HomeInsightส่องเทรนด์อสังหาฯ 65 พีเพิลสเคป ชี้ “AI-Bitcoin-Cryptocurrency” มาแรง ตอบโจทย์การอยู่อาศัยวิถีใหม่

ส่องเทรนด์อสังหาฯ 65 พีเพิลสเคป ชี้ “AI-Bitcoin-Cryptocurrency” มาแรง ตอบโจทย์การอยู่อาศัยวิถีใหม่

แชร์ :

เรียกได้ว่าเป็นอีกปีที่ “สาหัส” สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะต้องเจอโจทย์หินจากหลากหลายปัจจัยลบ ทั้งสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ที่ลากยาวมาตั้งแต่ปี 2563 จนเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่อย่างไม่เคยมีมาก่อน รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ฉุดกำลังซื้อลดลงต่อเนื่อง

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ขณะที่ในปี 2565 ยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ไม่รู้ว่าจะกลับมาระบาดหนักหรือไม่ อีกทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคยังหันหน้าเข้าสู่โลกดิจิทัล และมองหาประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิมมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงทุกฝีก้าว จากเวทีสัมมนาออนไลน์ “Transforming Real Estate Thailand Forum 2021” ซึ่งจัดโดย บริษัท พีเพิลสเคป จำกัด ในเครือ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้รวบรวมกูรูในวงการและนักการตลาด มาแบ่งปันข้อมูลเพื่อให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ได้ก้าวทันภูมิทัศน์ธุรกิจในยุค Next Normal โดยสามารถสรุปเป็น 3 เทรนด์ใหญ่ และแนวโน้มตลาดที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ต้องเกาะติด ดังนี้

1.HYBRID STRUCTURE เทรนด์องค์กรยุค Now Normal

สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้คนคุ้นชินกับออนไลน์ และ AI มากขึ้น หลายองค์กรนำ AI เข้ามาใช้ในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน มีการจ้างงานในรูปแบบพนักงานชั่วคราวมากขึ้น ส่งผลให้รูปแบบโครงสร้างองค์กรในยุค Now Normal เปลี่ยนไปสู่โครงสร้างองค์กรแบบ HYBRID STRUCTURE ที่มีความยืดหยุ่นและคล่องตัว สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา

โดย คุณธีริศรา พวงประโคน กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเพิลสเคป จำกัด หรือ PEOPLESCAPE ในเครือ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บอกว่า เทรนด์ดังกล่าวเข้ามาตอบโจทย์ในเรื่อง Digital Disruption ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา โดยเป็นการผสมผสานโครงสร้างแบบเดิมคือ นำเรื่องของลำดับขั้นในการบริหารจัดการรวมเข้ากับการทำงานแบบไม่มีใครเป็นหัวหน้าใคร (Flat Team) ทุกคนในทีมสามารถปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ได้ตามความถนัดและความสามารถของตนเองได้อย่างต่อเนื่องและตลอดเวลา รวมทั้งเรื่องการจ้างงานพนักงานชั่วคราวที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในงานที่ต้องการความชำนาญเฉพาะทาง

ซึ่งการที่จะทำให้โครงสร้างองค์กรแบบ HYBRID STRUDTURE ประสบความสำเร็จ ต้องทำควบคู่กับการรีสกิล (Reskill) และอัพสกิล (Upskill) ในแบบบูรณาการ โดยการเสริมทักษะใหม่ๆ ที่เหมาะกับการใช้งาน พร้อมกับการพัฒนาทักษะที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น

2.AI ตัวช่วยสำคัญในงานออกแบบ

AI หรือปัญญาประดิษฐ์ จะเข้ามามีบทบาทในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ตั้งแต่กระบวนการคัดสรรวัสดุ กระบวนการก่อสร้าง งานบริการหลังการขาย และจะยิ่งทวีความสำคัญเพิ่มขึ้นในอนาคต เพราะ AI จะเข้ามาช่วยในส่วนงานที่ต้องใช้เวลานาน น่าเบื่อ และมีความเสี่ยงสูง โดย คุณจุลเกียรติ สินชัยชูเกียรติ ผู้ก่อตั้ง WAZZADU.COM และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บารามีซี่ กรุ๊ป ประเมินว่า AI ยังเข้ามาช่วยเรื่องงานวัสดุและงานออกแบบได้เป็นอย่างดี สะท้อนได้จากเว็บไซต์ Wazzadu.com และ Wazzadu App ที่มีผู้เข้ามาใช้บริการจำนวนกว่า 1,000 โครงการต่อปี

