เชื่อว่าหลายคนที่กำลังติดตามการแข่งขันของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ในประเทศไทยคงอยากทราบความเป็นไปในช่วงสองปีที่ผ่านมาว่าเกิดอะไรขึ้น และมีการเติบโตในรูปแบบใดที่น่าสนใจบ้าง
ล่าสุดเป็นทางผู้บริหาร “ช้อปปี้” (Shopee) ที่ออกมาเปิดเผยอินไซท์ของแพลตฟอร์มก่อนใคร พร้อมกับประกาศจัดเมก้าเซลล์แคมเปญ (แคมเปญใหญ่ของทางแบรนด์) ตั้งแต่ต้นปี โดยมีการดึงใหม่-ดาวิกามาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์รายล่าสุดด้วย ซึ่งความเคลื่อนไหวใดบ้างที่นำไปสู่การตัดสินใจดังกล่าว เราขอสรุปสั้น ๆ 5 ข้อดังนี้
พฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มกลับเข้าสู่ยุคก่อน Covid-19
คุณสุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย) ได้เปรียบเทียบพฤติกรรมผู้ใช้งานแพลตฟอร์มช้อปปี้ในช่วง ปี 2020 – 2022 ซึ่งเป็นปีที่ประเทศเผชิญกับการระบาดของ Covid-19 ว่า ในปีแรกที่เกิดการระบาด ช้อปปี้พบว่าสินค้าขายดีจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค
ต่อมา ในปี 2021 เมื่อคนเริ่มคุ้นเคยกับการอยู่บ้าน สินค้าขายดีพบว่าเป็นสินค้ากลุ่มต้นไม้, เครื่องเล่นเกม, เครื่องออกกำลังกาย ฯลฯ ส่วนปีนี้ พบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มกลับไปสู่ยุคก่อน Covid-19 ระบาด นั่นคือ สินค้าทุกหมวดขายดีพอ ๆ กัน ไม่มีหมวดไหนที่โดดเด่นเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ ผู้บริหารช้อปปี้เผยว่า ข้อมูลด้านบนเป็นแค่พฤติกรรมในการซื้อของ ไม่เกี่ยวกับ “กำลังซื้อ” ว่าจะกลับมาเหมือนช่วงก่อน Covid-19 แต่อย่างใด
นักช้อปปี 2022 ค้นหา “ของใช้ในบ้าน-ความงาม-มือถือ”
สิ่งที่ช้อปปี้เปิดเผยเป็นเรื่องต่อมาคือ พฤติกรรมของนักช้อปบนแพลตฟอร์มในช่วงต้นปี 2022 (มกราคม – กุมภาพันธ์ 2022) ที่พบว่า
- คำค้นหายอดนิยมบนช้อปปี้ ได้แก่ ชั้นวางของ, กระเป๋าสะพายข้าง, เครื่องดูดฝุ่น
- 3 หมวดหมู่สินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ เครื่องใช้ภายในบ้าน (วอลเปเปอร์ติดผนัง, เจลบอลซักผ้า) ความงามและของใช้ส่วนตัว (มาสก์บำรุงหน้า, สครับ) และมือถือและอุปกรณ์เสริม (สมาร์ทโฟน, หูฟัง)
- มีการค้นหาสินค้าบนช้อปปี้มากกว่า 30 ล้านครั้งในช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2022
- 3 จังหวัดที่นักช้อปใช้จ่ายสูงสุดคือ นนทบุรี เชียงใหม่ และสงขลา
ShopeePay โตนอกเมืองใหญ่ 50%
คุณศุภวิทย์ หงส์อมรสิน ผู้อำนวยการ ช้อปปี้เพย์ (ประเทศไทย)
ช้อปปี้เพย์ (ShopeePay) อีกหนึ่งบริการที่เป็นเครื่องมือสำคัญของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซก็มีการเติบโตที่น่าสนใจ โดยคุณศุภวิทย์ หงส์อมรสิน ผู้อำนวยการ ช้อปปี้เพย์ (ประเทศไทย) เผยว่า ตอนนี้มีการใช้งาน ShopeePay ในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศไทย ไม่เว้นแม้แต่พื้นที่นอกเขตหัวเมือง เช่น จังหวัดอยุธยา เชียงราย และระยอง
