รัฐประหารทำพิษ เทเลนอร์ (Telenor) ประกาศด้อยค่าสินทรัพย์การลงทุนในทางบัญชีในเมียนมาเต็มจำนวนที่ 6.5 พันล้านโครนในไตรมาสนี้ ส่งผลให้กลุ่มเทเลนอร์มีการบันทึกขาดทุนสุทธิในไตรมาสแรกไว้ที่ 3,889 ล้านโครน หรือประมาณ 14,557 ล้านบาทเลยทีเดียว
คุณซิกเว่ เบรกเก้ (Sigve Brekke) ประธานและซีอีโอกลุ่มเทเลนอร์ เผยว่า “เราเห็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ มีความไม่แน่นอน และเป็นประเด็นที่มีความกังวลในเมียนมาร์ นับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ซึ่งทางเทเลนอร์ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความมั่นคงของพนักงาน การให้บริการลูกค้าและความโปร่งใสอย่างต่อเนื่อง”
“ข้อจำกัดการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือที่ยืดเยื้อส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้คนในเมียนมา และเศรษฐกิจของประเทศซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้งานอินเทอร์เน็ต เทเลนอร์เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่คืนสถานะการสื่อสารในทันทีและเคารพในสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิมนุษยชน”
“เนื่องจากแนวโน้มสภาพเศรษฐกิจและธุรกิจที่เลวร้ายลง และสถานการณ์ด้านความปลอดภัยและสิทธิมนุษยชนที่แย่ลง เราเห็นข้อจำกัดในการพลิกฟื้นกลับมาในอนาคต ด้วยเหตุนี้เราจึงให้เทเลนอร์เมียนมาด้อยค่าสินทรัพย์การลงทุนในทางบัญชี เต็มจำนวนที่ 6.5 พันล้านโครน (NOK) ในไตรมาสนี้”
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นในการแถลงผลประกอบการไตรมาส 1 ของปี 2021 ซึ่งเมื่อรวมกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น ภาษีที่สูงขึ้นแล้ว ส่งผลให้ในไตรมาสนี้ ทางกลุ่มเทเลนอร์มีการบันทึกขาดทุนสุทธิไว้ที่ 3,889 ล้านโครน หรือประมาณ 14,557 ล้านบาท (สวนทางกับผลประกอบการไตรมาสแรกที่เคยทำได้เมื่อปี 2020 โดยกลุ่มเทเลนอร์สามารถทำกำไรได้ 698 ล้านโครน หรือประมาณ 2,612 ล้านบาท)
ส่วนการคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตนั้น ทางกลุ่มเทเลนอร์ยังได้ตัดประเทศเมียนมาออกไปด้วย โดยให้เหตุผลว่าไม่อาจคาดการณ์อนาคตที่ชัดเจนได้ โดยในไตรมาสล่าสุด เทเลนอร์บอกว่ามีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 5 ล้านราย คิดเป็นตัวเลขผู้ใช้งานทั้งหมดเมื่อสิ้นไตรมาสที่ 187 ล้านราย