ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงการของ “เซ็นทรัลพัฒนา” ใน 5 ปี (2565 – 2569) มุ่งสร้างภายใต้แนวคิด “Retail-Led Mixed-Use Development” ประกอบด้วยศูนย์การค้า, ที่อยู่อาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรม ควบคู่กับการพลิกโฉมโครงการปัจจุบัน ด้วยงบลงทุนมากกว่า 20,000 ล้านบาทต่อปี (จากงบลงทุนรวมในช่วง 5 ปีนี้ 120,000 ล้านบาท)
เพื่อผลักดันให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ นั่นคือ มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ อยู่ในมากกว่า 30 จังหวัด ซึ่งจะทำให้จำนวนโครงการทั้งหมด (รวมปัจจุบันและอนาคต) อยู่ที่
– ศูนย์การค้า 50 แห่ง ทั้งในและต่างประเทศ
– คอมมูนิตี้มอลล์ 16 แห่ง (อยู่ระหว่างการศึกษาการขยาย)
– โครงการที่พักอาศัย 68 แห่ง
– อาคารสำนักงาน 13 แห่ง
– โรงแรม 37 แห่ง
โดยมากกว่า 50% ของโครงการทั้งหมดจะเป็นรูปแบบ Mixed-use Development ที่มีมากกว่า 1 ธุรกิจ และมีศูนย์การค้าเป็นหัวใจสำคัญ
หลังจากเซ็นทรัลพัฒนา เปิดตัว “โครงการเซ็นทรัล ศรีราชา” และ “เซ็นทรัล อยุธยา” ในปีที่แล้ว ขณะเดียวกันยังมีโครงการพลิกโฉมศูนย์การค้าต่างๆ อีกกว่า 10 โครงการ หนึ่งในนั้นคือ “เซ็นทรัล รามอินทรา” ศูนย์การค้าแบบ Community Mall ที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2536 ถึงวันนี้เข้าสู่ปีที่ 29 แล้ว และในปีนี้ “เซ็นทรัลพัฒนา” จะปิดปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยเปิดให้บริการจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 และเตรียมพบโฉมใหม่ในเดือนมกราคม 2566 เพื่อเป็น “New Urbanized Community” ในย่านรามอินทรา
ศูนย์การค้าเซ็นทรัล รามอินทรา ก่อนปรับปรุงครั้งใหญ่
4 เหตุผล ได้เวลารีโนเวท “เซ็นทรัล รามอินทรา”
“เซ็นทรัล รามอินทรา” เป็นหนึ่งในศูนย์การค้าเก่าแก่ของเซ็นทรัลพัฒนา เปิดให้บริการปี 2536 บนที่ดินขนาด 10 ไร่ สร้างขึ้นในรูปแบบศูนย์การค้า Community Mall สำหรับครอบครัวและชุมชนในย่านรามอินทรา
ภายในอาคารศูนย์การค้ามี 5 ชั้น ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ร้านค้าปลีกในเครือเซ็นทรัล เช่น Tops Supermarket, Powerbuy, Super Sports, B2S รวมถึงร้านค้าปลีกประเภทต่างๆ เช่น ร้านหนังสือ, ร้านสมาร์ทโฟนแบรนด์ดัง, ศูนย์บริการเครือข่ายมือถือ, ร้านไอทีและเทคโนโลยีต่างๆ, ร้านอาหาร-คาเฟ่, บริการด้านความงาม และโรงภาพยนตร์ SF Cinema
อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดให้บริการมาเข้าสู่ปีที่ 29 ก็ได้เวลา “เซ็นทรัล รามอินทรา” ปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยจะเปิดให้บริการจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 ซึ่งก่อนปิดปรับปรุง ได้จัดงานเซลครั้งยิ่งใหญ่ “Central Ramindra Big Thanks Sale” มอบส่วนลดสูงสุด 90% เพื่อเป็นการทิ้งท้ายก่อนปรับโฉมครั้งยิ่งใหญ่ และเตรียมพบโฉมใหม่ในเดือน มกราคม 2566
เซ็นทรัล รามอินทรา ลดราคาก่อนปิดปรับปรุง
เหตุผลที่ “เซ็นทรัล รามอินทรา” ปิดปรับปรุงครั้งใหญ่ เนื่องจากเมืองขยาย, การเพิ่มขึ้นของประชากรในย่านนี้, ไลฟ์สไตล์ของผู้คนเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย และการพัฒนาของระบบคมนาคมขนส่ง โดยเฉพาะการมาของรถไฟฟ้า
1. เพื่อรองรับกลุ่มประชากร และ Catchment ที่เติบโตขึ้น จากหมู่บ้านเป็นคอนโด หรือจากแนวราบเป็นแนวสูง ทำให้ย่านรามอินทรามีความหนาแน่นของประชากรเพิ่มขึ้น
2. พัฒนาตาม Transit-oriented development คือ การเติบโตของ Infrastructure ในย่านรามอินทรา เช่น รถไฟฟ้า Monorail สายสีชมพู, การเพิ่มขึ้นของคอนโดมิเนียม, โรงเรียนนานาชาติ และโรงพยาบาลในย่านรามอินทรา
