หุ้นขวัญใจมหาชน OR หรือ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) สรุปผลดำเนินการ ปี 2564 ใน 3 ธุรกิจหลัก คือ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน (กลุ่มธุรกิจ Mobility) กลุ่มธุรกิจ Non-Oil (กลุ่มธุรกิจ Lifestyle) และ กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ (กลุ่มธุรกิจ Global) มีรายได้ขายและบริการรวม 511,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.4% กำไรสุทธิ 11,474 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.5%
สรุป 3 ธุรกิจหลัก OR ในปี 2564 ดังนี้
1. ธุรกิจ Mobility
– รายได้ 475,537 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.7%
– สถานีบริการน้ำมัน จำนวน 2,083 แห่ง เพิ่มขึ้น 84 แห่ง
– สถานีบริการ LPG จำนวน 232 แห่ง เพิ่มขึ้น 4 แห่ง
– ปริมาณขายในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน 11,777 ล้านลิตร ลดลง 6.1%
– ปริมาณขายในธุรกิจตลาดพาณิชย์ 11,368 ล้านลิตร ลดลง 4.1%
– รวมปริมาณขายน้ำมันในปี 2564 อยู่ที่ 23,145 ล้านลิตร ลดลง 5.1%
ปี 2564 รายได้ขายและบริการน้ำมันรวม 475,537 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78,337 ล้านบาท หรือ +19.7% จากการเพิ่มขึ้นของราคาขายเฉลี่ยซึ่งเป็นไปตามราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับสูงขึ้น
แต่ปริมาณขายในภาพรวมลดลง 1,255 ล้านลิตร หรือ -5.1% มาจากธุรกิจค้าปลีกน้ำมันลดลง 770 ล้านลิตร หรือ -6.1% ทั้งเบนซินและดีเซล เมื่อเทียบกับปี 2563 เนื่องจากช่วงต้นปี 2563 ยังไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด และช่วงไตรมาส 3 ปี 2563 เริ่มมีการกลับมาเดินทางจากมาตรการผ่อนคลายภาครัฐ แม้ช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 มีการขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้น 84 สถานีก็ตาม
สำหรับธุรกิจตลาดพาณิชย์ ปริมาณขายลดลง 485 ล้านลิตร หรือ -4.1% ในกลุ่มน้ำมันอากาศยานเป็นหลัก รวมทั้งเบนซินและดีเซล จากสถานการณ์โควิด
ในกลุ่มธุรกิจ Mobility ทาง OR มุ่งไปที่การใช้พลังงานในอนาคต จึงเริ่มขยายการติดตั้ง EV Charger “EV Station PluZ” ณ สิ้นปี 2564 มีจำนวน 99 แห่งในปั๊ม ปตท และนอกสถานีบริการอีก 7 แห่ง มีศูนย์บริการยานยนต์ Fit Auto ที่ OR ดำเนินการเอง และแฟรนไชส์ จำนวน 72 สาขา และมีแผนให้บริการซ่อมบำรุง EV ในอนาคต
2. ธุรกิจ Lifestyle
– รายได้ 16,965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.4%
– ร้าน Cafe Amazon จำนวน 3,628 สาขา เพิ่มขึ้น 318 สาขา ปริมาณการขาย 298 ล้านแก้ว เพิ่มขึ้น 8.8%
– ร้านเท็กซัส ชิคเก้น จำนวน 96 สาขา เพิ่มขึ้น 18 สาขา
– ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่นและจิฟฟี่ ในประเทศไทย จำนวน 2,075 สาขา เพิ่มขึ้น 98 สาขา
– รายได้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 11,181 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.0%
– รายได้ค้าปลีกอื่นๆ 5,784 ล้านบาท ลดลง 11.5%
ปี 2564 ธุรกิจ Lifestyle มีรายได้ขายและบริการรวม 16,965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71 ล้านบาท หรือ +0.4% โดยรายได้กลุ่มธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 819 ล้านบาท หรือ +7.9% จากการขยายสาขา
ส่วนธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ มีรายได้ลดลง 748 ล้านบาท หรือ -11.5% โดยหลักมาจากร้านสะดวกซื้อมีรายได้เฉลี่ยต่อร้านต่อวันลดลง จากสถานการณ์โควิด และมีการปิดร้านและการลดเวลาการเปิดร้านสะดวกซื้อในหลายพื้นที่ รวมทั้งภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อผู้บริโภคลดลง
3. ธุรกิจ Global
– รายได้ 28,424 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.1%
– สถานีบริการน้ำมัน 356 แห่ง เพิ่มขึ้น 21 แห่ง
– ปริมาณการขาย ฟิลิปปินส์ 697 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 25.6% กัมพูชา 363 ล้านลิตร ลดลง 13.8% และ สปป.ลาว 230 ล้านลิตร ลดลง 3.0%
– ร้าน Cafe Amazon จำนวน 303 สาขา เพิ่มขึ้น 38 สาขา ปริมาณการขาย 16.5 ล้านแก้ว ลดลง 17.5% 
สรุปธุรกิจ Global ปี 2564 รายได้ขายและบริการรวม 28,424 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,063 ล้านบาท หรือ +33.1% โดยหลักมาจากภาพรวมราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์น้ำมันเพิ่มขึ้นตามราคาตลาดโลกและปริมาณขายเพิ่มขึ้น