การเติบโตดังกล่าว ผู้บริหาร ShopeePay เผยว่า มีผู้ใช้งานในพื้นที่นอกเขตหัวเมืองเพิ่มขึ้นกว่า 50% (ปี 2021 เทียบกับปี 2020) และปัจจุบัน บริการของ ShopeePay ครอบคลุมการชำระเงินในหลาย ๆ ด้าน เช่น จ่ายบิลได้มากกว่า 200 รายการ ไม่ว่าจะเป็น บิลค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าบัตรเครดิต ประกันสังคม, บริการเติมเงินโทรศัพท์ เติมเกม เติมอินเตอร์เน็ต ซื้อตั๋วหนัง หรือแม้กระทั่งการบริจาคเพื่อมูลนิธิต่าง ๆ นอกจากนั้น ยังรองรับในส่วนของการจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน และรถบัสได้ด้วย
แคมเปญใหญ่ปลายปี 2021 ยังโต
เมื่อถามถึงแคมเปญเลขคู่ช่วงปลายปี 2021 นั้น สถิติที่ช้อปปี้นำมาเปิดเผยก็คือ
- มีการเล่น Shopee Prizes มากกว่า 1 พันล้านครั้ง ในช่วงแคมเปญใหญ่ปลายปี 2022
- มีการใช้ Shopee Voucher ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2021 มากกว่า 10 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2020
- ในช่วง 11TH Flash Deals มีสินค้าในหมวดหมู่ของใช้ในบ้านถูกจำหน่ายออกไปมากกว่า 400,000 ชิ้น
อย่างไรก็ดี เมื่อถามถึงแง่ของมูลค่าการช้อป (Basket Size) ว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร ทางผู้บริหารไม่ได้เปิดเผยในจุดนี้
กลยุทธ์ปี 2022 จัดสองอีเวนท์ต่อเดือน
ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ และนางสาวสุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย)
สำหรับกลยุทธ์ของช้อปปี้ในปี 2022 ทางคุณสุชญาเผยว่า นอกจากแคมเปญเลขคู่อย่าง 3.3, 4.4, 5.5 แล้ว ทางแพลตฟอร์มจะเพิ่มอีกหนึ่งอีเวนท์ในช่วงกลางเดือนด้วย โดยเริ่มในเดือนมีนาคมนี้เป็นเดือนแรกในชื่อแคมเปญว่า Shopee 3.15 Consumer Day ที่มีการดึงใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ เข้ามาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ และมีโปรโมชันที่น่าสนใจเช่น ดีลพิเศษชานมไข่มุกราคา 1 บาท หรือการเล่นเกมลุ้นรับรถโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่
ส่วนความคาดหวัง หรือตัวเลขเป้าหมายจากกลยุทธ์ดังกล่าว ทางผู้บริหารช้อปปี้ไม่มีการเปิดเผยเช่นกัน
ทั้งนี้ การตัดสินใจจัดสองแคมเปญต่อเดือนส่วนหนึ่งอาจมาจากตลาดเริ่มมีการใช้งานแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมากขึ้นในชีวิตประจำวัน โดยทางผู้บริหารบอกว่าเป็นการ Participate กับแพลตฟอร์มอย่างลึกซึ้งมากกว่าที่เคยเป็นมา จึงอาจเป็นเหตุผลให้ช้อปปี้ไม่มีความจำเป็นต้องรอถึงปลายปีอีกต่อไป อีกทั้งพฤติกรรมของผู้ใช้งานช้อปปี้ ในฝั่งผู้บริโภคก็ยังต้องการมองหาสินค้าราคาดี ขณะที่ฝั่งผู้ขายก็ต้องการพื้นที่ขายสินค้า การเพิ่มอีเวนท์เข้ามาจึงน่าจะเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายบนแพลตฟอร์มได้มากขึ้นนั่นเอง