HomeBrand Move !!โควิด-19 เล่นงานหนัก ศูนย์การค้า ตบเท้าเข้าพบนายกฯ เสนอ 3 แผน ฝ่าวิกฤติ ดันศูนย์การค้าไทยปักหมุดแหล่งท่องเที่ยวโลก

โควิด-19 เล่นงานหนัก ศูนย์การค้า ตบเท้าเข้าพบนายกฯ เสนอ 3 แผน ฝ่าวิกฤติ ดันศูนย์การค้าไทยปักหมุดแหล่งท่องเที่ยวโลก

แชร์ :

ปฏิเสธไม่ได้ว่า อุตสาหกรรมศูนย์การค้าและค้าปลีก นับเป็นภาคธุรกิจหนึ่งที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ในแต่ละปีสามารถสร้างเม็ดเงินและการจ้างงานเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กินเวลายาวนานหลายเดือน ส่งผลให้ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าต้องปิดให้บริการชั่วคราวจากมาตรการเข้มเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อต่อสู้กับไวรัสร้าย ยิ่งทำให้ธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างหนัก และถึงแม้ว่าตอนนี้สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลาย แต่ภาพรวมของอุตสาหกรรมกลับยังไม่ฟื้นตัวมากนัก สมาคมศูนย์การค้าไทย หรือ TSCA จึงเสนอ 3 แผนงานต่อภาครัฐเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและแรงงาน รวมถึงฟื้นฟูเศรษฐกิจและธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาเดินหน้าต่อไปได้

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ศูนย์การค้า เส้นเลือดใหญ่ของประเทศ

คุณนพพร วิฑูรชาติ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย และประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บอกว่า อุตสาหกรรมศูนย์การค้าและค้าปลีก นับเป็นภาคธุรกิจสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเป็นสถานที่ที่รวมผู้ประกอบการจำนวนมากกว่า 120,000 ราย ก่อให้เกิดการจ้างงานกว่า 2.4 ล้านคน และสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนกว่า 750,000 ล้านบาทต่อปี ศูนย์การค้าจึงเปรียบเสมือน “บ้านหลังใหญ่” ของผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่

ซึ่งนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการณ์โควิด-19 มาจนถึงปัจจุบัน ธุรกิจศูนย์การค้าได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยภาคธุรกิจศูนย์การค้ามีความพยายามช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอีของประเทศอย่างต่อเนื่องรวมระยะเวลากว่า 6 เดือน รวมรายได้ที่สูญเสียและเม็ดเงินช่วยเหลือเกือบ 2 แสนล้านบาท อาทิ การลดค่าเช่า 30-100% เพื่อให้ร้านค้ายังคงมีกระแสเงินสดหมุนเวียนและประคองธุรกิจต่อไปได้

รวมถึงจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายจัดแคมเปญลดราคา 50-90% รวมไปถึงเปิดพื้นที่การขายฟรีให้เอสเอ็มอีและผู้ประกอบอาชีพต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์ในครั้งนี้ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภค ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นวิธีประคองธุรกิจในระยะสั้น แต่ไม่เพียงพอให้ธุรกิจอยู่รอดได้อย่างต่อเนื่อง

ชู 3 แผนเร่งฟื้นธุรกิจศูนย์การค้าและท่องเที่ยว

คุณวัลยา จิราธิวัฒน์ อดีตนายกสมาคมศูนย์การค้าไทย 2 สมัย (ปี 2557-2561) และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บอกว่า ทางสมาคมศูนย์การค้า ได้นำเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เพื่อร่วมกันเร่งฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยมุ่ง 3 แนวทาง ได้แก่ แผนระยะสั้น แผนระยะกลาง และแผนระยะยาว ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้

  • แผนระยะสั้น

1.ส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอี ให้สามารถกลับมาค้าขายได้ คงการจ้างงาน และกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ด้วยมาตรการออกเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ

2.ส่งเสริมโครงการช้อปและเที่ยวช่วยชาติ โดยอนุมัติมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” แจก 3,000 บาทต่อคน พร้อมขยายมายังผู้ค้ารายย่อยในศูนย์อาหาร (Food Center) ให้สามารถเข้าร่วมได้

3.พิจารณาอนุมัติมาตรการเยียวยาค่าใช้จ่ายผ่านศูนย์การค้าเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีต่อไป ตามข้อเสนอมาตรการเยียวยาโควิดทั้งด้านภาษีและค่าใช้จ่ายๆ ตามจดหมายที่สมาคมฯ เคยนำเสนอเมื่อวันที่ 15 เม.ย. และ 29 มิ.ย. 2563 พร้อมขยายระยะเวลามาตรการช่วยเหลือด้านการลงทุน และต่ออายุการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตรา 90% ออกไปถึงปี 2566

  • แผนระยะกลาง

1.ส่งเสริมการลงทุนต่อเนื่อง ด้วยการยกระดับธุรกิจศูนย์การค้าให้อยู่ในแผนแม่บทพัฒนาประเทศ อนุญาตให้ลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษของประเทศ

2.ส่งเสริม Seamless Connectivity เชื่อมต่ออาคาร, ระบบคมนาคม, สะพานลอย, รถไฟฟ้า, ถนนหลวง ฯลฯ

3.พิจารณาปรับกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่ และส่งเสริมมาตรการด้านภาษีเพื่อการลงทุน

  • แผนระยะยาว

1.ผลักดันให้ศูนย์การค้าไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวในระดับโลก เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ด้วยการยกระดับคุณภาพและดีไซน์สินค้าของไทยให้ดึงดูดนักท่องเที่ยว ไปพร้อมกับการทยอยปรับลดภาษีสินค้านำเข้า เพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนได้

2.จัดแคมเปญระดับประเทศเพื่อโปรโมท Attraction & Unique Product ภายในศูนย์การค้า แล­­ะการจัดงานส่งเสริมวัฒนธรรมระดับประเทศ (Cultural Event) โดยภาครัฐเป็นเจ้าภาพ เช่น กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันส่งเสริม Art / Music / Food ของไทยในศูนย์การค้า เช่น งาน Bangkok Art Biennale เพื่อทำให้ศูนย์การค้าไทยเป็นสวรรค์แห่งการช้อปปิ้งของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักที่ทางสมาคมฯ ผลักดันให้เกิดการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนคือผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ เพื่อรักษาไว้ซึ่งห่วงโซ่ธุรกิจ เพื่อช่วยประคองธุรกิจไม่ให้ปิดกิจการ คงการจ้างงาน ลดอัตราการว่างงาน และกระตุ้นเงินหมุนเวียนในระบบ รวมถึงการแบ่งเบาภาระของผู้ประกอบการจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อให้ธุรกิจรอดไปด้วยกันทั้งหมด นอกจากนี้ สำหรับแผนระยะกลาง เราหวังให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และการยกระดับให้ธุรกิจศูนย์การค้าเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ของประเทศ ด้วยเราเล็งเห็นบทบาทของศูนย์การค้าที่มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างมาก รวมถึงในระยะยาวเราต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยมีศูนย์การค้าเป็นหนึ่งในแม่เหล็กหลักที่จะช่วยดึงดูดรายได้ให้กับประเทศ


นอกจากนี้ ทางสมาคมศูนย์การค้าไทยยังเสนอเพิ่มเติมว่า หากภาครัฐผลักดันและดำเนินการตามวิสัยทัศน์ที่นำเสนอดังกล่าวข้างต้น จะช่วยส่งเสริมและสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการธุรกิจศูนย์การค้าดำเนินตามแผนการลงทุนตามที่ได้วางไว้ที่กว่า 171,000 ล้านบาทภายใน 3 ปีต่อจากนี้ (ประมาณ 57,000 ล้านบาทต่อปี) ซึ่งจะนำไปสู่การจ้างงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสนับสนุนให้เกิดการกระจายรายได้ และความเป็นอยู่ที่ดีตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ

Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand


แชร์ :

You may also like