คุณสิริน ฉัตรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยาพร้อม จำกัด ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน “ยาพร้อม” เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตลอดช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา ส่งผลต่อพฤติกรรมและวิถีชีวิตของประชาชนที่เปลี่ยนไป ทั้งด้านความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะเรื่องการดูแล “สุขภาพ” ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในยุคนี้หันมาตระหนักและให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ทั้งในเชิงการป้องกันและการรักษาบรรเทาอาการ โดยมุ่งมองหานวัตกรรม และเทคโนโลยีการดูแลรักษาสุขภาพที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว ที่สำคัญสามารถลดการสัมผัสเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
จากแนวความคิดดังกล่าว เป็นที่มาของการพัฒนาแอปพลิเคชัน “ยาพร้อม” เพื่อให้ร้านขายยา เภสัชกร และผู้ป่วย สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้อย่างสะดวก รวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนในพื้นที่ห่างไกล สามารถเข้าถึงยาและการให้คำปรึกษาเบื้องต้นได้อย่างทั่วถึงและครอบคลุมมากที่สุด มั่นใจว่าจะสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนในวงกว้าง พร้อมเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการเข้าถึงการรักษาของประชาชนในภาพรวม
“เราได้ร่วมกับผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ เพื่อสร้าง Platform สำหรับร้านขายยาและองค์กรที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการมีสุขภาพที่ดีของประชาชน และเป็นไปตามกฎระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ อย่างเคร่งครัด โดยมีจุดมุ่งหมายสูงสุดคือ ใช้เทคโนโลยีเพื่อรองรับการเข้าถึงยารักษาโรค ตามคำแนะนำของเภสัชกรได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ห่างไกลเพียงใดก็ตาม”คุณสิริน กล่าว
ทั้งนี้ บริการต่างๆ ในแอปพลิเคชัน “ยาพร้อม” จะครอบคลุมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ และการรักษาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น อาทิ ระบบให้บริการแบบ Realtime ระหว่างเภสัชกรกับคนไข้ทั้งรูปแบบ Chat / Voice / Video เพื่อให้คำปรึกษาแก่ประชาชนที่ต้องการยาที่มีคุณภาพและเข้าถึงง่าย, ระบบ Pharmacist Call Center กลาง ที่ช่วยรับสายลูกค้าและส่งออเดอร์ ไปยังร้านยาที่ใกล้ที่สุด รวมถึงระบบแผนที่ร้านขายยา (Geolocation) ที่ช่วยค้นหาร้านขายยาที่อยู่ใกล้ เป็นต้น
คุณสิริน ขยายความว่า ตลอดปีนี้บริษัทจะทยอยเปิดระบบการให้บริการต่างๆ เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการสูงสุด เพื่อสร้างให้แอปพลิเคชัน “ยาพร้อม” เป็นระบบการให้บริการเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ และรักษาอาการเจ็บป่วยที่ครอบคลุม (All in one Apps) มากที่สุด ซึ่งถือเป็นจุดขายที่แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นๆ อย่างชัดเจน โดยเน้นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย อาทิ ระบบ Call Center สำหรับเภสัชกร, ระบบ AI เพิ่มการให้บริการที่ตอบโจทย์มากขึ้น อาทิ การวิเคราะห์อาการเบื้องต้น (Yaphrom Primacy Care), ระบบการเลือกหาร้านขายยา (Geolocation), ระบบการแจ้งเตือน Drug Allergy / Drug Interaction และระบบการแจ้งเตือนการรับประทานยา (Drug Notification) เป็นต้น
