สมการของการทำธุรกิจทุกวันนี้ ที่มีทั้งการแข่งขันสูง และสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การขยายฐานลูกค้าเพื่อเพิ่มศักยภาพทางการตลาดอาจทำคนเดียวได้ยาก จึงมีหลายๆแบรนด์ให้ความสนใจในการ ใช้กลยุทธ์ “Collaboration” ด้วยการจับมือกับแบรนด์พันธมิตร ไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน หรือข้ามกลุ่มธุรกิจก็ตาม เพื่อชนะใจผู้บริโภคในยุคที่ Demanding ซับซ้อน และทางเลือกมากมาย
จากแนวคิด “Beyond Coffee” ทำให้วันนี้ Café Amazon (คาเฟ่ อเมซอน) ก้าวไปไกลกว่าการเป็นร้านกาแฟ และมุ่งสร้างประสบการณ์เหนือระดับ ตั้งแต่การนำเสนอเครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เบเกอ บริการจากบาริสต้าที่ผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดี การพัฒนารูปแบบร้านในหลากหลายโมเดล และพัฒนาแอปพลิเคชัน “Café Amazon” ให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศ ตลอดจนการให้ความสำคัญกับชุมชน – สังคม และสิ่งแวดล้อม
เพื่อตอกย้ำแนวคิด “Beyond Coffee” ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ในปีนี้ “Café Amazon” ได้ใช้กลยุทธ์ “Collaboration” ผนึกกำลังกับแบรนด์ดังต่อเนื่องตลอดทั้งปี เช่น
– “ผลิตภัณฑ์นมเมจิ” (Meiji) ทำเมนูนมชมพู ทั้งป๊อปปี้ เลิฟ ครันช์ชี และสตรอว์เบอร์รี ช็อกโก ทวิสต์
– “สิงห์ เลมอน โซดา” (Singha Lemon Soda) ครีเอทเครื่องดื่มเลมอนสดชื่นรับช่วงซัมเมอร์
– “เป๊ปซี่” (Pepsi) พัฒนาชามะลิแบล็กพิงก์ เป็นเครื่องดื่มชาเขียวมะลิ ผสมกับสตรอว์เบอรีสคอซ และเพิ่มความซ่าสดชื่นด้วยเป๊ปซี่
– “นารายา” (NaRaYa) แบรนด์กระเป๋าผ้าสัญชาติไทย ร่วมกันทำสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษจากฝีมือของชุมชน มีทั้งกระเป๋าผ้า เพื่อลดการใช้ถุงพลาสติก และหน้ากากผ้า ของใช้คู่กายที่ขาดไม่ได้ของคนในยุคนี้
ขณะที่ล่าสุดเพื่อต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส และสร้างเซอร์ไพรส์ส่งท้ายปี 2021 พร้อมกับต้อนรับปี 2022 “Café Amazon” ได้เปิดตัวบิ๊กโปรเจคที่จะตอกย้ำความเป็นผู้นำเทรนด์ด้าน Collaboration ด้วยการจับมือกับ “KitKat” แบรนด์ช็อกโกแลตระดับโลก ร่วมกันครีเอทเมนูเครื่องดื่มช็อกโกแลตสุดคูล และเบเกอรีสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ทำมาจาก “KitKat” เอาใจเหล่า Chocolate Lover มาลิ้มลองได้ที่ร้าน Café Amazon
- “ICED DOUBLE CHOCO MINT with KitKat” เอาใจคนรักช็อกโกแลต ดาร์กช็อกเข้มข้น ผสานกลิ่มมินท์เรียกความสดชื่น เพิ่มเนื้อสัมผัสเคี้ยวเพลินๆ กับ คิทแคท ชังกี้ แสนอร่อย จำหน่ายในราคา 65 บาท
- “CARAMEL MOCHA FRAPPE with KitKat” เมนูปั่น เอาใจคนรักกาแฟหอมๆ เพิ่มความกลมกล่อมด้วยคาราเมล และเพิ่มความกรุบกรอบให้เคี้ยวสนุกขึ้นด้วย คิทแคท ชังกี้ จำหน่ายในราคา 70 บาท
- เมนูเบเกอรีแบบ Fresh Bakery “Crepe Cake made with KitKat Flavor and Salted Caramel Sauce” เครปเค้ก รสคิทแคท ราดซอสซอล์ทเท็ดคาราเมล ราคา 65 บาท และ “Chocolate Croissant made with KitKat Flavor” ครัวซองต์ช็อกโกแลต รสคิทแคท ราคา 45 บาท
- เมนูเบเกอรีแบบ Baked Bakery “Butter Cookie made with KitKat Spread” คุ้กกี้เนยสดรสคิทแคท ราคา 55 บาท และ “Sticky Butter Bread made with KitKat” ขนมปังเนยหนึบรสคิทแคท ราคา 55 บาท
“Collaboration” กลยุทธ์สร้าง Value Creation ให้กับแบรนด์ และผู้บริโภค
การทำ Collaboration ของ Café Amazon กับแบรนด์ดัง อย่างล่าสุดนี้กับ “KitKat” เป็นกลยุทธ์ที่สร้าง Win-Win ให้กับทั้ง 3 ฝ่ายคือ Café Amazon, แบรนด์พันธมิตร และผู้บริโภคใน 4 ด้านสำคัญดังนี้
1. ร่วมกันสร้าง “Value Creation” ด้วยการนำจุดแข็งของทั้งสองแบรนด์ มาสร้างสรรค์เป็นสิ่งใหม่ เพื่อนำเสนอ “คุณค่าใหม่” ที่ Beyond ไปกว่าโปรดักต์เดิมๆ
