ปี 2565 แม้ยังต้องเจอกับสถานการณ์โควิด-19 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แต่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทุกรายก็เห็นตรงกันว่า ธุรกิจผ่าน “จุดต่ำสุด” ไปแล้ว เช่นเดียวกับ “แอสเซทไวส์” (AssetWise) มองโอกาสฟ้าหลังฝน ประกาศเปิดตัว 7 โครงการใหม่ ทั้งคอนโด-บ้านเดี่ยว มูลค่า 12,400 ล้านบาท
คุณกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW กล่าวว่าตลาดอสังหาฯ ปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เชื่อว่ากำลังซื้ออสังหาฯ จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
แอสเซทไวส์ มองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการขยายธุรกิจเชิงรุก ปี 2565 จึงเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 7 โครงการ มูลค่ารวม 12,400 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 5 โครงการ และบ้านเดี่ยว 2 โครงการ หรือแบ่งเป็นสัดส่วนคอนโด 60% และบ้าน 40% ปีนี้วางเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 10,000 ล้านบาท
สำหรับ 7 โครงการใหม่มีทำเลดังนี้
1. คอนโด Atmoz คาแนล รังสิต : ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีรังสิต มูลค่าโคงการ 1,650 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท
2. คอนโด Atmoz โอเอซิส อ่อนนุช : ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีนุช 450 เมตร มูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท
3. คอนโด Atmoz โฟลว์ มีนบุรี : ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ มูคลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.xx ล้านบาท
4. คอนโด Atmoz พอร์เทรต ศรีสมาน : ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู (ส่วนต่อขยาย) สถานีเมืองทองธานี มูลค่าโครงการ 1,150 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.xx ล้านบาท
5. คอนโด Kave ซีด เกษตร : แคมปัสคอนโด ติดรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานี ม.เกษตร มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.xx ล้านบาท
6. บ้านเดี่ยว/บ้านแฝด ESTA รังสิต คลอง 2 : จำนวน 153 ยูนิต มูลค่าโครงการ 680 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 3.xx ล้านบาท
7. บ้านหรู The Honor โยธินพัฒนา : บ้านหรู 3 ชั้น ระดับซูเปอร์ ลักชัวรี่ รูปแบบ Pool Villa ทุกหลัง มูลค่าโครงการ 4,170 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 29 ล้านบาท
ปีนี้ยังเน้นคอนโดแบรนด์เรือธง Atmoz ในทำเลใกล้รถไฟฟ้าสายต่างๆ รวมทั้งคอนโดแบรด์ Kave ในทำเลใกล้ ม.เกษตร เจาะกลุ่มนักศึกษา, คนรุ่นใหม่ และนักลงทุนปล่อยเช่า ทุกโครงการชูไฮไลต์พื้นที่ “ส่วนกลาง” ขนาดใหญ่ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ชีวิตในโซนต่างๆ
จากประสบการณ์และความเข้าใจไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของกลุ่มลูกค้า ในยุค New Normal ทำให้ผู้บริโภคมองหาที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นสัดส่วน ปีนี้แอสเซทไวส์ จึงปรับเพิ่มพอร์ตโฟลิโอโครงการแนวราบเพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการในตลาด
นอกจากนี้ได้ลงทุน “คอมมูนิตี้มอลล์” แห่งใหม่ “มิงเกิล มีนบุรี” (Mingle Minburi) ซึ่งจะอยู่ในโครงการมิกซ์ยูส ในพื้นที่เดียวกับ คอนโด Atmoz โฟลว์ มีนบุรี
ชู 3 กลยุทธ์ ‘JV-M&A-Collab’
สำหรับกลยุทธ์สร้างการเติบโตก้าวกระโดดของ AssetWise ในปีนี้ มี 3 กลยุทธ์หลัก
1. ร่วมทุน (Joint Venture)
ในเดือนมกราคม ได้ประกาศร่วมทุนกับบริษัท ทาคาระ เลเบ็น จำกัด (Takara Leben) ผู้พัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำของญี่ปุ่น เป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวตั้งแต่ปี 2004 เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการแรก “Atmoz บางนา” มูลค่าโครงการกว่า 2,200 ล้านบาท โดยแอสเซทไวส์ ถือหุ้น 51% เป็นคอนโด โลว์ไรส์ขนาดใหญ่ย่านบางนา ใกล้ทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีเหลือง ปีนี้ยังมีดีลร่วมทุนที่อยู่ระหว่างเจรจาอีก
2. M&A และ Takeover
ดีลซื้อกิจการแรกปีนี้ คือ คอนโด แม็กซี่ ไพร์ม รัชดา – สุทธิสาร จากบริษัท แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน จำกัด เป็นคอนโด โลว์ไรส์ 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 218 ยูนิต ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสุทธิสารประมาณ 400 เมตร มูลค่าโครงการ 570 ล้านบาท เป็นโครงการที่สร้างยอดรับรู้รายได้ทันที
3. จับมือพันธมิตร Collaboration
ภายใต้กลยุทธ์ Collaboration แอสเซทไวส์ ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ Popcoin ซึ่งเป็นสมาร์ทมาร์เก็ตติ้งแพลตฟอร์ม “เอ็นเตอร์เทนเมิร์ช” กับบริษัท โฟร์ท แอปเปิ้ล จํากัด ในเครืออาร์เอส โดย Popcoin ถือเป็น Utility Token ที่จะเป็นตัวกลางในการใช้งานบนแพลตฟอร์มและเป็นเครื่องมือใหม่ในการทำกิจกรรมและสร้างโอกาสทางการตลาด ที่แอสเซทไวส์ สามารถให้สิทธิประโยชน์กับลูกค้าและสร้างลูกค้ากลุ่มใหม่
นอกจากนี้ได้วางกลยุทธ์มุ่งสู่เทรนด์การดูแลสุขภาพผ่านช่องทางดิจิทัล หรือ Digital Health ด้วยการร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ Doctor A to Z ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบริการด้านสุขภาพออนไลน์ เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพของลูกบ้านด้วย “Health Station” ที่ออกแบบเพื่อการดูแลสุขภาพครบวงจร พร้อมเชื่อมต่อแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบริการด้านสุขภาพออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในยุค New Normal ให้ลูกบ้านได้รับการบริการด้านสุขภาพที่สะดวกมากขึ้น โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา
รวมทั้งได้จับมือกับ บริษัท บางกอก เฮลท์แคร์เซอร์วิส จำกัด หรือ BHS ผู้ดำเนินธุรกิจดูแลผู้สูงอายุและเวชศาสตร์ฟื้นฟู รวมถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่องในด้านผู้สูงอายุทั้งหมด เพื่อเปิดศูนย์ REHAB ฟื้นฟูสภาพร่างกาย ซึ่งเป็นศูนย์บริการประเมิน รักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพจากผู้เชี่ยวชาญ ที่จะทำให้ลูกค้าได้รับบริการสุขภาพที่มีคุณภาพและสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งเร็ว ๆ นี้ ถือเป็นการจับมือกับพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจใหม่ด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นเทรนด์เติบโตสูง