“กันไว้ดีกว่าแก้” คำกล่าวนี้ คงไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพ ที่ต้นทุนสำหรับการรักษานั้นสูงกว่าการป้องกันแบบเทียบกันไม่ได้ ดังนั้น หากเราสามารถหาวิธีหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดโรคภัยไข้เจ็บ ย่อมต้องดีกว่าการตามแก้ไขหรือพยายามหาวิธีรักษาเมื่อเจ็บป่วยในภายหลัง เพราะแม้จะโชคดีรักษาหาย แต่ความบอบช้ำของอวัยวะต่างๆ ก็อาจไม่กลับมาสมบูรณ์เหมือนปกติ หรือหากโชคร้ายไม่สามารถรักษาให้หายได้ เพราะเข้าสู่กระบวนการรักษาที่ล่าช้าเกินไป ก็อาจนำมาซึ่งความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองอย่างแน่นอน
เช่นเดียวกับทิศทางของการเกิดโรคระบาดและโรคอุบัติใหม่ ที่มีแนวโน้มเกิดขึ้นบ่อยครั้งและมีความรุนแรงจากการกลายพันธุ์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะโรคติดต่อที่มีการแพร่เชื้อผ่านทางอากาศ ขณะที่สถานการณ์ในปัจจุบันอาจมองได้ว่าเราทุกคนกำลังเผชิญกับวิกฤติปัญหาด้านสุขภาพ จากสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงในการมีโอกาสเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดมาหลายรระลอกเกือบ 2 ปีแล้ว ขณะระบบสาธารณสุขของประเทศก็กำลังประสบกับภาวะยากลำบากในการรับมือต่อปัญหาที่เกิดขึ้น แม้จะวางแผนปูพรมฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนในวงกว้างแล้ว แต่ก็เรียกได้ว่ายังอยู่แค่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น
หลากหลายมาตรการเฝ้าระวังจึงถูกขับเคลื่อนและยกระดับความเข้มข้น เพื่อให้สามารถยับยั้งและควบคุมการแพร่ระบาดได้โดยเร็ว แต่สุดท้ายแล้ว วิธีที่ดีและมีประสิทธิภาพที่สุดคงหนีไม่พ้นการที่ทุกคนต้องป้องกัน ระมัดระวังตัวเองให้มากที่สุด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัยแบบ 100% เมื่ออยู่ในที่สาธารณะ การล้างมือบ่อยๆ ด้วยเจลแอลกอฮอลล์เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่ปนเปื้อนอยู่ตามพื้นผิววัสดุต่างๆ หรือการเว้นระยะห่างเพื่อลดโอกาสแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น ไม่เว้นแม้แต่คนในครอบครัว หากไม่อยากให้คนที่รักต้องเสี่ยง ก็จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด พูดคุย หรือรับประทานอาหารร่วมกันไปก่อน
แม้ว่าจะมีความเข้าใจในสถานการณ์และระมัดระวังตัวเองมากแค่ไหน แต่ในทางปฏิบัติคงเป็นไปได้ยากที่ทุกคนจะสามารถสวมหน้ากากอนามัยได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่ออยู่กับคนในครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงาน แต่หากมีวิธีช่วยกำจัดเชื้อโรคภายในบ้านหรือสถานที่ต่างๆ ให้กลายเป็น Safe Zone เพื่อมั่นใจได้ว่าสามารถสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยจากเชื้อโรคต่างๆ ได้ตลอดเวลา ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะนอกจากมีความปลอดภัยแล้ว ยังช่วยรักษาความสัมพันธ์และความใกล้ชิดของทุกคนในบ้านหรือภายในที่ทำงาน ให้มีความสุขจากการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันได้ตามปกติอีกด้วย
“Sol-n (โซล-เอ็น) UV Care254 Airflow” นวัตกรรมเครื่องฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ในอากาศได้แบบเรียลไทม์ จึงกลายเป็นคำตอบและทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการ และสอดคล้องกับสถานการณ์ในขณะนี้ได้อย่างตรงจุดมากที่สุด เนื่องจากเป็นนวัตกรรมเพียงหนึ่งเดียวในปัจจุบัน ที่สามารถฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ในอากาศได้ด้วยรังสี UVC ในระบบปิด จึงมีความปลอดภัยสูง และสามารถเปิดใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ทำให้อากาศโดยรอบมีความสะอาดปราศจากเชื้อโรคต่างๆ รวมไปถึงสามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด -19 ที่เป็นความกังวลของคนทั่วโลก ที่สำคัญที่สุดก็คือ นวัตกรรมชิ้นนี้ถูกคิดค้นและพัฒนาต่อยอดขึ้นโดยฝีมือของคนไทยเองทั้งหมดด้วย
การันตีประสิทธิภาพ ความปลอดภัย จาก 5 สถาบัน
สำหรับเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ โซล-เอ็น UV Care254 Airflow ผลิตและพัฒนาขึ้นโดย โซล-เอ็น เทค (Sol-n Tech) ทีม Tech Startup นักวิทยาศาสตร์ชาวไทยซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยา ได้ทำการคิดค้นและผลิตเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ ทั้งเชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัส รวมทั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยรังสี UVC แบบระบบปิด เป็นรายแรกของไทย ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้สำเร็จ จากการต่อยอดคุณสมบัติเด่นของรังสี UVC ที่ได้รับการยอมรับว่าสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ แต่ก็เป็นแสงที่มีอันตรายมากเช่นกัน เพราะหากสัมผัสโดยตรง อาจทำให้ตาบอด หรือเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ประกอบกับที่ผ่านมาเครื่องฆ่าเชื้อโรคด้วย UVC ที่ใช้กันอยู่มีแต่ระบบเปิดเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถนำไปใช้งานได้ในขณะที่มีคนหรือสัตว์เลี้ยงอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ส่งผลให้การฆ่าเชื้อในพื้นที่ต่างๆ จึงทำได้จำกัดเพียงแค่ในเวลาที่ไม่มีคนอยู่ หรือในช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น
แต่ด้วยการพัฒนานวัตกรรมมาเป็นระบบปิดของ โซล-เอ็น UV Care254 Airflow จึงช่วยให้ก้าวข้ามข้อจำกัดดังกล่าว และสามารถฆ่าเชื้อตามสถานที่ต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์ ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นบ้าน สถานที่ทำงาน ร้านอาหาร โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ อาคารสำนักงาน หรือสถานที่ปิดต่างๆ เพราะจะช่วยให้อากาศในบริเวณนั้นปราศจากเชื้อโรคอยู่ตลอดเวลา และยังช่วยลดความกังวลว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ด้วย จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีการป้องกันความเสี่ยงและลดโอกาสจากการเป็นผู้สัมผัสรับเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหากหลายๆ พื้นที่ของประเทศมีการฆ่าเชื้อโรคอย่างทั่วถึงและตลอดเวลา ก็อาจจะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด -19 ของประเทศไทยคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีได้เร็วยิ่งขึ้นด้วย
สำหรับประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคและเชื้อไวรัสโควิด -19 รวมทั้งความปลอดภัยจากรังสี UVC ของ โซล-เอ็น UV Care254 Airflow นั้น ผ่านการการันตีความเชื่อมั่นจาก 5 สถาบันชั้นนำระดับประเทศ ซึ่งทางด้านประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคได้ผ่านการทดสอบจากไบโอเทค หรือศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ และศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (PTEC) ว่ามีอัตราการฆ่าเชื้อโรคได้มากกว่า 99.99% สามารถฆ่าเชื้อโรคได้สูงกว่าระดับมาตรฐานถึง 40 เท่า รวมทั้งยังมีประสิทธิภาพในการกำจัดกลิ่นได้ด้วย เนื่องจากเชื้อโรคเป็นหนึ่งสาเหตุของการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์นั่นเอง
