หลังจากปล่อยให้รอกันว่าบทสรุปของอดีต 7 ผู้ประกาศข่าวดังจากเนชั่น นำทีมโดย “กนก-ปอง อัญชะลี-ธีระ” จะไปอยู่ช่องไหน ล่าสุดก็น่าจะเป็นช่อง New TV อย่างที่ประกาศไว้ แต่ไปในฐานะ “เจ้าของ” ช่อง เมื่อหัวเรือใหญ่ “สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม” เจรจาซื้อกิจการด้วยตัวเลข 800 ล้านบาท
ตามรายงานข่าวของ The Key News ที่อ้างแหล่งข่าวจาก บริษัท ดีเอ็น บรอดคาสท์ จำกัด เจ้าของทีวีดิจิทัล New TV ระบุว่าฝั่งนิวทีวี ได้ขายไลเซ่นส์ ทีวีดิจิทัลที่เหลือเวลาอีก 8 ปี (ใบอนุญาตจบเดือนเมษายน ปี 2572) ให้กับกลุ่ม คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ด้วยมูลค่า 800 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้ทั้งคุณสนธิญาณ อดีตผู้บริหารและอดีต 7 ผู้ประกาศคนดัง อย่าง คุณกนก รัตน์วงศ์สกุล คุณธีระ ธัญไพบูลย์ คุณปอง อัญชะลี ไพรีรัก คุณสันติสุข มะโรงศรี คุณสถาพร เกื้อสกุล คุณวรเทพ สุวัฒนพิมพ์ และคุณอุบลรัตน์ เถาว์น้อย ได้ประกาศลาออกจากเนชั่นทีวี เพื่อเตรียมจะมาจัดรายการทาง New TV ในวันที่ 1 ธันวาคม แต่การเจรจายังไม่ลงตัว จึงต้องเลื่อนออกไปก่อน และน่าจะชัดเจนแล้วว่าทีมผู้ประกาศทั้งหมด จะเริ่มจัดรายการในวันที่ 21 ธันวาคม 2563
เจาะดีลซื้อ New TV ขายได้ราคามากกว่าคืนช่อง ให้ กสทช.
มาดูดีลการซื้อขาย New TV ที่ราคา 800 ล้านบาท ต้องถือว่าเป็นราคาที่ดีสำหรับ New TV เพราะหากย้อนไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ที่ กสทช. เปิดโอกาสให้ ทีวีดิจิทัล คืนใบอนุญาตได้นั้น New TV ประมูลทีวีดิจิทัล ประเภทช่องข่าว มาด้วยมูลค่า 1,310 ล้านบาท
หากเทียบเคียงกับช่องข่าว ที่มีการขอคืนใบอนุญาตในปี 2562 ไม่ว่าจะเป็น สปริงนิวส์ วอยซ์ทีวี และไบรท์ทีวี ปรากฏว่าได้เงินคืนประมาณช่องละ 400 ล้านบาท ปัจจุบัน New TV ยังค้างจ่ายค่าใบอนุญาตทีวีดิจิทัล งวด 4/2 กับ กสทช. อีกกว่า 100 ล้านบาท
มาดูผลประกอบการ ดีเอ็น บรอดคาสท์ ช่อง New TV ตลอดช่วง 6 ปี (2557-2562) ปรากฏตัวเลขขาดทุนสะสม 2,932 ล้านบาท
- ปี 2557 รายได้ 14 ล้านบาท ขาดทุน 426 ล้านบาท
- ปี 2558 รายได้ 75 ล้านบาท ขาดทุน 741 ล้านบาท
- ปี 2559 รายได้ 84 ล้านบาท ขาดทุน 636 ล้านบาท
- ปี 2560 รายได้ 124 ล้านบาท ขาดทุน 461 ล้านบาท
- ปี 2561 รายได้ 117 ล้านบาท ขาดทุน 401 ล้านบาท
- ปี 2562 รายได้ 124 ล้านบาท ขาดทุน 267 ล้านบาท
การเข้าไปซื้อกิจการทีวีดิจิทัล New TV ของกลุ่มคุณสนธิญาณ ในด้านกฎหมายที่กำกับดูแลโดย กสทช. ได้เอื้อให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล สามารถเปลี่ยนมือได้ จะเห็นได้ว่ามีการเข้ามาถือหุ้นของกลุ่มทุนใหญ่ในทีวีดิจิทัลตั้งแต่ปี 2559 อย่างกลุ่มไทยเบฟ เข้ามาถือหุ้น อมรินทร์ทีวี กลุ่มปราสาททองโอสถ ถือหุ้นช่องวัน
ราคาที่ซื้อกัน 800 ล้านบาท สัญญาใบอนุญาตเหลืออีก 8 ปี เฉลี่ยปีละ 100 ล้านบาท ในแง่การหารายได้ ช่วงแรกคงต้องมาจากลูกค้าตรง เพราะการซื้อโฆษณาในฝั่งเอเยนซี ต้องมีเรตติ้งและดูภาพลักษณ์คอนเทนท์ของสถานีก่อน และอีกแหล่งรายได้สำคัญ การปล่อยเช่าเวลาให้กับรายการโฮมช้อปปิ้ง
หลังจากนี้คงต้องมาจับตาการแข่งขันของสถานีข่าว ท่ามกลางการเมืองร้อนแรงว่า ช่องไหนจะกวาดเรตติ้งไปครอง เมื่อฟาก Nation TV เองก็เตรียมประกาศบิ๊กเซอร์ไพรส์ผังใหม่ ผู้ประกาศใหม่ ในวันที่ 15 ธันวาคมนี้เช่นกัน