“เราชูจุดขายที่แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นๆ ไฮไลท์คือการที่ผู้ใช้บริการสามารถปรึกษาเภสัชกร ได้ผ่านทาง Chat / Voice / Video รวมถึงมีการบันทึก OPD Card สำหรับประวัติการรักษา, รองรับหลายภาษา ทั้งภาษา ไทย อังกฤษ พม่า จีน, ระบบปรึกษาและสั่งยาแทนสำหรับคนในครอบครัว, ระบบการขนส่งยา รักษาคุณภาพยาที่ได้มาตรฐาน โดยมีโรงงานผลิตยาที่พร้อมสนับสนุนสินค้าเพื่อร้านขายยา รวมถึงระบบรองรับการจัดเก็บข้อมูลเพื่อป็นหลักฐานระหว่างการสนทนาของเภสัชกร และผู้ป่วยที่ได้รับคำปรึกษาผ่านระบบนี้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีระบบ B2B สำหรับซื้อยาจากโรงงานผู้ผลิต และระบบ POS (Point of sale) สำหรับร้านขายยา ที่สำคัญระบบยาพร้อม ยังสามารถ Integrate ร่วมกับ platform อื่นๆ เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้า และผู้ประกอบการอีกด้วย” คุณสิริน กล่าว
ปัจจุบันพันธมิตรหลักของ “ยาพร้อม” ประกอบด้วย ร้านขายยา ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 5,000 ร้านที่อยู่ใน Geolocation Mapping ของยาพร้อม รวมถึงบริษัทอีคอมเมิร์ซ อย่าง OCC ในเครือของสหพัฒนพิบูลย์ ในส่วนของเวชภัณฑ์ เวชสำอางค์ และผู้ให้บริการโลจิสติกส์ ได้แก่ ไปรษณีย์ไทย ตลอดจนมีบริการจากสถาบันการเงินอย่างธนาคารกรุงไทย ที่ร่วมพัฒนาระบบชำระเงินรูปแบบออนไลน์ในแอปฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าชำระค่าสินค้าและบริการให้กับร้านขายยาได้ทันที พร้อมให้บริการสินเชื่อคู่ค้าพารวย ในรูปแบบ Digital Supply Chain Financing โดยกำหนดวงเงินจากข้อมูลการสั่งซื้อยาของร้านขายยา และไม่ต้องใช้หลักประกันในการขอสินเชื่อ เพื่อให้ร้านขายยาสมาชิกมีเงินทุนหมุนเวียน ในการสั่งซื้อสินค้าเข้าร้าน และสามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างราบรื่น โดยยาพร้อม ตระหนักถึงมาตรการและมาตรฐานของทางกระทรวงสาธารณสุขเป็นอย่างยิ่ง และพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐและหน่วยงานต่างๆ เพื่อพัฒนาให้แอพพลิเคชั่นนี้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน
ทั้งนี้ จำนวนร้านขายยา (ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2564) อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 23,956 ร้าน ขณะที่ตลาดยาในประเทศไทย มีมูลค่าถึง 136,800 ล้านบาท แบ่งเป็นช่องทางโรงพยาบาลและคลินิก 107,600 ล้านบาท และร้านขายยา 29,200 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าตลาดยาปี 2565 ยังเติบโตอยู่ที่ 3-5%
“แอปพลิเคชัน ยาพร้อม จะเข้าไปช่วยเหลือประชาชนให้สามารถเข้าถึงปัจจัยขั้นพื้นฐานด้านสุขภาพได้ง่ายขึ้น ทั้งคนที่ต้องการปรึกษาเภสัชกรเมื่อมีอาการเจ็บป่วย รวมถึงสามารถรับยาจากเภสัชกรที่ร้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียง หรือบริการจัดส่ง (สำหรับสินค้า E-Commerce) การค้นหาร้านยาผ่านแอปพลิเคชัน ตลอดจนเช็คสินค้าที่ต้องการสั่งซื้อได้ว่ามีอยู่ที่ใดบ้าง ซึ่งเราคาดหวังว่าแอปพลิเคชันนี้จะเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภค เหมือนมีร้านยาอยู่ในมือคุณ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมแอปพลิเคชัน ยาพร้อม 02-115-1613 หรือ Line ID @yaphrom” คุณสิริน กล่าวทิ้งท้าย