ไม่เฉพาะผู้ใหญ่ที่เครียดหนักจากวิกฤติ Covid-19 เด็ก ๆ เองก็เช่นกัน โดยพบว่า เด็กในสหรัฐอเมริกาหลายคนมีการพึ่งพิงบริการต่าง ๆ ของโรงเรียนอย่างมาก ทั้งเรื่องอาหารกลางวัน ที่ปรึกษาด้านสุขภาพจิต หรือในเรื่องของจิตใจ (ที่อยากไปเล่นกับเพื่อน) การที่เด็กจำนวนมากถูกกักตัวติดอยู่ที่บ้านตลอดเวลา (โดยเฉพาะเด็กที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้น ออทิสติก วิตกกังวล หรือซึมเศร้า) สถานการณ์ของพวกเขาอาจเลวร้ายขึ้น
Nancy Lublin ซีอีโอของ Crisis Textline สายด่วนดิจิทัลสำหรับคนที่ต้องการความช่วยเหลือทางอารมณ์และทางร่างกายกล่าวว่า แพลตฟอร์มของเธอได้รับข้อความเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มขึ้น 78% และข้อความการล่วงละเมิดทางเพศเพิ่มขึ้น 44%
แม้ในสถานการณ์ปกติ บริการสุขภาพจิตสำหรับเด็กก็ไม่สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกนัก ข้อมูลของสถาบันจิตเวชเด็ก และวัยรุ่นอเมริกันแสดงให้เห็นว่า 41 รัฐและเปอร์โตริโกมีปัญหาการขาดแคลนจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นอย่างมาก โดยมีผู้ปฏิบัติงานเพียง 1 ถึง 17 คนต่อผู้ป่วย 100,000 คนเท่านั้น
จากความกังวลของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพว่าเด็ก ๆ จะไม่โอเคในช่วงของการระบาดครั้งนี้ นั่นเลยทำให้เกิดโปรเจ็คดี ๆ โดยบริษัทที่ชื่อว่า Brightline กับการเปิดตัวแพลตฟอร์มสุขภาพเชิงพฤติกรรมสำหรับเด็กย่าน Bay Area ในซานฟรานซิสโก
แพลตฟอร์มนี้จะเชื่อมต่อเด็ก ๆ กับจิตแพทย์ นักบำบัด และโค้ชที่สามารถให้บริการบำบัดทางไกลแบบตัวต่อตัว สำหรับตอนนี้เซสชันการบำบัดออนไลน์นั้นมีให้สำหรับเด็กอายุ 6 ถึง 10 ปีเท่านั้น แต่บริษัทวางแผนที่จะขยายไปถึงเด็กอายุไม่เกิน 12 ปีร่วมด้วย
แอปนี้ยังจัดชั้นเรียนกลุ่มสำหรับผู้ปกครองและเด็กทุกวัย และจัดเตรียมเครื่องมือการวางแผนการออกกำลังกายที่บ้าน และวิธีการติดตามความคืบหน้าของเด็ก ๆ ให้อีกต่างหาก
สำหรับความตั้งใจของผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นนี้คือการอยากให้เทคโนโลยีมีส่วนเข้ามาเติมเต็มความขาดแคลนบุคลากร เพราะแม้ว่าจิตแพทย์เด็กจะไม่สามารถเข้าถึงได้ในทุกพื้นที่ แต่หากพวกเขามีอินเทอร์เน็ตก็จะสามารถพูดคุยกับเด็กได้ผ่านแอปพลิเคชั่นใหม่นี้ โดยที่คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกรองและครอบครัวสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตามการประเมินพฤติกรรมทางสุขภาพต่างๆ ยังไม่สามารถทำได้โดยสมบูรณ์ผ่านทางออนไลน์ 100% การเกิดขึ้นของแอปพลิเคชั่นนี้จึงเป็นขั้นตอนของการพูดคุย ให้คำแนะนำ และรักษาในเบื้องต้น เพื่อนำไปสู่การรักษาอย่างจริงจังในเคสใหญ่ ๆ ที่ต้องเจอหน้ากันแบบตัวต่อตัวต่อไป
เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่น่าสนใจและยังไม่ค่อยมีใครทำ ที่เกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาที่หลายคนมองข้ามในช่วง Covid-19 ได้ดีทีเดียว