คุณสุรยศ เอี่ยมละออ Head of Marketing TikTok ประเทศไทย
ติ๊กต่อก (TikTok) เปิดผลการดำเนินงานตลอด 11 เดือนของปี 2020 เผยยอดดาวน์โหลดครองแชมป์ต่อเนื่องทั้งบน AppStore และ Google Play Store เว้นเพียง “เดือนเมษายน” เดือนเดียวที่พ่ายให้กับ Zoom แอปพลิเคชันวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ชื่อดังแห่งยุค
ข้อมูลดังกล่าวอ้างอิงจาก Sensor Tower ที่พบว่า สถิติการดาวน์โหลดแอปวิดีโอสั้นอย่าง TikTok มีการเติบโตมาตลอด และสามารถทำยอดดาวน์โหลดแตะ 2 พันล้านครั้งได้สำเร็จในปีนี้ แต่หากจะมีเดือนที่ดร็อปลงก็คงเป็นเดือนเมษายน 2020 ที่ทั่วโลกเกิดการล็อกดาวน์ ทำให้แอปพลิเคชันด้านประชุมออนไลน์อย่าง Zoom ก้าวขึ้นแซงหน้า
ขอบคุณภาพจาก Sensor Tower
ในด้านของประเทศไทย ทีม TikTok ได้ออกมาเปิดเผยการเติบโตของแพลตฟอร์มตลอดปี 2020 โดยพบว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนคือเรื่องคอนเทนต์ที่ปี 2019 อาจมีไม่มากนักที่มียอดวิวเกือบถึงหลักพันล้านครั้ง แต่สำหรับในปี 2020 นี้ พบว่ามีถึงสองชิ้นที่้ก้าวข้ามสถิติดังกล่าวได้ นั่นคือ #TikTokUni ที่ทำยอดวิวได้ 10,700 ล้านครั้ง และ #เมษาAtHome ที่ทำยอดวิวไป 1,900 ล้านครั้ง
ส่วนความหลากหลายของคอนเทนต์ก็พบว่าเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากการเปิดเผยของคุณสุรยศ เอี่ยมละออ หัวหน้าฝ่ายการตลาด ของ TikTok ระบุว่า จากที่ในปีก่อนจะพบคอนเทนต์ประเภทร้องเพลง ลิปซิงค์เป็นหลัก ในปีนี้พบว่ามีทั้งคอนเทนต์ด้านการศึกษา (ผ่านแฮชแท็ก #TikTokUni) การวาดภาพ ฮาวทูต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย
ผู้บริหาร TikTok ยังบอกด้วยว่า ในปีนี้มีแบรนด์ดัง อย่าง iPhone 12 หัวเว่ย หลุยส์ วิคตอง มาม่า ฯลฯ เข้ามาใช้ TikTok แสดงโฆษณา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แบรนด์เหล่านั้นมีความเชื่อมั่นในแพลตฟอร์มมากขึ้นด้วยนั่นเอง
สำหรับข้อมูลผู้ใช้งาน TikTok ประเทศไทยนั้นพบว่า ปัจจุบันกลุ่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือกลุ่มอายุ 18 – 34 ปี โดยครองส่วนแบ่งกว่า 60% ของผู้ใช้ทั้งหมด ส่วนอีกประมาณ 40% ที่เหลือคือกลุ่มอายุระหว่าง 13 – 17 ปี และกลุ่ม 35 ปีขึ้นไป อย่างละเท่า ๆ กัน
สำหรับพื้นที่ที่ผู้ใช้งานอาศัยอยู่นั้น ผู้บริหาร TikTok บอกว่า กว่า 50% อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ
แผนรองรับการสร้างรายได้ “ครีเอเตอร์”
ปัจจุบัน TikTok ยังพบว่ามีแบรนด์สนใจอยากลงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม รวมถึงอยากใช้อินฟลูเอนเซอร์ ซึ่ง TikTok ได้มีการเปิด TikTok Creator Marketplace สำหรับเป็นพื้นที่เชื่อมต่อให้แบรนด์และครีเอเตอร์ได้ทำงานร่วมกัน รวมถึงเป็นโอกาสให้ครีเอเตอร์ได้สร้างรายได้บนแพลตฟอร์มด้วย
นอกจากนั้น ยังมีการเปิดตัวฟีเจอร์ Live ให้ครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตาม 1,000 คนขึ้นไป และต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถสตรีมมิ่งคอนเทนต์ได้ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับการใช้งานอีกทางหนึ่ง
ในด้านผู้ชม (ต้องอายุ 18 ปีขึ้นไป) ทางแพลตฟอร์มก็จะมี Coins และ Virtual Gifts ให้ซื้อไปแจกครีเอเตอร์ที่ตนเองชื่นชอบได้ โดยคุณสุรยศมองว่า นี่จะเป็นการสร้างรายได้ให้กับครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์ม ซึ่งสนนราคาของ Coins สามารถซื้อได้ตั้งแต่ราคา 29 บาทเป็นต้นไป (ได้ 65 เหรียญ และขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการด้วยว่าใช้ของค่ายไหน โดยหากเป็นแอนดรอยด์จะถูกกว่า iOS)
ตัวอย่างราคา Coin บน TikTok (ราคาอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการ, ประเทศที่ใช้บริการ ฯลฯ )
ส่วนใครที่ชอบทำคอนเทนต์ยาว ๆ ทางแพลตฟอร์มยังได้เปิดให้ครีเอเตอร์ทำคลิปวิดีโอความยาว 3 นาที มานำเสนอได้เช่นกัน แต่ต้องมีผู้ติดตามมากกว่า 5,000 คนขึ้นไปเท่านั้น
“สำหรับปี 2021 เราอยากให้ TikTok เป็นแพลตฟอร์มความบันเทิงที่สร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ในทุกกลุ่มอายุ และทุกประเภทความสนใจ ซึ่งจะทำให้แพลตฟอร์มมีการเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศต่อไป” คุณสุรยศกล่าวปิดท้าย