ที่ผ่านมาปัญหาส่วนใหญ่ของสถาปนิกคือ เรื่องการดูแลจัดการแคตตาล็อกของตกแต่ง ตลอดจนการค้นหาไอเดียใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่ง Wazzadu.com สามารถเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ โดยพัฒนาเทคโนโลยี AI Visual Recognition ขึ้นมา เพื่อช่วยค้นหาเทียบเคียงวัสดุตกแต่งที่ใกล้เคียงภาพถ่าย หรือภาพสามมิติที่เป็นต้นแบบ โดยระบบ AI นี้จะเรียนรู้วัสดุประเภทต่างๆ และนำไปเทียบเคียงกับวัสดุที่มีลักษณะใกล้เคียงกับของซัพพลายเออร์ที่อยู่ในระบบ ช่วยประหยัดเวลาและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น

3.Bitcoin & Cryptocurrency การปฎิวัติเพื่ออสังหาริมทรัพย์

ในยุคที่เทคโนโลยี Blockchain เข้ามามีอิทธิพลและพลิกโฉมให้สามารถแลกเปลี่ยนมูลค่าบนอินเทอร์เน็ตได้ (Internet of Value) ทำให้การทำธุรกิจจะยึดสูตรสำเร็จในแบบเดิมๆ ไม่ได้อีกต่อไป โดยในวงการอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีการนำคอนโดฯ และอาคารมาแปลงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบ Fractional Ownership แบ่งกรรมสิทธิ์ห้องพักให้มีเจ้าของร่วมกันได้หลายคน แล้วปันผลประโยชน์จากค่าเช่าตามสัดส่วนการลงทุน ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนเป็นเจ้าของห้องพักได้โดยไม่ต้องจ่ายเต็มจำนวนมูลค่าสินทรัพย์นั้นๆ

คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บิทคัพ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ บอกว่า การแปลงสินทรัพย์ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล (Tokenization) สามารถทำธุรกรรมได้ตลอดเวลา ซึ่งมีความน่าเชื่อถือ และมีมูลค่าเท่ากับมูลค่าในโลกจริง ต่างจากธุรกรรมทางการเงินแบบเดิมที่ยังมีข้อจำกัดด้านเวลาและค่าใช้จ่าย ซึ่งในอนาคตอาจมีการผสานการทำงานร่วมกันระหว่าง Blockchain และ IoT ให้ผู้อยู่อาศัยใช้ชีวิตได้สะดวกสบายมากขึ้น

ปี 65 ตลาดอสังหาฯ พบปัจจัยบวก

แม้ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 อาจจะไม่สดใส คุณอลงกต บุญมาสุข ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส บริษัท ธนาคารกสิกรไทย จํากัด (มหาชน) และเลขาธิการสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย มองว่า กิจกรรมการซื้อที่อยู่อาศัยทั่วประเทศอาจหดตัวถึงกว่า 30% ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อของประชาชน แต่หากมองภาพรวมของตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัย พบว่า ณ เดือนสิงหาคม 2564 ยอดคงค้างสินเชื่อบ้านของธนาคารพานิชย์ไทยมีอัตราการเติบโต 6.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินเชื่อบ้านระดับราคามากกว่า 3 ล้านบาทยังคงขยายตัวต่อเนื่อง

สำหรับในปี 2565 ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากมีปัจจัยหนุน อาทิ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ดีขึ้น เศรษฐกิจเริ่มกลับมาขับเคลื่อนอีกครั้ง ตลอดจนมาตรการผ่อนคลาย LTV ของธปท.สำหรับที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 เป็นต้นไป จากเดิม 70-90% เป็น 100% ขณะที่ในสัญญาซื้อหลังแรกยังคงเดิมอยู่ที่ 100% พร้อมให้เงินกู้เพิ่มอีก 10% เพื่อใช้ในการซื้อเฟอร์นิเจอร์ (รวม 110% ของมูลค่าหลักประกัน) โดยมีผลบังคับใช้ถึง 31 ธ.ค.2565 จะเป็นการช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้เป็นอย่างดี ทำให้คาดการณ์ได้ว่าตลาดสินเชื่อบ้านปี 2565 จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 0.3-0.7% แต่ก็ต้องระมัดระวังเรื่อง Supply ที่อยู่อาศัยรอขายสะสมกว่า 4 แสนหน่วย และภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของภาคครัวเรือนยังอยู่ในภาวะเปราะบาง

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทรนด์และแนวโน้มตลาดอสังหาฯ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เตรียมอาวุธรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในปี 2565

Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand


แชร์ :

You may also like