จากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันนี้ (9 กรกฎาคม) เกือบ 10,000 รายต่อวัน วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.ได้ประชุมแผนยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. รายงานข้อสรุปสุดท้ายจากการประชุม ศบค. วันนี้ (9 กรกฎาคม) ว่าได้ออกมาตรการคุมเข้มในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 10 จังหวัด แบ่งเป็น 6 จังหวัด กรุงเทพฯ และปริมณฑล คือ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม และ 4 จังหวัดภาคใต้ คือ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา บังคับใช้เป็นเวลา 14 วัน เริ่มวันจันทร์ 12 กรกฎาคม 2564 สรุปมาตรการได้ดังนี้
1. ทั้ง 10 จังหวัด ประชาชน “ห้าม” ออกจากที่พักอาศัย (เคอร์ฟิว) ตั้งแต่เวลา 21.00-4.00 น. ยกเว้นมีเหตุจำเป็น
2. ปิดสถานที่เสี่ยง (มาตรการ 6 จังหวัด กรุงเทพฯและปริมณฑล)
– ร้านนวดเพื่อสุขภาพ (ยกเว้นนวดเท้า) สปา ร้านเสริมความงาม
3. กำหนดเวลาปิดสถานประกอบการ (มาตรการสำหรับ 6 จังหวัด กรุงเทพฯและปริมณฑล)
– ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ อนุญาตให้เปิดได้เฉพาะ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ธนาคารและสถาบันการเงิน ร้านขายยาและเวชภัณฑ์ ร้านอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร รวมถึงสถานที่ฉีดวัคซีน ให้ปิดในเวลา 20.00 น.
– ร้านสะดวกซื้อ ตลาดโต้รุ่ง ปิด 20.00 น. ถึง 4.00 น. วันรุ่งขึ้น
– ร้านอาหาร ปิดเวลา 20.00 น. (ห้ามนั่งในร้าน ให้ซื้อกลับบ้าน ห้ามจำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์)
– ระบบขนส่งสาธารณะ ปิดบริการ 21.00 น. ถึง 3.00 น. วันรุ่งขึ้น
– สวนสาธารณะปิดเวลา 20.00 น.
.
4. จำกัดการเดินทาง
– ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ 10 จังหวัด “ห้าม” การเดินทางโดยไม่จำเป็น เจ้าหน้าที่เริ่มเฝ้าระวังตั้งจุดตรวจ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (10 กรกฎาคม)
– ห้ามกิจกรรมทางสังคมที่มีการรวมตัวเกิน 5 คน ที่ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ การประกอบอาชีพ กิจกรรมทางศาสนา กิจกรรมตามประเพณี
5. ขอให้หน่วยงานรัฐและเอกชน Work From Home มากที่สุด ยกเว้น งานบริการที่จำเป็นและงานที่เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภค ขอความร่วมมือประชาชนงดเดินทางโดยไม่จำเป็น ยกเว้น ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ไปโรงพยาบาล ไปฉีดวัคซีน
6. สถานศึกษาใช้การเรียนการสอนหรือ กิจกรรรมเพื่อการสื่อสารแบบทางไกล หรือด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์