เรียกว่ากำลังท็อปฟอร์ม สำหรับรายการข่าว “ช่อง 3” หลัง “กรรมกรข่าว” สรยุทธ สุทัศนะจินดา คืนจอตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 จัด 2 รายการ 7 วันรวด ยังมี “หนุ่ม กรรชัย” ดันเรตติ้ง “โหนกระแส” พุ่งแรง ทำเอาผังรายการข่าวดังโฆษณาแน่น เดือนเมษายนนี้ประเดิมเพิ่มเวลา 3 รายการข่าว ช่วงเสาร์-อาทิตย์
บีอีซี เวิลด์ หรือ “ช่อง 3” กลับมาฟื้นตัวชัดเจนอีกครั้ง หลังผลประกอบการทำ “กำไร” ในรอบ 3 ปี ปิดปี 2564 มีรายได้ 5,680 ล้านบาท ลดลง 3.1% แต่โกยกำไร 761 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 455% เมื่อเทียบปี 2563 ที่ขาดทุน 214 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 1,000 ล้านบาท
สัดส่วนรายได้ข่าวเพิ่มเป็น 27%
หากดูเฉพาะรายได้ขายโฆษณาช่อง 3 ปี 2564 อยู่ที่ 4,834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% ขณะที่อัตราการใช้เวลาโฆษณา (utilization rate) เพิ่มขึ้น 15% จากระดับ 60.2% เป็น 74.8% และขายราคาโฆษณาต่อหน่วยได้สูงขึ้น
รายได้ที่เพิ่มขึ้นคือ “รายการข่าว” จากการกลับมาจัดรายการของ คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ใน 2 รายการข่าว คือ เรื่องเล่าเช้านี้ จันทร์-ศุกร์ เวลา 6.00-8.20 น. และเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30-12.15 น. รวมทั้งรายการข่าวช่วงอื่นๆ และรายการทอล์ก “โหนกระแส” ซึ่งช่อง 3 ร่วมผลิตกับ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย”
โดยรวมผังรายการข่าวได้รับผลตอบรับอย่างดี ส่งผลให้เรตติ้งเพิ่มขึ้น และขายโฆษณาได้มากขึ้น บางรายการข่าวขายโฆณาได้เต็ม 100%
ปี 2564 สัดส่วนรายได้รายการข่าวอยู่ที่ 27% ของโฆษณาช่อง 3 หรือคิดเป็นเม็ดเงินราว 1,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากปี 2563 ที่มีรายได้ 951 ล้านบาท หรือสัดส่วน 20% ของรายได้โฆษณาช่อง 3
เห็นได้ว่าสัดส่วนรายได้รายการข่าวขยับขึ้นมาชัดเจนหลังการคืนจอของ คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ซึ่งในอดีตก่อนคุณสรยุทธ ยุติจัดรายการในปี 2559 ช่อง 3 เคยมีรายได้จากรายการข่าวสัดส่วน 30% ของรายได้โฆษณา
ขยายเวลารายการข่าวเสาร์-อาทิตย์
จากอัตราการใช้เวลาโฆษณาในบางรายการข่าวเต็ม 100% เดือนเมษายน 2565 ช่อง 3 ได้ขยายเวลารายการข่าววันเสาร์-อาทิตย์ 3 รายการ โดยยังคงราคาโฆษณาเสนอขาย (Rate Card) เท่าเดิม แต่การเพิ่มเวลาจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นในปีนี้ โดย 3 รายการข่าวที่เพิ่มเวลาดังนี้
– รายการขันข่าวเช้าตรู่ เสาร์-อาทิตย์ เวลา 6.00-7.00 น. เพิ่มขึ้น 25-30 นาทีต่อวัน (ราคาโฆณา 120,000 บาท/นาที)
– รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.15-12.15 น. เพิ่มขึ้น 15 นาทีต่อวัน (ราคาโฆษณา 290,000 บาท/นาที)
– รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ เสาร์-อาทิตย์ เวลา 17.30-18.20 น. เพิ่มขึ้น 30 นาทีต่อวัน (ราคาโฆษณา 300,000 บาท/นาที)
ส่วนผังรายการข่าว ช่อง 3 จันทร์-ศุกร์ เริ่มด้วย รายการโลกยามเช้า เวลา 4.00-4.30 น., รายการขันข่าวเช้าตรู่ เวลา 04.30-5.30 น., เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง เวลา 5.30-6.00 น.
จากนั้นเข้าสู่ผังรายการข่าวที่ได้รับความนิยมสูง เรื่องเล่าเช้านี้ เวลา 6.00-8.20 น., เที่ยงวันทันเหตุการณ์ เวลา 11.20-12.35 น. ,โหนกระแส เวลา 12.35-13.15 น.
ต่อด้วยข่าวสามสี เวลา 16.00-16.30 น., เรื่องเด่นเย็นนี้ เวลา 16.30-18.00 น., ข่าวนอกลู่ เวลา 20.00-20.05 น. และข่าว 3 มิติ เวลา 22.35-23.05 น.
