แม้ว่าตอนนี้ราคา Bitcoin จะลดความร้อนแรงลงมาเล็กน้อย แต่ในต่างประเทศดูเหมือนว่าเงินคริปโตจะกลายเป็นสิ่งที่แบรนด์ต่าง ๆ ให้ความสนใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ Walmart ก็คือแบรนด์ล่าสุดที่ตัดสินใจเปิดตัวตู้ ATM สำหรับซื้อขาย Bitcoin แล้วถึง 200 จุด
สำหรับตู้ดังกล่าวเป็นความร่วมมือกันระหว่าง Walmart กับ Coinstar ที่ต้องการเปิดให้ผู้บริโภคทั่วไปสามารถใช้เงินสดซื้อเงินคริปโตที่ต้องการได้จากตู้ ATM นี้โดยตรง (หรือจริง ๆ อาจต้องเปลี่ยนชื่อเป็นตู้ BTM ที่ย่อมาจาก Bitcoin ATM แทนแล้วก็เป็นได้)
ส่วนรูปแบบการซื้อเงินคริปโตจากตู้คีออสนี้ ทาง Coindesk บอกว่า ผู้บริโภคเพียงใส่ธนบัตรลงไป จากนั้นจะมีการสร้างแอคเคาน์ Coinme ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์อีกเจ้าหนึ่งของ Coinstar ในฐานะผู้พัฒนา Crypto Wallet และระบบชำระเงินเพื่อคริปโตโดยเฉพาะ
ต่อด้วยการเข้าสู่กระบวนการ KYC (know-your-customer) เพื่อยืนยันตัวตน การซื้อเงินคริปโตจึงจะเสร็จสิ้น และทางระบบจะมีการคิดค่าธรรมเนียมในการซื้อเงินคริปโตด้วย 4% บวกกับค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนจากเงินสดไปเป็นคริปโต (Cash Exchange) อีก 7%
เตือนระวังเป็นจุดฟอกเงิน
ทั้งนี้ ตู้ Bitcoin ATM ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในหลายประเทศมีการติดตั้งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทาง Coinstar เองก็มีแผนว่าในปี 2020 บริษัทจะติดตั้งตู้ Coinme BTM นี้เพิ่มขึ้นสองเท่าจากที่เคยมีอยู่ 3,500 ตู้ด้วย โดยที่ผ่านมา Coinstar เคยจับมือกับห้างค้าปลีกต่าง ๆ เช่น Winn-Dixie, Fresco y Más, Harvey’s นำตู้ซื้อขายบิทคอยน์ไปติดตั้งมาแล้ว
การมาจับมือกับ Walmart จึงถือเป็นอีกหนึ่งสเต็ปของ Coinstar ในปี 2021 โดยจะใช้สาขาของ Walmart ที่มีมากกว่า 4,700 แห่งเป็นจุดกระจายตู้ Bitcoin ATM ให้ผู้บริโภคทั่วไปได้ทำความคุ้นเคย
อย่างไรก็ดี การกระจาย Bitcoin ATM ในวงกว้างก็สร้างความกังวลให้กับหลายฝ่ายเช่นกัน โดยความกังวลข้อหนึ่งก็คือการถูกนำไปใช้ฟอกเงิน และหนึ่งในผู้ที่ออกมาเตือนก็คือ DigitalMint ผู้ให้บริการ BTM ที่บอกว่า ห้างค้าปลีกที่จะจับมือกับบรรดาผู้ให้บริการบิทคอยน์ต้องมั่นใจได้ว่าพวกเขาน่าเชื่อถือมากพอ และมีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดี