เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า ยอมรับเงินคริปโตให้เป็นสิ่งที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ซึ่งส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐ และภาคธุรกิจเริ่มมีการปรับตัวกันอย่างคึกคัก กับการรับชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ด้วยบิทคอยน์ ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ในโลกยังไม่มีการยอมรับในข้อนี้ และการถือครองเงินบิทคอยน์ส่วนใหญ่ยังเป็นการถือเพื่อการลงทุนระยะยาววววววววววววววว
นโยบายของรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ยังทำให้ประชาชนในประเทศสามารถจ่ายภาษี ชำระค่าสาธารณูปโภค จ่ายซื้อสินค้าและอาหาร ฯลฯ ด้วยเงินคริปโตได้ นอกเหนือจากเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐที่เป็นสกุลเงินหลักของประเทศ
ไม่เพียงเท่านั้น ชาวเอลซัลวาดอร์ที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศและส่งเงินกลับมา (เช่น สหรัฐอเมริกา) ก็ได้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน เพราะบิทคอยน์สามารถปลดพันธนาการด้านค่าธรรมเนียมในการโอนเงินนี้ให้น้อยลงได้ และทำให้ประเทศมีอิสระในนโยบายทางการเงินของตัวเองมากขึ้นแทนที่จะต้องผูกพันกับนโยบายทางการเงินของสหรัฐอเมริกาไปเสียทั้งหมด
เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ประชาชน รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ยังมีการติดตั้งตู้เอทีเอ็มบิทคอยน์จำนวน 200 ตู้ทั่วประเทศ เพื่อใช้ในการเปลี่ยนเงินบิทคอยน์เป็นเงินดอลล่าร์สหรัฐด้วย โดยมีเงินกองทุนจากสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนา ( Banco de Desarrollo de la Republica) ของรัฐบาลมูลค่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐคอยซัพพอร์ตอยู่อีกที
เอลซัลวาดอร์ยังได้มีการอัดฉีดให้ประชาชนในประเทศคุ้นเคยกับบิทคอยน์มากขึ้นด้วยการใส่เงินบิทคอยน์มูลค่า 30 เหรียญสหรัฐลงในกระเป๋าเงินดิจิทัล Chivo ที่รัฐบาลให้บริการ ให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนใช้งานด้วย
นายิบ บูเคเล (Nayib Bukele) ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ กล่าวด้วยว่า นโยบายดังกล่าวอาจทำให้เอลซัลวาดอร์กลายเป็นฮับของการขุดเหมืองบิทคอยน์ได้ในอนาคต ซึ่งอาจช่วยเพิ่ม GDP ให้กับประเทศได้มากถึง 25%
El café y postrecito de la tarde también lo podes pagar con #Bitcoin. 😉☕🍰#BitcoinDay pic.twitter.com/SYI9xqHDXs
— Secretaría de Comunicaciones 🇸🇻 (@ComunicacionSV) September 7, 2021
แบรนด์ดังแห่รับบิทคอยน์
สิ่งที่ตามมาคือแบรนด์ดังอย่าง Starbucks, Pizza Hut และ McDonald’s ได้ขานรับนโยบายของรัฐบาลทันทีด้วยการประกาศรับบิทคอยน์ในการจ่ายชำระค่าอาหารในเอลซัลวาดอร์ ขณะที่แพลตฟอร์มอย่างทวิตเตอร์ก็มีผู้คนในเอลซัลวาดอร์จำนวนมากทวีตเกี่ยวกับการใช้บิทคอยน์ซื้ออาหารในเชนต่าง ๆ ออกมามากมาย
ยิ่งตกยิ่งต้องช้อป!
อย่างไรก็ดี ในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาของบิทคอยน์ร่วงอย่างรวดเร็วกว่า 17% ทวิตเตอร์ของนายนายิบ บูเคเล ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ เผยว่า เอลซัลวาดอร์ได้เข้าช้อนซื้อบิทคอยน์มาเพิ่มอีกเป็นจำนวน 150 เหรียญ และเมื่อรวมกับของเดิมที่มี ตอนนี้ประเทศถือครองเงินบิทคอยน์เอาไว้ 550 เหรียญแล้ว คิดเป็นมูลค่ากว่า 26 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
Buying the dip 😉
150 new coins added.#BitcoinDay #BTC🇸🇻
— Nayib Bukele 🇸🇻 (@nayibbukele) September 7, 2021
สิ่งที่ต้องจับตาดูต่อจากนี้ก็คือ เงินคริปโตไม่ได้มีแต่ด้านบวกเพียงอย่างเดียว เพราะในอีกด้าน เงินคริปโตก็คือแหล่งฟอกเงินชั้นดี ซึ่งการออกมายอมรับให้ใช้เงินคริปโตได้อย่างถูกกฎหมาย ก็อาจทำให้ประเทศเอลซัลวาดอร์กลายเป็น Tax Haven แห่งใหม่ไปด้วยก็เป็นได้
กระนั้น สิ่งที่สื่อตะวันตกวิเคราะห์เส้นทางของเอลซัลวาดอร์ที่ตัดสินใจยอมรับเงินคริปโตก็น่าสนใจ โดยสำนักข่าว Bloomberg มองว่า เอลซัลวาดอร์ทำไปเพราะไม่มีทางเลือกเหลือมากนัก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของประเทศนั้นได้ลงมาถึงจุดต่ำสุดในรอบ 40 ปี ทั้งจากพิษ Covid-19 การล็อกดาวน์ และความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาที่ย่ำแย่ ทำให้รัฐบาลต้องมองหาแหล่งรายได้ใหม่ที่จะเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจอีกครั้ง
ซึ่งบางที พวกเขาอาจพยายามพิสูจน์ว่า เงินคริปโตจะเป็นทางออกให้ประเทศครั้งใหม่ได้หรือไม่