หลังจากโรคโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาดอย่างหนักไปทั่วโลก ได้สร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะทำให้ผู้คนต้องหยุดชะงักการเดินทางท่องเที่ยวลงชั่วคราว และกักตัวอยู่ในบ้านในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จนทำให้นักท่องเที่ยวโหยหาการท่องเที่ยว และหลายคนเริ่มท่องโลกอินเทอร์เน็ตค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว และที่พักระหว่างกักตัวอยู่บ้านมากขึ้น เพราะเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายและปลดล็อกเมื่อใด พวกเขาก็พร้อมเก็บกระเป๋ากลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง
การกักตัวจึงไม่สามารถหยุดยั้งผู้คนจากความฝันในการเดินทางครั้งต่อไปได้ และเมื่อเจาะลึกลงใน Wish-list หรือรายการที่พักโปรดนับล้านแห่งบนจุดหมายปลายทางกว่า 100,000 แห่ง ที่ Booking.com ได้รวบรวมจากนักท่องเที่ยวที่หวังจะได้ท่องเที่ยวอีกครั้งบนแพลตฟอร์มของ Booking.com ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม เผยให้เห็นจุดหมายปลายทางและที่พักที่นักท่องเที่ยวชาวไทยตั้งตาคอยเมื่อสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อีกครั้ง
โดยจุดหมายปลายยอดนิยมในต่างประเทศ เช่น บาหลี, อันดาลูเซีย, ลอนดอน, ฟลอริดา และปารีส ยังคงเป็นเป้าหมายการเดินทางหลักที่สร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้คนทั่วโลก ในขณะเดียวกันการท่องเที่ยวภายในประเทศก็ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยมีสัดส่วนมากกว่าครึ่ง (51 เปอร์เซ็นต์) ของ Wish-list ทั่วโลกระหว่างช่วงสถานการณ์ครั้งนี้ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 1 ใน 3 (33 เปอร์เซ็นต์)
สำหรับ Wish-list ของประเทศไทย นักท่องเที่ยวนิยมจุดหมายปลายทางในประเทศสูงถึง 72 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ปี 2562 อยู่ที่เพียง 54 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มเดือนมีนาคม อันดับ Wish-list สำหรับจุดหมายปลายทางยอดนิยมในประเทศของคนไทยได้แก่ กรุงเทพฯ, หัวหิน, เชียงใหม่, เกาะช้าง และหาดจอมเทียน บ่งชี้ให้เห็นว่าเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและวัฒนธรรม ตลอดจนเมืองติดชายหาด เป็นสิ่งแรกที่นักท่องเที่ยวชาวไทยจินตนาการถึงเมื่อต้องกักต้วเป็นเวลาหลายสัปดาห์
“สิ่งที่อาจทำให้จุดหมายปลายทางเหล่านี้เป็นที่นิยมและดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยคือ ประสบการณ์ความตื่นเต้นต่างๆ ที่ได้จากจุดหมายปลายทางเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น ตลาดกลางคืน, อาหารหลากหลายประเภท ตลอดจนกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ทั้งการดำน้ำหรือขี่ม้า” คุณมิเชล เกา ผู้จัดการประจำภูมิภาคของ Booking.com บอกเหตุผล
10 อันดับ Wish-list จุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรบคนไทย โควิด-19 | ||
อันดับ | จุดหมายปลายทางในประเทศ | จุดหมายปลายทางต่างประเทศ |
1 | กรุงเทพฯ | โตเกียว (ญี่ปุ่น) |
2 | หัวหิน | โซล (เกาหลีใต้) |
3 | เชียงใหม่ | โอซาก้า (ญี่ปุ่น) |
4 | เกาะช้าง | สิงคโปร์ |
5 | หาดจอมเทียน | อูบุด – บาหลี (อินโดนีเซีย) |
6 | เมืองพัทยา | ลอนดอน (สหราชอาณาจักร) |
7 | หาดป่าตอง | กัวลาลัมเปอร์ (มาเลเซีย) |
8 | ชะอำ | ไทเป (ไต้หวัน) |
9 | พัทยาใต้ | ปารีส (ฝรั่งเศส) |
10 | หาดอ่าวนาง | ดานัง (เวียดนาม) |
สำหรับการท่องเที่ยวต่างประเทศ นักท่องเที่ยวชาวไทยยังคงใฝ่ฝันถึงการท่องเที่ยวในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของเมืองใหญ่ของเอเชียและยุโรป เริ่มจากอันดับ 1 โตเกียว (ญี่ปุ่น) ตามมาด้วยโซล (เกาหลีใต้), โอซาก้า (ญี่ปุ่น), สิงคโปร์, อูบุด – บาหลี (อินโดนีเซีย), ลอนดอน (สหราชอาณาจักร), กัวลาลัมเปอร์ (มาเลเซีย), ไทเป (ไต้หวัน), ปารีส (ฝรั่งเศส) และดานัง (เวียดนาม)
โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยเฝ้าใฝ่ฝันที่จะเปลี่ยนบรรยากาศและมีโอกาสที่จะเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การพักผ่อนนอกบ้าน โดยประเภทของห้องพักที่ชาวไทยต้องการเข้าพักมากที่สุดคือ โรงแรม, รีสอร์ท, อพาร์ทเมนท์, เกสต์เฮาส์ และโฮสเทล ตามลำดับ ซึ่งโรงแรมมีอัตราส่วนความต้องการเข้าพักสูงถึง 42 เปอร์เซ็นต์ตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มากกว่าค่าเฉลี่ยนทั่วโลกที่ 40 เปอร์เซ็นต์เล็กน้อย
สิ่งที่น่าสนใจคือนักท่องเที่ยวชาวไทยชอบเข้าพักในรีสอร์ทมากกว่าค่าเฉลี่ยนักเดินทางทั่วโลก โดยมีนักท่องเที่ยวทั่วโลกเพียง 6 เปอร์เซ็นต์เลือกรีสอร์ทเป็นพักใน Wish-list ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยมากถึง 21 เปอร์เซ็นต์เลือกรีสอร์ทเป็น Wish-list! โดยที่พักได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทยบน Wish-list จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ The Quarter Ari by UHG, Coral Tree Villa Huahin และ The Yana Villas Hua Hin
“ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุดในช่วงเวลาที่คาดเดาไม่ได้และท้าทายนี้ เรายังทราบว่าในช่วงเวลาดังกล่าวความฝันที่จะได้ออกไปสัมผัสโลกนั้นมีพลังมหาศาล มากพอที่จะจุดประกายจินตนาการและสร้างแรงบันดาลใจแก่เรา เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นลูกค้าของเราเฝ้าฝันถึงประสบการณ์การเดินทางอันหลากหลายระหว่างรอโอกาสที่จะกลับมาเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง”