กรุงเทพประกันชีวิต ประกาศแผน 3 ปีข้างหน้า (2565-2567) ปักธงผู้นำด้านการบริการสุขภาพเป็นเลิศและการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรมชัดเจน “ซีอีโอ” เผยเห็นโอกาสความต้องการสุขภาพเพิ่มขึ้น เตรียมส่งสินค้าใหม่จับตลาด-เศรษฐกิจไทยเป็นบวก ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น เป็นโอกาสของประกันสะสมทรัพย์และประกันชีวิตควบการลงทุน ชี้ทุกกระบวนการรับประกันจะอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ภายใน 5 ปี
นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA เปิดเผยว่า ภาพรวมช่วง 11 เดือนแรกของปี 2564 เบี้ยประกันชีวิตรับรวมทั้งระบบอยู่ที่ 545,039 ล้านบาท เติบโต 2.56% โดยเป็นการเติบโตของกรมธรรม์ประกันสุขภาพ (Health Insurance) และประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-Linked) แบบชำระเบี้ยครั้งเดียว ผลการดำเนินงานของกรุงเทพประกันชีวิต สามารถเติบโตได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวม
สำหรับปี 2565 กรุงเทพประกันชีวิตมองเห็นโอกาสจากความต้องการประกันสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดจากแนวโน้มค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง การรับรู้ข้อมูลการเจ็บป่วยและความยุ่งยากในการเข้ารับการรักษากรณีติดเชื้อไวรัส โควิด-19 จากสวัสดิการพื้นฐาน และความกังวลเกี่ยวกับโรคร้ายแรงต่าง ๆ ประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจไทยที่เป็นบวก ขณะที่แนวโน้มเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Yield Curve) ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามเทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้น เป็นโอกาสสำหรับผลิตภัณฑ์ประกันสะสมทรัพย์และประกันชีวิตควบการลงทุนอีกด้วย และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) จะช่วยสนับสนุนให้คนไทยมีความจำเป็นในการวางแผนการเงินเพื่อเกษียณมากขึ้นด้วย
และในปีที่ผ่านมา บริษัทกรุงเทพประกันชีวิต เป็น 1 ใน 146 บริษัทในรายชื่อหุ้นยั่งยืน และได้รับรางวัลบริษัทประกันชีวิตที่มีการบริหารดีเด่น ปี 2564 อันดับ 2 จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) และรางวัลสุดยอดองค์กรครองใจผู้บริโภค “Most Admired Company Award” จาก Business+ และองค์กรชั้นนำระดับภูมิภาคเอเชีย “Asia’s Best Employer Brand Awards 2021″ และ HR Excellence Awards 2021 Thailand : Leadership Development ระดับ Bronze
ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันเพื่อการเดินทางสู่อนาคตที่ยั่งยืน (A Journey Towards Sustainable Future) บริษัทจึงได้กำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยมุ่งเน้น 5 มิติหลัก ดังนี้
1. Health บริการด้านสุขภาพที่เป็นเลิศ – มุ่งพัฒนาสินค้าใหม่ เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคน ซึ่งแผนใหม่ที่ได้วางขายคือValue Health แผนความคุ้มครองด้านสุขภาพ เพื่อความคุ้มครองที่เพิ่มจากที่มีอยู่ และ Value Health แผนความคุ้มครองด้านสุขภาพเด็ก
2. Wealth ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่เข้าใจได้ง่ายสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม – เช่น ประกันชีวิตชนิดมีเงินปันผล, ประกันชีวิตควบการลงทุน
3. Digital Insurance ทุกกระบวนการรับประกัน ในรูปแบบดิจิทัล ภายใน 5 ปี – 100% Digital ตั้งแต่กระบวนการขาย การออกกรมธรรม์ การบริการกรมธรรม์ และการต่ออายุกรมธรรม์ รวมไปถึงส่งเสริมการใช้งานแอปพลิเคชันสำหรับลูกค้า BLA Happy Life App และ Bangkok Life GMC App โดยทางบริษัทจะเริ่มงดชำระเบี้ยด้วยเงินสด ตั้งแต่เมษายน 2565 เป็นต้นไป
4. Channel การเพิ่มช่องทางการขาย – พัฒนาคุณภาพช่องทางตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน สู่การเป็นผู้บริหารมืออาชีพ ผ่านโครงการSmart Agent, Smart FA และ Smart Leader อีกทั้งสร้างความแข็งแกร่งในช่องทางธนาคารและพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง และมีเป้าหมายมุ่งสู่ผู้นำช่องทางขายประกันออนไลน์
5. Social Responsibility ขยายบทบาทและหน้าที่ต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม – ให้ความรู้ทางการเงินเพื่อวางแผนชีวิตให้มั่นคง ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ความต้องการสังคม จิตสำนึกการดูแลสิ่งแวดล้อมแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย บริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน
สำหรับปีนี้ พอร์ตการลงทุนยังคงสัดส่วนเดิมคือ 80% ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้ ส่วนอีก 20% ลงทุนในหุ้น, REIT และสินเชื่อ รวมทั้งเริ่มมีการลงทุนในหุ้นนอกตลาด (Private Equity) ซึ่งแต่เดิมที่บริษัทเน้นการลงทุนเฉพาะในประเทศ ปัจจุบันก็เริ่มมีการขยายไปต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยในปีนี้คาดการณ์ว่าตลาดจะมีความผันผวนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามในการเลือกหุ้น ก็จะดูที่ปัจจัยพื้นฐานหุ้นเป็นหลัก เน้นที่ Value Stock และรอจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าลงทุน