คอนเซ็ปต์รายการข่าวหน้าจอทีวี ช่อง 3 และช่องทางออนไลน์ จะนำเสนอแตกต่างกัน ในปี 2565 ช่อง 3 จะทำให้ข่าวมีความเข้มแข็ง ทันเหตุการณ์ ทันสมัย เพราะโลกเปลี่ยนไปเร็ว รายการข่าวและรูปแบบการนำเสนอข่าว จะต้องเปลี่ยนแปลงทันโลก
ข่าวแต่ละช่วงของช่อง 3 จะมีบุคลิกชัดเจนมากขึ้น อย่าง “เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง” เป็นการสรุปทุกประเด็นที่เกิดขึ้นในวันนั้น, “เรื่องเล่าเช้านี้” เป็นข่าวที่คนดูรู้สึกว่าเหมือนคนคุ้นเคยมาเล่าเรื่องให้ฟัง เลือกประเด็นข่าวใกล้ตัว สรุปนโยบายต่างๆ ของภาครัฐให้เข้าใจง่าย เพื่อให้เห็นว่าเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันอย่างไร “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” อัพเดทสถานการณ์ช่วงครึ่งวันเช้าว่าเกิดอะไรขึ้น “โหนกระแส” ใช้จุดเด่นของ “คุณหนุ่ม กรรชัย” หยิบยกประเด็นที่อยู่ในกระแสสังคมหรือดราม่า มานำเสนอให้เห็นมุมมองต่างๆ “ข่าวเด่นเย็นนี้” อัพเดทสถานการณ์ประจำวันตั้งแต่เช้าถึงเย็นว่าเกิดอะไรขึ้น “ข่าว 3 มิติ” รูปแบบข่าวเจาะลึก สืบสวน สอบสวน จะเข้มข้นขึ้นอีกในปีนี้
ปัจจุบันหลายรายการข่าวช่อง 3 ขายโฆษณาได้ในอัตราสูงและมีอัตราการใช้เวลาค่อนข้างสูง เช่น
– เรื่องเล่าเช้านี้ ราคาโฆษณาอยู่ที่ 220,000 บาท/นาที ส่วนเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ราคาโฆษณา 290,000 บาท/นาที หลังจากคุณสรยุทธ กลับมาจัดรายการในปี 2564 ทั้ง 2 รายการขายเวลาโฆษณาได้เพิ่มขึ้น 40-50%
– เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ราคาโฆษณานาทีละ 200,000 บาท/นาที
– รายการโหนกระแส โฆษณานาทีละ 150,000 บาท/นาที ปัจจุบันโหนกระแสเป็นอีกรายการที่ขายโฆษณาได้เต็ม 100%
โบรกฯคาดปีนี้ “บีอีซี” กำไร 1,000 ล้าน
หลักทรัพย์ เอเซียพลัส วิเคราะห์แนวโน้ม “บีอีซี” ปี 2565 เห็นการเติบโตชัดเจน ทั้งการขยายเวลารายการข่าววันเสาร์-อาทิตย์ 3 รายการ เนื่องจากมีอัตราการใช้เวลาโฆษณาเต็ม 100% และมีโอกาสปรับเพิ่มค่าโฆษณาต่อนาทีได้อีกเช่นกัน
การออกอากาศละครใหม่ในปีนี้ จะสร้างเรตติ้งที่ดีและนำมาสู่รายได้ค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น นอกจากนี้จากการใช้กลยุทธ์ Single Content Multiple Platform มีต้นทุนการผลิตครั้งเดียวแต่หารายได้เพิ่ม จากการขายลิขสิทธิ์ให้กับแพลตฟอร์มต่างประเทศ เช่น Netflix, Viu และการหารายได้จาก “ดิจิทัล แพลตฟอร์ม” CH3 Plus และ CH3 Plus Premium ซึ่งช่อง 3 วางเป้าหมายรายได้ในส่วนนี้ไว้ 1,000 ล้านบาทในปี 2565
รวมทั้งมีการขยายธุรกิจใหม่ ได้แก่ ธุรกิจเพลง, ธุรกิจภาพยนตร์ เรื่องแรก “บัวผัน ฟันยับ” คาดฉายในโรงหนังไตรมาส 4 ปีนี้ บีอีซี ตั้งเป้าหมายรายได้ภาพยนตร์ราว 100-300 ล้านบาท ธุรกิจหนังหากประสบความสำเร็จจะทำกำไรได้สูง เนื่องจากต้นทุนต่ำกว่าละคร
ปีนี้มีการจัดตั้งธุรกิจใหม่ BEC Studio เพื่อผลิตคอนเทนต์ตอบโจทย์ สตรีมมิ่ง แพลตฟอร์ม ที่กำลังเติบโต
เอเซียพลัส คาดการณ์ว่าปี 2565 บีอีซี จะมีรายได้ 6,319 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% กำไรอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% เป็นการกลับมาทำกำไรต่อเนื่องจากปีก่อน
อ่านเพิ่มเติม