเบียบเว้นระยะห่างการเข้าคิวต่อแถวใช้บริการ
สำหรับร้านค้าที่มีใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ศบค.กำหนดให้เริ่มจำหน่ายได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป ซึ่งทาง กทม. จะทำตามมาตรการรัฐเปิดให้ร้านค้าจำหน่ายได้ในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้เช่นกัน
2. ตลาดนัด ตลาดสด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน
จำกัดการเข้าออกจำนวนผู้ใช้บริการด้วยมาตรการเว้นระยะห่าง จุดวัดอุณหภูมิคัดกรองผู้ใช้บริการทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ จุดบริการน้ำยาฆ่าเชื้อล้างมือ จัดระยะห่าง 1 เมตรสำหรับผู้เลือกซื้อสินค้า งดบริการเครื่องเล่นสำหรับเด็ก ผู้ค้าและผู้ซื้อทุกคนในตลาดต้องสวมหน้ากากอนามัย
ตลาดนัดจตุจักร และตลาดที่ กทม. เป็นเจ้าของ ยังไม่พร้อมเปิดในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ โดยทางผู้อำนวยการสำนักตลาด จะเป็นผู้พิจารณาโดยการเปิดต้องดูความพร้อมของร้านค้าว่าจะกลับมาขายวันไหน คาดว่าจะเปิดภายใน 1-2 สัปดาห์หลังจากนี้ เมื่อเปิดให้บริการจะใช้มาตรการเดียวกับตลาดอื่นๆ
3. ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ให้บริการเฉพาะ ตัด สระ ไดร์ โดย กทม. กำหนดมาตรฐานเพิ่มเติมคือ ให้ร้านบริการเป็นรอบ รอบละ 2 ชั่วโมง หลังบริการแต่ละรอบต้องหยุดทำความสะอาด 20 นาที ให้เจ้าของร้านทำตารางลงเวลาทำความสะอาดเป็นหลักฐาน จดบันทึกรายชื่อเบอร์โทรศัพท์วันเวลาผู้ใช้บริการทุกคน เพื่อติดตามตัวได้ จำกัดจำนวนคนใช้บริการแต่ละรอบ นัดคิวล่วงหน้า ห้ามนั่งคอยในร้าน
4. โรงพยาบาล คลินิก สถานพยาบาล (ยกเว้น คลินิกเวชกรรม คลินิกเสริมความงาม และคลินิกลดน้ำหนัก ห้ามเปิด) มาตรการตามสาธารณสุขกำหนด
5. สนามกอล์ฟ สนามฝึกซ้อมกอล์ฟ บริการร้านอาหารหรือคลับเฮ้าส์ ปฏิบัติตามมาตรการร้านอาหารและเครื่องดื่ม (ข้อ 1) ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มการเล่นและหลังเล่น ห้ามจัด การแข่งขันทุกประเภท งดบริการสปา อบไอน้ำ นวด จดรายชื่อเบอร์โทรศัพท์วันเวลาผู้ใช้บริการทุกราย
6. สนามกีฬากลางแจ้ง ห้ามออกกำลังกายเป็นทีม และห้ามจัดการแข่งขัน ชนิดกีฬา เทนนิส ยิงปืน ยิงธนู บริการอาหารและเครื่องดื่มในสนามกีฬา ปฏิบัติตามมาตรฐานร้านอาหารและเครื่องดื่ม (ข้อ 1) ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มระหว่างเล่น ห้ามจัดการแข่งขันทุกประเภท จำกัดการใช้บริการต่อสนามต่อคอร์ต โดยไม่มีผู้ชมการแข่งขันในสนาม และห้ามเล่นเป็นคู่ ห้ามเล่นกีฬาเป็นทีม ฟิตเนสทั่วไปและฟิตเนสในที่อยู่อาศัยยังไม่สามารถเปิดได้
7. สวนสาธารณะ กิจกรรมที่ทำได้ เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือการออกกำลังกายส่วนบุคคล จุดเข้าออกต้องมีการคัดกรองผู้ใช้บริการ งดใช้เครื่องเล่น งดการจับกลุ่มชุมนุม ผู้ที่อยู่ในสวนสาธารณะต้องใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า งดการจำหน่ายสินค้าทุกชนิด งดรับประทานอาหารในสวนสาธารณะ
8. ร้านตัดขนสัตว์ อาบน้ำ ฝากเลี้ยงสัตว์ ต้องนัดหมายล่วงหน้าก่อนใช้บริการ จดชื่อเบอร์โทรศัพท์วันเวลาผู้ใช้บริการทุกคน ซักประวัติเจ้าของสัตว์ก่อนว่าเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงหรือไม่
9. ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ (เปิดให้บริการอยู่แล้วแต่ต้องมีมาตรการเพิ่มเติม) ให้จำกัดจำนวนคนใช้บริการเหมาะสมกับพื้นที่ การขายอาหารปรุงสำเร็จต้องมีภาชนะปิด อุปกรณ์ครอบหรือที่กั้นอาหาร
10. ร้านขายปลีก ร้านค้าชุมชน ร้านค้าปลีกโทรคมนาคม (เปิดให้บริการอยู่แล้วแต่ต้องมีมาตรการเพิ่มเติม) โดยให้เว้นระยะห่าง ผู้ใช้บริการและผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากาอนามัย หรือหน้ากากผ้า
หลังจากมีมาตรการผ่อนปรนให้สถานที่ต่างๆ เปิดบริการได้ในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้แล้ว พบว่าสถานที่ใดมีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดและไม่สามารถควบคุมได้ หรือมีคนติดเชื้อจากสถานที่นั้นๆ กทม.จะทำการปิดทันที
กทม. ออกประกาศปิดสถานที่เสี่ยง
วันที่ 2 พฤษภาคม 2563 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ฉบับที่ 8 ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 โดยปิดสถานที่ดังนี้ โรงมหรสพ (โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ), สถานบริการ ผับ บาร์ สถานบันเทิง สวนน้ำ สวนสนุก สนามเด็กเล่น สวนสัตว์ สถานที่เล่นสเก็ต โรลเลอร์เบรด โต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียด สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง หรือตู้เกม ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต สระว่ายน้ำสาธารณะ สนามชนไก่ สนามซ้อมชนไก่ ฟิตเนส
พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดชุมชน สถานรับเลี้ยงเด็ก สถานดูแลผู้สูงอายุ สนามมวย โรงเรียนสอนมวย โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม) สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง สถานบันลีลาศ หรือสอนลีลาศ สนามม้า สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา สถานที่ให้บริการควบคุมน้ำหนัก คลินิกเสริมความงาม สถานเสริมความงาม คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม ร้านสปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านนวดเสริมความงาม นวดแผนไทย สนามแข่งขันทุกประเภท สถานที่แสดงมหรสพ สถานที่ให้บริการห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง
ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้เฉพาะ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา สินค้าเบ็ดเตล็ดจำเป็นต่อการใช้ชีวิต ร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ธนาคาร และที่ทำการหน่วยงานรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ร้านอาหารเปิดได้เฉพาะนำกลับ