ปี 2564 เห็นชัดขึ้นว่า “พฤกษา โฮลดิ้ง” เจ้าตลาดอสังหาฯ เริ่มเดินหน้าสร้างรายได้จากธุรกิจสุขภาพ นอกจากการเปิดให้บริการ โรงพยาบาลวิมุต ริมถนนพหลโยธิน ใกล้สี่แยกสะพานควาย โรงพยาบาลแห่งแรกของตัวเอง ขนาด 236 เตียง ที่เริ่มก่อสร้างในช่วงปลายปี 2560 ด้วยงบประมาณเกือบ 5,000 ล้านบาท และเตรียมเปิดให้บริการเฟสแรกเดือนพฤษภาคม 2564
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 คณะกรรมการ บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) ได้มีมติให้บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด บริษัทย่อยของพฤกษา เข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 27,143,601 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 51% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ บริษัท เทพธัญญภา จำกัด จากบริษัท วอล์คออน จำกัด ในราคาซื้อขายรวม 708.8 ล้านบาท
โดย บจ.เทพธัญญภา เป็นเจ้าของและประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเทพธารินทร์ ตั้งอยู่ย่านถนนพระราม 4 และถือหุ้นในบริษัทย่อยอีก 5 บริษัท ได้แก่
1. บริษัท ดีเอ็ม ฟู้ด จำกัด
2. บริษัท แลปพลัส วัน จำกัด
3. บริษัท อินเตอร์เวนชั่น คอนซัลติ้ง แอท เทพธารินทร์ ฮอสพิทอล จำกัด
4. บริษัท ศูนย์ทันตกรรมเทพธารินทร์ จำกัด
5. บริษัท คอนทัวส์เอ็กซเพรส (ประเทศไทย) จำกัด
รายได้ของ “เทพธัญญภา” ที่แจ้งกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 3 ปีย้อนหลังดังนี้
ปี 2560 รายได้ 624 ล้านบาท กำไร 40 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 649 ล้านบาท กำไร 23 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 647 ล้านบาท ขาดทุน 5 ล้านบาท
การขยายการลงทุนของพฤกษาสู่ธุรกิจสุขภาพ (Health Care) มูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท เป็นกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงจากธุรกิจอสังหาฯ เพื่อหาโอกาสสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) การเข้าสู่ธุรกิจโรงพยาบาลทั้งที่ลงทุนเอง โรงพยาบาลวิมุต และเข้าถือหุ้น 51% ในโรงพยาบาลเทพธารินทร์ นับเป็นการลงทุนในธุรกิจนอกอสังหาฯ ในรอบ 27 ปี วางเป้าหมายสร้างรายได้ประจำเป็นสัดส่วน 20% ของพฤกษา