ความใส่ใจในที่อยู่อาศัยของคนญี่ปุ่น ทำให้พวกเขาสามารถแปลงพื้นที่ชนาดเล็ก แต่สร้างประโยชน์ใช้สอยได้อย่างมหาศาล ถูกนำมาปรับใช้กับการออกแบบตกแต่งคอนโดในไทย ที่นับวันขนาดพื้นที่จะสวนทางกับราคามากขึ้นเรื่อยๆ ในงานสัมมนา Every Inch Matters จัดโดย บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ที่ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง และทีมดีไซเนอร์ของ บริษัท Mitsubishi Jisho Sekkei ซึ่งเป็นบริษัทสถาปนิกมืออาชีพแถวหน้าของโลก เปิดเผยถึง 6 แนวคิดการออกแบบของญี่ปุ่น ที่สามารถผสานกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนไทย เพื่อให้เกิดความสุขของการใช้ชีวิตในมิติใหม่ภายใต้การใช้งานได้อย่างคุ้มค่าสูงสุด
1) Japanese Traditional Design – Spirit of Simplicity น้อยแต่มาก เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สะท้อนแนวคิดการออกแบบสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่น เกิดจากการผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์และขนบประเพณีได้อย่างลงตัว ก่อนให้เกิดการออกแบบที่เรียบง่ายทั้งรูปทรงและการใช้งานกลมกลืนกับธรรมชาติ สีสันไม่ฉูดฉาด
2) ENGAWA – Inside Out, Outside In เป็นการออกแบบที่เน้นการเชื่อมโยงพื้นที่ภายนอกและภายในให้มีความสัมพันธ์ที่ต่อเนื่องกัน ทำให้พื้นที่ในร่มและกลางแจ้ง อย่างเช่น พื้นที่ของสวนธรรมชาติ ปราศจากสิ่งขวางกั้น เป็นการเพิ่มพื้นที่ภายในบ้านให้กว้างขึ้นอีกด้วย
3) KOHJI & SHOJI เป็นการนำ Grid & Line มาประยุกต์ในงานการออกแบบบ้าน ช่วยให้มุมมองการจัดตำแหน่งแนวผนัง หน้าต่ง ประตู ก่อให้เกิดงานดีไซน์ที่มีความลงตัว ความเรียบร้อย และมีความสมดุลย์มากขึ้น โดย KOHJI หมายถึงจังหวะ เส้นไม้ระแนงที่ซ้ำกันต่อเนื่องแบบเป็นจังหวะ และ SHOJI หมายถึง หน้าต่างหรือประตูบานเลื่อนที่อยู่คู่กับเสื่อทาทามิ
4) WABI SABI – Incomplete Beauty หลักการออกแบบภายใต้ความงามที่ไม่สมบูรณ์ เป็นการให้ความสำคัญกับรายละเอียดในอีกมิติ อาทิ ความไม่คงทนถาวร ไม่ยึดติดในคติแบบแผน แต่ช่วยทำให้พื้นที่นั้นๆมีเสน่ห์ที่โดดเด่นอย่างเป็นเอกลักษณ์
5) SPACE PLANNING เลย์เอาต์ห้องของคนญี่ปุ่นมีการแบ่งแยกสัดส่วนระหว่าง Public Space และ Private Space อย่างชัดเจน โดยส่วน Public Space มักอยู่ด้านหน้าของแปลนห้อง และ Private Space นำไปไว้อยู่ในสุดของห้องเพื่อความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้าน
6) FUNCTIONAL DESIGN DETAIL คนญี่ปุ่นใส่ใจในทุกรายละเอียด จึงทำให้อุปกรณ์อย่างหนึ่งมีฟังกชั่นการทำงานได้หลากหลาย อาทิ การติดตั้ง CDU (Condensing Unit) ของเครื่องปรับอากาศหรือฮีทเตอร์ ในการปล่อยคามร้อนในห้องน้ำ ทำให้ผู้อาศัยสามารถตากผ้าในห้องได้
7) APPEALING CURVE เป็นการใช้เส้นโค้งเพื่อให้ความรู้สึกถึงความน่าค้นหาและการรอคอยเพื่อค้นพบอะไรบ้างอย่าง
8) LIGHT & SHADOW เทคนิคการให้แสงและเงา เพื่อชวนค้นหา ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นแรงดึงดูดที่สำคัญในการดึงผู้คนให้สนใจและอยากเข้าไปค้นหาคำตอบในตัวงานว่ามีความสวยงามมากน้อยเพียงใด
ผู้บรรยาย 2 กูรูชื่อดัง จากประเทศญี่ปุ่น มร.เททสึยะ โอคุสะ ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ (นานาชาติ) และ มร.โชอิจิโระ โทบะ หัวหน้าฝ่ายออกแบบ บริษัท มิตซูบิชิ จิโช เซคเคอิ จำกัด ซึ่งมีผลงานการออกแบบชื่อดังอย่างเช่น โรงแรมเพนนินซูล่า ย่านกินซ่า และจัดวางผังเมืองเขตมารุโนะอุจิ (Marunouchi) แหล่งธุรกิจสำคัญใจกลางกรุงโตเกียว ….เตรียมพบผลงาน 2 กูรู ได้ที่ Rethink Space ณ ชั้น 1 สยามพารากอน วันที่ 15-18 พฤษภาคมนี้