SCB 10X, ECG, Gobi Partners และ NVest Venture ประกาศลงทุนใน “MyCloudFulfillment” ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์ครบวงจรมูลค่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งเป้าพัฒนาระบบจัดการข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รับการขยายตัวของตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศ
โดยการลงทุนดังกล่าวถือเป็นรอบ Series A ของทาง MyCloudFulfillment ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซสามารถบริหารจัดสินค้า ขายสินค้าได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งนำดาต้าที่มีมาใช้ในการทำ Predictive Analytics ได้มากขึ้น รวมถึงมีแผนร่วมกันในการพัฒนาโซลูชันต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ social commerce ในอนาคตด้วย
ดร. อารักษ์ สุธีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด และ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงบทบาทของ SCB 10X ว่ามุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการคิดและทำในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นหรือมีมาก่อนผ่านการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ที่สามารถสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด
“ปัจจุบันประเทศไทยมีสตาร์ทอัพประมาณ 1,500 ราย แม้ว่าอีโคซิสเต็มของสตาร์ทอัพไทยจะอยู่ในระยะกำลังเติบโตและมีขนาดเล็กกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์และอินโดนีเซีย แต่ก็ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากทั้งจากการสนับสนุนจากนักลงทุนรวมถึงนโยบาย Thailand 4.0 ของภาครัฐ”
“นอกจากนี้ ช่วง Covid-19 เราเห็นภาพการเปลี่ยนผ่านของผู้บริโภคที่มุ่งสู่ดิจิทัลมากขึ้น ตัวเลขการซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซเติบโตแบบก้าวกระโดด ส่งผลให้ความต้องการด้านบริการคลังสินค้าออนไลน์แบบเต็มรูปแบบเพิ่มสูงตาม อีกทั้งผู้ขายออนไลน์มีความต้องการการจัดส่งแบบ tailor-made มากขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าของตน ดังนั้น สตาร์ทอัพอย่าง MyCloudFulfillment จึงได้รับผลดีและเติบโตตามการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ที่มีอัตราการเติบโตสูงและเป็นที่น่าจับตามอง”
ด้านคุณนิธิ สัจจทิพวรรณ กรรมการผู้จัดการ และผู้ร่วมก่อตั้ง MyCloudFulfillment บริษัท อี-เอ็มพาวเวอร์เมนท์ จำกัด กล่าวว่า “ตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตสูงถึง 26% โดยตลาดที่มีศักยภาพสูงอันดับหนึ่งได้แก่ อินโดนีเซีย มีอัตราการใช้จ่ายผ่านอีคอมเมิร์ซต่อผู้ใช้ (ARPU) อยู่ที่ 219 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 6,856 บาทต่อคนต่อปี รองลงมาคือประเทศไทย อยู่ที่ 215.67 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 6,752 บาทต่อคนต่อปี แต่อัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของไทยยังต่ำกว่าอินโดนีเซียอยู่มาก สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสในการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยที่ยังมีอีกมหาศาล”
“โดยเป้าหมายในการระดมทุนครั้งนี้คือการนำเงินไปพัฒนาระบบการจัดการด้านข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซสามารถบริหารจัดการสินค้า ขายสินค้าได้ง่ายขึ้น นำดาต้าที่มีมาใช้ในการทำ predictive analytics เพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจได้อย่างยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาศักยภาพด้านบริการแก่ลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มเติมในอนาคต รวมถึงขยายธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ในประเทศ และเตรียมพร้อมขยายตลาดสู่ระดับภูมิภาคอาเซียนต่อไป”
สำหรับการขยายตัวสู่ตลาดในภูมิภาคอาเซียนนั้น คุณนิธิเผยว่า กำลังมองประเทศเวียดนามเป็นประเทศแรก และคาดว่าจะนำระบบของ MyCloudFulfillment ไปเจาะตลาดเวียดนามได้ภายในปี 2022 หรืออีกสองปีข้างหน้า