อย่างการจับมือกับ “KitKat” ครั้งนี้ เป็นการนำเอา Core Value ของแบรนด์ KitKat นั่นคือ ความเชี่ยวชาญด้านช็อกโกแลต มาผสานกับจุดแข็งของ “Café Amazon” นั้นคือ การพัฒนาเครื่องดื่มในหลากหลายเมนู มารวมพลังกัน เพื่อสร้างสรรค์เครื่องดื่มช็อกโกแลต และเบเกอรีช็อกโกแลตเมนูใหม่ ที่แตกต่างจากเครื่องดื่มช็อกโกแลต และเบเกอรีที่ใช้ส่วนผสมช็อกโกแลตแบบเดิมๆ
2. สร้างความแตกต่าง และส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภค
หัวใจของการทำตลาด นอกจากด้านคุณภาพ การเข้าถึงสินค้า-บริการได้สะดวก และราคาสมเหตุสมผลแล้ว แบรนด์จะเป็นที่ชนะใจผู้บริโภคได้ ต้องสร้าง “ความแตกต่าง” พร้อมกับส่งมอบ “ประสบการณ์ใหม่” ให้กับผู้บริโภค
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าโปรเจค Collaboration ระหว่าง “Café Amazon” กับ “KitKat” ไม่เพียงแต่ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เท่านั้น แต่ผลิตภัณฑ์นั้น ยังสามารถสร้างความแตกต่างให้กับทั้งสองแบรนด์ ขณะเดียวกันก็เป็นการส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าของทั้งสองแบรนด์ด้วยเช่นกัน
3. เข้าใจ Consumer Insight พัฒนาสินค้าตรงใจผู้บริโภค
การพัฒนาสินค้าและบริการ ให้ตรงใจผู้บริโภค ต้องเข้าใจใน Consumer Insight และนำข้อมูล Insight นั้นมาต่อยอดพัฒนาเป็นสินค้า หรือบริการ
อย่างโปรเจค Collab “Café Amazon” กับ “KitKat” ได้นำ Insight ผู้บริโภคมาเป็นโจทย์หลักของการพัฒนาเมนูเครื่องดื่ม และเบเกอรี โดยพบว่าจากสถานการณ์ COVID-19 สร้างผลกระทบไม่เพียงแต่สุขภาพกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึง “สุขภาพจิต” ด้วยเช่นกัน ที่ทำให้คนไทยมีความเครียดมากขึ้น และมีความสุขลดลง
ข้อมูลของ World Happiness Report (WHR) รายงานว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คนไทยมีความสุขลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 และในปี 2564 ที่กำลังจะหมดไป ประเทศไทยมีความสุขเป็นอันดับ 54 เป็นอันดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 11 ปี (2553-2563)
Café Amazon เล็งเห็นว่าถึงเวลาที่แบรนด์ควรต้องส่งมอบ “ความสุข” ให้กับผู้บริโภคในช่วงส่งท้ายปี จึงนำจุดแข็งของทั้ง Café Amazon และ KitKat มาต่อยอดออกมาเป็นเมนูเครื่องดื่ม และเบเกอรีทำมาจากช็อกโกแลต ซึ่งการรับประทานของว่าง – ขนมหวานเหล่านี้ ก็ช่วยให้สามารถผ่อนคลายความเครียดได้
4. ขยายฐานแฟนคลับของกันและกัน
หนึ่งในจุดประสงค์ของกลยุทธ์ Collaboration คือ การขยายฐานลูกค้ากว้างขึ้น โดยเจาะไปยังกลุ่มลูกค้าของแบรนด์พาร์ทเนอร์ ยิ่งแบรนด์ไหนที่มีฐานลูกค้าเหนียวแน่น หรือมี “แฟนคลับ” กลุ่มใหญ่ ย่อมแสดงว่าแบรนด์นั้นมี “Brand Love” สูง
ทั้ง “Café Amazon” และ “KitKat” ต่างมีฐานแฟนคลับที่รักในแบรนด์จำนวนมาก เห็นได้จากทุกครั้งที่ Café Amazon ออกเมนูใหม่ มีคอลเลคชั่น Merchandise ใหม่ ตลอดจนกิจกรรมการตลาด จะได้การตอบรับจากผู้บริโภคจำนวนมาก ซึ่งหลายคนก็เป็นกลุ่มลูกค้าประจำ และแฟนคลับตัวยง
เช่นเดียวกับ “KitKat” ทุกครั้งที่มีการสื่อสาร ออกคอลเลคชั่นของสะสม รวมถึงจับมือกับแบรนด์ต่างๆ ก็จะได้รับความนิยมจากลูกค้าจำนวนมากเช่นกัน เพราะฉะนั้นความร่วมมือในบิ๊กโปรเจคครั้งนี้ จึงเป็นการขยายฐานลูกค้า และฐานแฟนคลับของกันและกันให้ใหญ่ขึ้น
การจับมือกับแบรนด์ KitKat ยังไม่จบแค่เครื่องดื่มและเบเกอรีเพียงเท่านี้ เพราะทั้ง Café Amazon และ KitKat เตรียมขยายความร่วมมือมากขึ้น ส่วนจะเป็นอะไรนั้น คงต้องรอติดตามกันต่อไป แต่ตอนนี้พบกับเมนูแห่งความสุขส่งท้ายปี 2021 ต้อนรับปี 2022 ได้ที่ร้าน Café Amazon ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 – 31 มกราคม 2564