3. ปรับการออกแบบ และองค์ประกอบทั้งภายนอก-ภายในให้สอดคล้องการเปลี่ยนแปลงด้านไลฟ์สไตล์ของคนสังคมเมือง ที่ต้องการความสะดวก และรวดเร็วขึ้น ยิ่งการเกิดสถานการณ์ COVID-19 เปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวันผู้บริโภค โดยต้องการสถานที่ที่จับจ่ายใช้สอย และพักผ่อนใกล้บ้าน สะดวกต่อการเดินทาง และมีสินค้า-บริการครบวงจร
4. ตอบโจทย์แนวคิด “เซ็นทรัลพัฒนา” คือ พัฒนาโครงการให้เป็น “Center of Life” เพื่อเป็นมากกว่าการช้อปปิ้ง แต่คือศูนย์กลางการใช้ชีวิตของทุกไลฟ์สไตล์
ปักหมุดเป็น Third Place ใกล้บ้านของคนรามอินทรา
การปรับปรุง “เซ็นทรัล รามอินทรา” ครั้งนี้ เซ็นทรัลพัฒนาวางงบลงทุนไว้ที่ 1,600 ล้านบาท พื้นที่โครงการบนที่ดิน 10 ไร่ เป็นพื้นที่อาคารรวม (GBA) 90,000 ตารางเมตร
– เซ็นทรัล รามอินทราโฉมใหม่ จะไม่ได้เป็น “เซ็นทรัลพลาซา รามอินทรา” แล้ว แต่เปลี่ยนเป็น “เซ็นทรัล รามอินทรา” ท่ีมาพร้อมกับ Brand Identity ใหม่ สอดคล้องกับการรีแบรนด์ของเซ็นทรัลพัฒนา และศูนย์การค้าในเครือ โดยที่นี่จะพัฒนาให้เป็น “Neighborhood Mall” ที่เป็นเหมือน “Third Place” ของคนในย่านรามอินทรา
- อ่านเพิ่มเติม: เปิดแนวคิด Brand Identity ใหม่ “ศูนย์การค้าเซ็นทรัล” ทั่วประเทศ รีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 40 ปี
เซ็นทรัล รามอินทราโฉมใหม่ เตรียมเปิดให้บริการเดือนมกราคม 2566
– ชูจุดเด่น 3C’s คือ Convenient, Connected และ Comfortable for everyday life ทำให้ผู้คนในย่านนี้ได้ความสะดวกสบายมากขึ้น ด้วยการเป็น Destination หลากหลาย และมีร้านค้ามากกว่า 200 ร้าน เพื่อรองรับทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้าเดิม และการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าใหม่
- Food Destination จุดศูนย์รวมของร้านอาหารหลากหลายประเภท
- Family Destination ตอบโจทย์ทั้งครอบครัว
- Sports Destination เอาใจสายสปอร์ตและคนรักสุขภาพ ทั้งด้านอาหาร คนรักกีฬา กลุ่มครอบครัว และคนรุ่นใหม่
Brand Identity ใหม่ของเซ็นทรัล รามอินทรา
– พลิกโฉมครั้งใหญ่กับดีไซน์ทั้ง Exterior และ Interior พร้อมจัดผังรูปแบบร้านค้า และบรรยากาศที่สร้างประสบการณ์ใหม่ของการมาศูนย์การค้าใกล้บ้าน มีโซนใหม่ และจัด Destination สำหรับร้านค้ากลุ่มต่างๆ เช่น ร้านอาหาร, ร้านค้าแบรนด์ดัง, สินค้าและบริการสำหรับ Family Destination
พร้อมพื้นที่ Co-Living Space และร้านกาแฟ ถือว่าเป็นสถานที่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา รวมถึงคนทำงานที่สามารถใช้เวลาในศูนย์การค้าได้ทั้งวัน ให้ทุกวันเหมือนเป็นบ้านสำหรับทุกคน
การออกแบบภายในของเซ็นทรัล รามอินทราโฉมใหม่
– เซ็นทรัลพัฒนา ต้องการรีโนเวท “เซ็นทรัล รามอินทรา” ให้เป็น “New Urbanized Community” ที่ดีที่สุดในย่านรามอินทรา สะท้อน Commitment ของเซ็นทรัลพัฒนา ด้วยบทบาทการเป็น “Place Maker” นักพัฒนาพื้นที่แห่งอนาคต ที่ต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนทุกแห่งที่โครงการของเซ็นทรัลพัฒนาไปตั้งอยู่
– กลุ่มเป้าหมายหลักคือ กลุ่มคนที่อยู่อาศัยในพื้นที่เขตรามอินทรา และเขตใกล้เคียง รวมทั้งกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มาจากการเติบโตของ Infrastructure และจากโครงการที่พักอาศัย คอนโด โรงเรียนนานาชาติ และโรงพยาบาลในย่านรามอินทรา
“เซ็นทรัล รามอินทรา รูปแบบใหม่จะดึงดูด Quality Traffic และเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้มาใช้เวลาที่นี่ได้ทั้งวัน ด้วย Mer-mix ที่โดดเด่นและสินค้าบริการที่หลากหลาย อีกทั้งยังเป็น Food Destination, Family Destination และ Sports Destination เตรียมพบโฉมใหม่ในเดือนมกราคม 2566” ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) สรุปทิ้งท้ายถึงการปรับปรุงเซ็นทรัล รามอินทราครั้งใหญ่
- อ่านเพิ่มเติม: เปิดวิสัยทัศน์ “วัลยา จิราธิวัฒน์” ซีอีโอหญิงคนแรก “เซ็นทรัลพัฒนา” กับภารกิจรีแบรนด์ศูนย์การค้า-แผนธุรกิจ 5 ปี
ภายในของเซ็นทรัล รามอินทราโฉมใหม่