นอกจากนี้ ยังได้ผ่านการทดสอบจากสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) และเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ช่วยให้ลูกค้ามั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการใช้งานร่วมกับคนและสัตว์เลี้ยงได้ แม้ในขณะที่เครื่องกำลังทำงานอยู่ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นสำคัญที่ช่วยสร้างความแตกต่างจากตลาดได้อย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน UV Care254 Airflow ก็ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ตาม พรบ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2562
ขณะที่วิธีใช้งานก็สะดวกเพียง 3 ขั้นตอน คือ ติดตั้ง เสียบปลั๊ก และเปิดสวิตช์ จากนั้นเครื่องจะดูดอากาศโดยรอบที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไปในกล่องรังสี UVC เพื่อทำการฆ่าเชื้อบริเวณ Killing Zone ด้วยลิขสิทธิ์เฉพาะของ Sol-n Tech ที่มีประสิทธิภาพในการทำลายเชื้อโรคได้สูงกว่ามาตรฐานถึง 40 เท่า เทียบจากมาตรฐานปกติ โดยทำลายได้ ถึงขั้นระดับ DNA ในแบคทีเรีย และระดับ RNA ในเชื้อไวรัส ทำให้เซลล์เชื้อโรคอ่อนแอและตายในที่สุด ซึ่งสามารถฆ่าเชื้อได้ภายใน 1.6 วินาที จาก Killing Zone ก่อนจะปล่อยอากาศที่สะอาดปราศจากเชื้อโรคออกมาทางบริเวณ End Zone เพียงเท่านี้เราก็สามารถสร้างอากาศที่สะอาดปลอดภัย ปราศจากเชื้อโรคในบริเวณที่ต้องการได้ตลอดเวลาด้วยตัวเอง
เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศโซล-เอ็น UV Care254 Airflow มี 2 รูปแบบให้เลือกติดตั้งได้ตามความเหมาะสมในการนำไปใช้งาน ทั้งแบบติดตั้งบนผนัง ครอบคลุมพื้นที่อากาศในความสูงช่วงระยะการหายใจ และแบบมีขาตั้ง ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ มีคุณสมบัติในการลดความเสี่ยงการติดเชื้อในมุมอับของห้อง ซึ่งทั้ง 2 รูปแบบ ยังมีขนาดให้เลือกทั้ง 20 วัตต์ เพื่อการใช้งานภายในบ้าน และ 40 วัตต์ ที่เหมาะสำหรับใช้ในภาคธุรกิจ หรือร้านค้าต่างๆ โดยสินค้าจะมีการรับประกันการใช้งาน 1 ปี ขณะที่อายุการใช้งานของหลอดไฟอยู่ที่ 8,000 ชั่วโมง หรือสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ราว 1 -1.5 ปี นับว่ามีความคุ้มค่าในการใช้งานเป็นอย่างมาก
นวัตกรรมคนไทย เพื่อดูแลคนไทย
คุณมัตติกา เอาแสงดีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซล-เอ็น เทค จำกัด ผู้ผลิตและคิดค้นนวัตกรรมเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศของคนไทย ภายใต้แบรนด์ “Sol-n (โซล-เอ็น)” เปิดเผยว่า บริษัทพัฒนาเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ โซล-เอ็น UV Care 254 Airflow ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมคนไทย ดูแลคนไทย” ตามเป้าหมายหลักในการทำธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการคิดค้นและผลิตนวัตกรรมต่างๆ ขึ้นมาเพื่อดูแลสุขภาพคนไทย เน้นนวัตกรรมที่มีประโยชน์และใช้งานได้จริง โดยเฉพาะการเพิ่มคุณภาพความปลอดภัยให้กับสภาพอากาศที่ทุกคนต้องใช้หายใจร่วมกัน และพร้อมอยู่เคียงข้างแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงประชาชนคนไทยทุกคนให้ปลอดจากเชื้อโรคและเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อร่วมฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน
“การที่บริษัทสามารถคิดค้นเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ และสามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้แบบเรียลไทม์เป็นครั้งแรก นอกจากจะสร้างประโยชน์และคุณูปการให้กับคนไทยแล้ว ยังเป็นโอกาสในการสร้างชื่อและการยอมรับของประเทศไทยในเวทีระดับสากลอีกด้วย โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด แต่เราจะโฟกัสที่การดูแลคนไทยก่อนเป็นอันดับแรก เพราะถือเป็นนวัตกรรมร่วมกันของคนไทย ที่มีการออกแบบและผลิตขึ้นในประเทศทั้งหมด โดยประสิทธิภาพของโซล-เอ็น UV Care254 Airflow สามารถฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ได้ทุกประเภททั้งเชื้อรา ไวรัส แบคทีเรีย จึงไม่ต่างจากการใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อโรคอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ในอนาคตก็อาจมีเชื้อโรคสายพันธ์ใหม่ๆ พัฒนาขึ้นอีก จึงเท่ากับเป็นการเตรียมตัวป้องกันเพื่อรับมือกับโรคติดต่ออุบัติใหม่ต่างๆ ที่อาจะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า”
ด้านคุณฐิติวัฒน์ บรรจงกาลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กู๊ดเทค อินโนเวชั่น จำกัด ผู้จัดจำหน่าย (Distributor) ทั้งระบบออฟไลน์ – ออนไลน์ รวมทั้งเป็นผู้ทำการตลาดสร้างแบรนด์ Sol-n (โซล-เอ็น) กล่าวว่า เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ โซล-เอ็น UV Care254 Airflow เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากงานวิจัยและต่อยอดพัฒนาโดยคนไทย ซึ่งในปัจจุบันมีลูกค้าจำนวนมากที่ให้ความเชื่อมั่นต่อแบรนด์โซล-เอ็น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแพทย์ โรงพยาบาล โรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และสำนักงาน ทำให้เริ่มมีการสั่งซื้อ เข้ามามากขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะร้านอาหาร ผู้ประกอบการห้างร้าน เอสเอ็มอี ที่ติดตั้งโซล-เอ็น UV Care254 Airflow จะมีการออกใบ Certificate เพื่อรับรองว่าอากาศในพื้นที่นี้ ฆ่าเชื้อโดย UV Care254 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านอาหารนั้นๆ
“ปัจจุบันมีผู้ประกอบการชั้นนำหลายราย ที่ติดตั้งโซล-เอ็น UV Careป254 Airflow เช่น ร้านมนต์นมสด สำนักงานทนายความอนันต์ชัย หรือทนายกระดูกเหล็ก ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทจะเน้นทำตลาดกับลูกค้าในประเทศเป็นหลัก เพื่อกระจายการใช้งานของเครื่องฆ่าเชื้อโรคให้มีครอบคลุมทั้งประเทศ โดยล่าสุด บริษัทได้แต่งตั้งตัวแทนเพื่อช่วยทำตลาดรีเทล ได้แก่ บริษัท ไวส์ 32 มีเดีย แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัท เจพีเจ ไลฟ์ แอนด์ แคร์ จำกัด บริษัท กู้ดอินฟินิต จำกัด และ บริษัท เอทีเอส โซลูชั่น จำกัด ซึ่งหากสามารถสร้างตลาดที่แข็งแรงในประเทศได้แล้ว ก็มีแผนที่จะขยายการทำตลาดไปในต่างประเทศต่อไปในอนาคตอีกด้วย”
สำหรับผู้ที่สนใจต้องการติดตั้งเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ โซล-เอ็น UV Care254 Airflow สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าและแบรนด์โซล-เอ็น ได้ที่ https://goodtechthai.com/ หรือ Facebook: GoodTech Thailand และ Line: @goodtech