บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ของมหาเศรษฐีอันดับ 5 จากการจัดอันดับนิตยสารฟอร์บส เอเชีย ปี 2564 คุณสารัชถ์ รัตนาวะดี ซึ่งเป็นทั้งผู้ถือหุ้นใหญ่ สัดส่วน 35.55% และซีอีโอ ปิดดีลซื้อหุ้น INTUCH รวมถือหุ้น 42.25%
หลังจาก GULF ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ของบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ได้ยื่นทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ INTUCH โดยสมัครใจ (Conditional Voluntary Tender Offer) จำนวน 2,599,720,233 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 81.07% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของกิจการ ในราคาหุ้นละ 65 บาท
หากผู้ถือหุ้น “ทุกราย” ขายหุ้นที่เหลือทั้งหมดจากการทำ tender offer จะต้องใช้เงินซื้อหุ้น 168,981 ล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงิน มีกำหนดระยะเวลารับซื้อหุ้น INTUCH 25 วันทำการ ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2564 ถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2564
เดิม GULF ถือหุ้น INTUCH อยู่แล้วจำนวน 606,878,314 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 18.93%
หลังสิ้นสุดการทำ tender offer เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564 GULF ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า สรุปมีหุ้นที่แสดงเจตนาขายทั้งหมด 747,874,638 หุ้น หรือสัดส่วน 23.32% โดย GULF รับซื้อไว้ทั้งหมดที่หุ้นละ 65 บาท รวมเป็นมูลค่า 48,611 ล้านบาท
ดังนั้นเมื่อรวมกับหุ้นเดิม ทำให้ GULF มีหุ้น INTUCH รวม 1,354,752,952 หุ้น หรือสัดส่วน 42.25%
ด้วยจำนวนหุ้นที่มีอยู่ 42.25% ทำให้ GULF ขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้น INTUCH อันดับ 1 แซงหน้า SINGTEL ที่ถือหุ้นอยู่ 21% ซึ่งประกาศไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่ขายให้
วัตถุประสงค์การเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ INTUCH เพราะเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ลงทุนหลากหลายธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม 5G เทคโนโลยี ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและธุรกิจอื่นๆ รวมถึงสตาร์ทอัป เช่น Fin Tech, Health Tech, Robotic Ed Tech และ E-commerce ซึ่งเป็นแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจในยุคดิจิทัล
GULF จึงเห็นว่า INTUCH เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจไปสู่ยุคดิจิทัล โดยสามารถเพิ่มมูลค่าจากการที่สามารถใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานเดิมที่มีอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลได้
ไทม์ไลน์ความเคลื่อนไหว GULF เข้าถือหุ้น INTUCH
วันที่ 22 มิถุนายน 2563 เข้าถือผู้หุ้น สัดส่วน 4.59% โดยให้เหตุผลว่าเป็นการบริหารเงินสด (Cash Flow) และกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ ทำให้บริษัทได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผลเฉลี่ยปีละ 4-5%
วันที่ 21 สิงหาคม 2563 เข้าถือหุ้นใน INTUCH เพิ่มเป็นสัดส่วน 7.99% ของหุ้นทั้งหมด
วันที่ 6 ตุลาคม 2563 เข้าซื้อหุ้น INTUCH เพิ่มเป็นสัดส่วน 10.00% ของหุ้นทั้งหมด
วันที่ 29 มกราคม 2564 เข้าซื้อหุ้น INTUCH เพิ่มเป็นไม่เกิน 15% ของหุ้นทั้งหมด
วันที่ 16 เมษายน 2564 เข้าถือหุ้น INTUCH เพิ่มเป็นสัดส่วน 18.93% ของหุ้นทั้งหมด
วันที่ 18 เมษายน 2564 คณะกรรมการ GULF อนุมัติลงทุนในหุ้นสามัญของ INTUCH ทั้งหมด (tender offer) หรือไม่เกิน 81.07% ของหุ้นทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 65 บาท
วันที่ 5 สิงหาคม 2564 จบ tender offer เข้าถือหุ้น INTUCH เพิ่มเป็นสัดส่วน 42.25% ของหุ้นทั้งหมด