ธุรกิจในฟิลิปปินส์ มีปริมาณขายเพิ่มขึ้นในกลุ่มน้ำมันอากาศยานจากการที่ภาครัฐมีมาตรการผ่อนคลาย และการชนะประมูลดีเซลจากลูกค้าพาณิชย์เพิ่มขึ้น ส่วนกัมพูชาและ สปป.ลาว มีปริมาณขายทั้งผลิตภัณฑ์น้ำมันและ Cafe Amazon ลดลง จากมาตรการควบคุมโควิดเข้มงวด แม้ว่าจะมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้น
เปิดแผนธุรกิจปี 2565
เศรษฐกิจไทยปี 2565 มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง คาดว่าจีดีพีเติบโต 3.4% การฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติคาดทยอยกลับมาไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน การส่งออกขยายตัวราว 3-4%
1. ธุรกิจ Mobility
– รักษาความเป็นผู้นำในประเทศไทยในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน (Oil Ecosystem) ทั้งธุรกิจตลาดค้าปลีกน้ำมันและธุรกิจตลาดพาณิชย์และผลิตภัณฑ์หล่อลื่น
– ขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจจาก Oil Ecosystem ไปยังธุรกิจพลังงานแบบผสมผสาน (Energy Solution Ecosystem) โดยมุ่งสู่การใช้พลังงานสะอาด เริ่มจากการลงทุนขยายเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV Station PluZ ซึ่งจะเปิดให้บริการทั้งในและนอกสถานีบริการ PTT Station ในปี 2565 มีแผนจะขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมเส้นทางหลักและแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์สำคัญทั่วประเทศ
– ใช้ประโยชน์จาก PTT Station ซึ่งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพในการเป็น Physical Platform สำหรับการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Mobility และ Lifestyle อื่นๆ รวมถึงความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตร ซึ่งจะทำให้สถานีบริการ PTT Station มีความหลากหลายในสินค้าและบริการ
2. ธุรกิจ Lifestyle
– รักษาความเป็นผู้นำในตลาดร้านกาแฟ แบรนด์ Cafe Amazon เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ กาแฟดริป กาแฟ Cold Brew และรวมถึงสินค้าสำหรับบริโภคที่บ้าน (Other home use products) เป็นต้น
– บริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์โดยมุ่งเน้นให้ PTT Station ให้กลายเป็น Physical Platform สำหรับการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Mobility และ Lifestyle และการหาคู่ค้าให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของผุ้บริโภค เช่น พัฒนา Layout ภายในสถานี
– บริการผ่าน Retail Mix ให้ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รวมถึงความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตร
– ขยายการลงทุนในธุรกิจต้นน้ำ (Upstream ) โดยหาโอกาสร่วมทุน หรือการซื้อกิจการ (M&A)
– Diversify Portfolio โดยหาโอกาสร่วมทุน หรือการซื้อกิจการ เพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ทั้งในธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ
3. ธุรกิจ Global
– ขยายฐานการดำเนินธุรกิจสู่ตลาดโลกโดยใช้ประโยชน์จากแบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับ ความเชี่ยวชาญในกิจการสถานีบริการน้ำมันและธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่นๆ (Non-oil)
– หาโอกาสเข้าซื้อกิจการหรือร่วมทุนในต่างประเทศ ทั้งธุรกิจใหม่ในพื้นที่เดิมที่ OR มีฐานในการดำเนินธุรกิจและมีเชี่ยวชาญในพื้นที่ และธุรกิจในพื้นที่ใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ
4. ธุรกิจ Innovation & New S curve
– พัฒนารูปแบบการชำระเงินค่าสินค้าและบริการผ่านเทคโนโลยีใหม่ๆ
– การร่วมลงทุนในหลายธุรกิจเพื่อใช้จุดแข็งของพันธมิตร อาทิ ลงทุนผ่านกองทุน ORZON VENTURES เพื่อลงทุน Startup ในระยะเริ่มต้นกิจการ (Early-stage)
OR วางแผนลงทุน 5 ปี (ปี 2565-2569) จำนวน 93,462 ล้านบาท ดังนี้
– กลุ่มธุรกิจ Mobility จำนวน 33,894 ล้านบาท สัดส่วน 36.3%
– กลุ่มธุรกิจ Lifestyle จำนวน 20,337 ล้านบาท สัดส่วน 21.8%
– กลุ่มธุรกิจ Global จำนวน 13,229 ล้านบาท สัดส่วน 14.2%
– กลุ่มธุรกิจ Innovation & New Business จำนวน 19,108 ล้านบาท สัดส่วน 20.4%
– อื่นๆ จำนวน 6,894 ล้านบาท สัดส่วน 7.4%
