คุณจิม เบฟเวอริดจ์ Master Blender ของ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์
หากพูดถึงชื่อแบรนด์ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีในฐานะแบรนด์สก๊อตช์ วิสกี้ ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดอันดับหนึ่งของโลกและเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย และเป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องดื่มแอลกอลฮอล์ชั้นนำภายใต้ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DMHT ผู้นำด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พรีเมียมระดับโลก ที่มีเป้าหมายในการเป็นบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคที่สามารถสร้างผลงานอย่างยอดเยี่ยม และได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจที่สุดในโลก ผ่านการพัฒนานวัตกรรมเครื่องดื่มเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงแก่ลูกค้า โดยตลอดทั้งปี ค.ศ. 2020 นี้ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ได้เตรียมการเฉลิมฉลองวาระพิเศษครบรอบ 200 ปีอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่ยังคงเดินหน้าสร้างประสบการณ์ผ่านนวัตกรรมใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อมอบที่สุดแห่งความลุ่มลึกและสุนทรียะแห่งรสสัมผัสตามปรัชญา “Keep Walking” พร้อมสัญลักษณ์ The Striding Man หรือ ชายผู้ก้าวเดิน กับหมวกทรงสูงและทักซิโด้ชายยาว ที่ยังคงเดินหน้าสู่ความเป็นแบรนด์ที่ครองใจนักดื่มสก๊อตช์ วิสกี้ ทั่วโลกอยู่จนถึงทุกวันนี้
จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1819 ในสกอตแลนด์ โดย จอห์น วอล์กเกอร์ เจ้าของร้านขายของชำที่ได้คิดค้นเบล็นด์ สก๊อตช์ วิสกี้ หรือ สก๊อตช์ วิสกี้ผสม ด้วยการผสมวิสกี้หลายชนิดจากโรงกลั่นต่าง ๆ เพื่อรักษามาตรฐานของเครื่องดื่มให้สม่ำเสมอในทุกล็อตการผลิต ก่อนจะขยับขยายสู่เวทีโลก ถูกลำเลียงผ่านทางรถไฟและเรือเดินสมุทรสู่ทั่วทุกสารทิศ และการขนส่งสินค้าเพื่อส่งออกนี้เอง จึงเป็นที่มาของขวดทรงสี่เหลี่ยมของ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ที่ช่วยลดการกระแทกของขวดแก้วและเพิ่มพื้นที่ขนส่ง ในขณะเดียวกันแบรนด์ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ก็เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลจากสหราชอาณาจักรสู่ประเทศไทยในปี พ.ศ. 2467 หรือกว่า 96 ปีมาแล้ว เพื่อส่งต่อความพิถีพิถัน รสชาติ และเอกลักษณ์ของสก๊อตช์ วิสกี้ โดยได้รับการขนานนามแบบดั้งเดิมในภาษาไทยว่า ตราดำ และ ตราแดง ซึ่งเป็นคำแปลตรงตัวของ แบล็ค เลเบิ้ล และ เรด เลเบิ้ล ส่งให้สก๊อตช์ วิสกี้ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กลายมาเป็นแบรนด์ที่ชาวไทยคุ้นเคยกันมาจนถึงทุกวันนี้
และด้วยความเป็นแบรนด์ เบล็นด์ สก๊อตช์ วิสกี้ นี้เอง ที่ทำให้ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ โดดเด่นในการรังสรรค์และผสมผสานวิสกี้ให้เกิดรสสัมผัสและสุนทรียะแห่งการดื่มที่ลุ่มลึก ความพิถีพิถันนี้อาศัยความเชี่ยวชาญที่สืบทอดต่อกันมาของ Master Blender ผสานทักษะทั้งศาสตร์และศิลป์ขั้นสูง ทั้งยังต้องมีความเข้าใจวิสกี้แต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็นลักษณะเด่นและสไตล์ของวิสกี้แต่ละชนิด วัตถุดิบที่ใช้ในการบ่มแต่ละถัง และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงกรรมวิธีการผสมรวมถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการผสมวิสกี้ต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน การรังสรรค์เบล็นด์ สก๊อตช์ วิสกี้ หรือ สก๊อตช์ วิสกี้ผสม จึงต้องอาศัยทั้งความหลงใหล ความคิดสร้างสรรค์ และวิสัยทัศน์อันแรงกล้าของปรมาจารย์ที่บ่มเพาะประสบการณ์มานานหลายปี ในการคิดค้นแต่ละเบล็นด์เครื่องดื่มเพื่อส่งมอบความพึงพอใจและสุนทรียะต่าง ๆ สู่นักดื่มทั่วโลก ซึ่งจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ได้เสนอเบล็นด์ สก๊อตช์ วิสกี้ หลากหลายรูปแบบที่มีความคงที่ของรสชาติในแต่ละขวด ตลอดจนเอกลักษณ์และรสสัมผัสเฉพาะตัว โดยเบล็นด์ วิสกี้ หรือ วิสกี้ผสม เป็นที่นิยมอย่างสูงไม่แพ้ซิงเกิ้ล มอลต์ วิสกี้ ถูกใจเหล่านักดื่มที่มีรสนิยมการดื่มเฉพาะตัว จึงสามารถตอบโจทย์รสนิยมที่แตกต่างกันของนักดื่มแต่ละคนได้อย่างครอบคลุม
จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ยังพิสูจน์ความเป็นแบรนด์สก๊อตช์ วิสกี้ที่ครองใจผู้บริโภคมาตลอด 200 ปี ด้วยการคว้ารางวัลระดับโลกจากการแข่งขันไวน์และสุรานานาชาติ หรือ IWSC: International Wine & Spirits Competition 2019 โดยแบ่งเป็นรางวัลเหรียญทองจำนวน 5 รางวัล และเหรียญเงินจำนวน 2 รางวัล นอกจากนี้ยังสามารถกวาดรางวัลจากเวที “The San Francisco World Spirits Competition” ประจำปี 2020 ซึ่งเป็นการแข่งขันเครื่องดื่มสปิริตระดับโลกที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากผู้ค้าและผู้บริโภคทั่วโลก ได้แก่ 3 รางวัล เหรีญทองเกียรติยศ (Double Gold Award) 6 เหรียญเงิน (Silver Award) และ 1 เหรียญทองแดง (Bronze Award) ส่วนในประเทศไทย จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ยังได้รับรางวัล Thailand’s Most Admired Brand 2020 ติดต่อกันเป็นปีที่ 20 จากนิตยสาร BrandAge และได้ถูกจัดให้อยู่ใน Hall of Fame อันทรงเกียรติซึ่งมอบให้กับแบรนด์ที่ครองตำแหน่ง Thailand’s Most Admired Brand มามากกว่า 10 ปี และมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในภาคธุรกิจ มีนวัตกรรมนำเสนอออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ ทั้งยังต้องมีอัตราการเติบโตด้านผลประกอบการอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ยังมีบทบาทในการนำผลิตภัณฑ์สก๊อตช์ วิสกี้ ผสมผสานกับวัฒนธรรม ป๊อบซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก อย่างการสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่กับ White Walker by Johnnie Walker และการจัดทำคอลเลคชั่น Johnnie Walker A Song of Ice ที่แพ็กเกจจิ้งให้ผิวสัมผัสเหมือนขนของหมาป่า และ A Song of Fire ที่ให้ความรู้สึกลื่นเป็นเงาเหมือนเกล็ดของมังกรเมื่อลูบไปที่ลวดลายบนขวด นับเป็นนวัตกรรมใหม่ด้านบรรจุภัณฑ์ที่มอบอีกขั้นแห่งประสบการณ์ให้ผู้บริโภค ส่วนในด้านความเป็นยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ก็ได้ประกาศว่าจะเริ่มใช้นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มที่ใช้กระดาษเป็นวัตถุดิบหลักแบบปราศจากพลาสติก 100% ซึ่งบรรจุภัณฑ์นี้จะทำจากเยื่อไม้ที่มีกระบวนการในการนำมาใช้อย่างยั่งยืน เพื่อให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยสำหรับบรรจุอาหาร และสามารถนำไปรีไซเคิล กำจัดขยะได้อย่างเต็มที่ในขั้นตอนต่าง ๆ ที่ได้มาตรฐาน โดยจะเริ่มวางจำหน่ายช่วงต้นปี พ.ศ. 2564
ทุกย่างก้าวของ The Striding Man ที่เดินทางมากว่า 200 ปี และอีกเกือบหนึ่งศตวรรษที่อยู่เคียงข้างนักดื่มชาวไทย ทำให้แบรนด์ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กลายเป็นแบรนด์ที่เปื่ยมไปด้วยเรื่องราวและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ นอกจากนี้การเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อส่งต่ออีกขั้นของประสบการณ์ให้กับนักดื่ม หรือการสร้างโครงการนำร่องเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน ทั้งยังการันตีคุณภาพผลิตภัณฑ์และความสำเร็จด้วยรางวัลและเครื่องยืนยันมากมายจากเวทีระดับโลกและรางวัลระดับประเทศ สื่อให้เห็นถึงความนิยมของ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ และการเป็นแบรนด์สก๊อตช์ วิสกี้ อันดับหนึ่งของไทยและในระดับโลก ที่ผู้บริโภคชื่นชอบและให้ความไว้วางใจ โดยยังคงเดินหน้าแต่งแต้มสีสันแห่งการเฉลิมฉลองอย่างไม่หยุดยั้งตามปรัชญา “Keep Walking” การก้าวผ่านหมุดหมายปีที่ 200 ของ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ จึงนับว่าเป็นการเปิดม่านเวทีใหม่ในการสานต่อตำนานสก๊อตช์ วิสกี้ ผ่านนวัตกรรมที่จะมีออกมาอย่างต่อเนื่อง สู่เป้าหมายในการเป็นแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภคทั่วโลกต่อไป