เอไอเอสเปิดตัวเลขความสำเร็จโครงการพอยท์เพย์ (PointPay) หลังจับมือกับธนาคารกรุงไทยนำ AIS Points มาแลกเป็นส่วนลดเงินสดบนร้านค้าของแพลตฟอร์มถุงเงินกว่า 400,000 รายตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา โดยพบว่า การใช้แต้มไปแล้วกว่า 100 ล้านแต้ม ส่วนใหญ่เป็นการแลกแต้มจากร้านอาหาร – เครื่องดื่มในเขตกรุงเทพฯ มากถึง 70% ด้านผู้บริหารธนาคารกรุงไทยเผยด้วยว่า มีแผนจะเพิ่มร้านค้าในโครงการ PointPay เป็น 1 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้ พร้อมขยายไปยังธุรกิจอื่น เช่น ร้านขายของชำ โรงแรม ที่พัก ระบบขนส่ง ฯลฯ เพื่อให้การใช้จ่ายกระจายไปสู่ธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น
คุณปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS เผยถึงการต่อยอดโครงการพอยต์เพย์ครั้งนี้ว่า มาจากสถานการณ์ภายในประเทศที่พบปัญหาการชะลอตัวของระบบเศรษฐกิจ จากแรงกดดันทั้งภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งเอไอเอสมองว่า การนำ AIS Points มาแลกเป็นส่วนลดเงินสดกับร้านค้าในระบบถุงเงินของธนาคารกรุงไทยได้นั้น จะสามารถช่วยเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภค และเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยได้อีกทางหนึ่ง
กระจายพอยต์สู่ต่างจังหวัด
ด้านคุณธวัชชัย ชีวานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจ ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยตัวเลขว่า ร้านค้าที่อยู่ในระบบถุงเงินนั้น ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 1.6 ล้านราย ในจำนวนนี้ เป็นร้านอาหารและเครื่องดื่มราว 800,000 ราย และมีมากถึง 400,000 รายที่เข้าร่วมโครงการ PointPay โดยเป็นร้านค้าในเขต กทม. 30% และเป็นร้านค้าในต่างจังหวัดมากถึง 70%
ซึ่งจากตัวเลขร้านค้าถุงเงินที่อยู่นอกเขตกรุงเทพฯ มากถึง 70% นั้น คุณปรัธนาจึงมองว่า จะทำให้การแลกพอยต์ของเอไอเอสที่แต่เดิมจะกระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานคร สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานได้ทั่วประเทศ และสามารถกระจายเม็ดเงินออกไปสู่จังหวัดต่าง ๆ ได้มากขึ้น
ดึงพาร์ทเนอร์ร่วมแลกคะแนน
ทางเอไอเอสเผยด้วยว่า ปัจจุบัน บริษัทมี AIS Points อยู่ในระบบมากถึง 2,600 ล้านคะแนน ซึ่งหากแปลงเป็นส่วนลดเงินสดก็คือเม็ดเงินราว 1,300 ล้านบาท (ทุก ๆ การใช้จ่าย 25 บาทจะได้รับ 1 คะแนน และต้องใช้ 2 คะแนนแลกรับส่วนลด 1 บาท) นอกจากนั้น หากต้องการมีพอยต์มากขึ้น ยังสามารถนำพอยต์จากพาร์ทเนอร์ของเอไอเอส เช่น บัตรเครดิตยี่ห้อต่าง ๆ มาแลกเป็น AIS Point เพื่อไปใช้จ่ายกับร้านค้าถุงเงินบนโครงการ Point Pay นี้ได้ด้วยเช่นกัน
ปัจจุบัน เอไอเอสมีผู้ใช้งาน 44.6 ล้านราย และมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอีก 1.8 ล้านราย
เมื่อถามถึงความท้าทายของโครงการในมุมของธนาคารกรุงไทย คุณธวัชชัยเผยว่า ประเด็นหลักคือร้านค้า และผู้ใช้งานยังไม่ทราบว่า สามารถนำ AIS Point มาใช้จ่ายได้ จึงต้องให้ข้อมูลกับร้านค้า – ผู้ใช้งานให้มากกว่านี้ พร้อมกันนั้นคุณธวัชชัยก็เผยว่า สำหรับแม่ค้าที่มีประสบการณ์การใช้งานแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างถุงเงินแล้ว พบว่า เป็นกลุ่มที่มีความพร้อมมากในการรับชำระเงินค่าสินค้าผ่านระบบดิจิทัล
พร้อมต่อยอดสู่บริการของกรุงไทยในอนาคต
คุณธวัชชัยยังเผยในงานแถลงข่าวครั้งนี้ด้วยว่า มีแนวโน้มที่จะต่อยอดโครงการ PointPay ไปสู่บริการอื่น ๆ ของแอปเป๋าตัง เช่น การนำพอยต์ไปแลกซื้อทอง หุ้นกู้ ฯลฯ บนแพลตฟอร์มในอนาคตด้วย โดยปัจจุบัน แอปดังกล่าวมีผู้ใช้งานแล้วกว่า 34 ล้านคน
ขณะที่ผู้บริหารเอไอเอสเผยว่า อีกหนึ่งความสำคัญของโครงการ PointPay ก็คือ การทำให้ลูกค้าเข้ามา Engage กับเอไอเอสบ่อยขึ้น โดยเอไอเอสพบว่า ถ้าสามารถทำได้ จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจใช้บริการของทางค่ายนานขึ้นด้วยนั่นเอง
ทั้งนี้ โครงการ PointPay ยังถือเป็นครั้งแรกของการจับมือกันระหว่างโครงการภาครัฐกับเอกชนในการใช้งาน – แลกแต้มข้ามแพลตฟอร์มด้วย โดยที่ผ่านมา เอไอเอสเคยมีการนำพอยต์ของทางค่ายไปใช้กับพาร์ทเนอร์ในวงการต่าง ๆ พอสมควร เช่น การนำไปใช้จ่ายเพื่อแลกส่วนลดบนแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่อย่างโรบินฮู้ด เป็นต้น