เป็นการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ในรอบสองปีกับรายการ Shark Tank Thailand ซีซั่น 3 รายการเรียลลิตี้ทางธุรกิจระดับโลก พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่มีความฝันสร้างธุรกิจไปถึงเป้าหมาย ด้วยการมีนักธุรกิจระดับหมื่นล้านบาทของประเทศไทย หรือเรียกว่า ชาร์คนักลงทุน เปรียบเสมือน ฉลามนักล่าในโลกธุรกิจ เข้ามาร่วมดีลลงทุนในเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพที่มานำเสนอในรายการ จึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้แก่ธุรกิจไทยครั้งสำคัญ
สำหรับความนิยมของรายการ Shark Tank ในประเทศไทยตั้งแต่ซีซั่นแรกจนถึงปัจจุบันต่างได้รับกระแสตอบรับที่ดีไม่แพ้ในต่างประเทศ โดยในต่างประเทศ Shark Tank เป็นรายการเรียลลิตี้ธุรกิจที่ได้รับความนิยมสูง และมีการซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้วใน 55 ประเทศทั่วโลก รายการประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งที่ประเทศออสเตรเลียและสหรัฐฯ สร้างนักธุรกิจรุ่นใหม่ให้เติบโตมากมาย ซึ่งในประเทศไทยมี บริษัท มีเดีย แท็งค์ จํากัด ร่วมเป็นผู้ผลิตรายการ จากการออกอากาศตั้งแต่ซีซั่นแรกในปี 2561 ซีซั่นสองในปี 2563 สร้างปรากฎการณสำคัญในภาคธุรกิจ ทั้งการสร้างชาร์คชื่อดังและร่วมสร้างธุรกิจไทยเติบโต ส่วนในซีซั่น 3 มีความเข้มข้นชวนติดตามมากขึ้นเป็นทวีคูณ
จัดเต็มด้วย 8 ชาร์คนักลงทุน ทั้งนักธุรกิจระดับหมื่นล้านหลากหลายวงการพร้อมชาร์ครับเชิญพิเศษ
ความพิเศษในซีซั่น 3 กับการมีชาร์คนักธุรกิจชื่อดังแนวหน้าในหลากหลายวงการเข้ามาเติมเต็มความฝันทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการกับ 5 ชาร์คหลัก “ชาร์คเต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด, “ชาร์คกฤษน์ ศรีชวาลา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟิโก้ กรุ๊ป และ ฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, “ชาร์คหมู-ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุ๊คบี จำกัด ผู้บริหารกองทุน 500 TukTuks , ชาร์คหญิงหนึ่งเดียวในรายการ “ชาร์คจิง-ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองประธานกรรมการอาวุโส กลุ่มบริษัท ไทยซัมมิทฯ รับหน้าที่ชาร์คครั้งแรกในรายการ โดยการมาของชาร์คจิง จึงเป็นหนึ่งในตัวแทนของผู้หญิงที่มีความกล้าออกมาทำธุรกิจ และสามารถประสบความสำเร็จได้ และ “ชาร์คประพล มิลินทจินดา” ประธาน คอมมูนิตีมอลล์ พีเพิล พาร์ค อ่อนนุช อีกทั้งยังมีชาร์ครับเชิญพิเศษ 3 ชาร์ค มาร่วมทำหน้าที่หมุนเวียนในทุกสัปดาห์ได้แก่ “ชาร์คเหม็ง-สมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์” อดีตผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมธุรกิจ ดีแทค แอคเซอเลอเรท, “ชาร์คเนย-สริศราว์ ลิ่วเฉลิมวงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลบอล ไพรม์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด และ “ชาร์คท็อป-จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เรียกได้ว่ารวมพลของทุกวงการธุรกิจไทยมาไว้ที่นี้
สร้างยอดดีลหลังออกอากาศครึ่งทางจนถึง EP7 พุ่งแรง 134 ล้านบาท ใกล้เคียงยอดทั้งซีซั่น 2
ในซีซั่นนี้ ทางรายการได้เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการทุกกลุ่ม ทั้งผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มทำแบรนด์ และผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจมายาวนาน มาร่วมเสนอดีลต่อชาร์คนักลงทุน ทั้งแพลตฟอร์มด้านไอทีและเทคโนโลยี ธุรกิจบริการ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจแฟชั่น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ธุรกิจขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และผู้ผลิตสินค้าในภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น โดยในการออกอากาศเพียงครึ่งทางจนถึง EP7 มีผู้ประกอบการได้รับสนับสนุนการลงทุนรวมแล้วกว่า 134 ล้านบาท รวมจำนวน 20 ดีลธุรกิจ ถือว่าเพียงครึ่งทางของรายการก็สามารถสร้างดีลใกล้เคียงในซีซั่น 2 ที่ผ่านมา ที่ปิดดีลได้ 165 ล้านบาท สำหรับกลุ่มธุรกิจที่มาแรงและได้รับดีลสูงสุด ได้แก่ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รองลงมา กลุ่มธุรกิจด้านแพลตฟอร์มและเทคโนโลยี และธุรกิจระบบการผลิตอัตโนมัติในโรงงานอุตสาหกรรม ขณะที่ธุรกิจที่สร้างดีลสูงสุดในรายการช่วงที่ผ่านมา มีมูลค่าต่อดีลที่ 30 ล้านบาททั้ง Robotic & Automation System ผู้พัฒนาระบบหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหกรรม และธุรกิจรองเท้า อาร์ ที เอ พาวเวอร์ ผู้ผลิตรองเท้านักเรียนวิกกี้ (Vicky) โดยผู้ก่อตั้งทั้งสองธุรกิจต่างมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจมายาวนานและมีฐานลูกค้าในตลาดแล้ว
การติวเข้มแบบจัดหนักจากชาร์คนักลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการทรานฟอร์มธุรกิจ
รายการหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่เปิดให้ผู้ประกอบการมานำเสนอภาพรวมธุรกิจต่อชาร์คนักลงทุนในเวลา 3 นาที เพื่อให้ได้ดีลจากชาร์คนักลงทุนและยังได้รับคำแนะนำจากชาร์คนักลงทุนที่จะมาวิเคราะห์และประเมินทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปปรับแผนธุรกิจ สำหรับธุรกิจที่ได้รับดีลจะมาจากผู้ก่อตั้งที่แสดงถึงความมุ่งมั่น มีความหลงใหลในการทำธุรกิจ (Passion) มีใจที่สู้และไม่ยอมแพ้ง่ายๆ การจัดทำบัญชีของบริษัทที่ครบถ้วน มีแผนธุรกิจและแนวทางหารายได้ที่ชัดเจน การมีผลิตภัณฑ์และบริการที่แตกต่างและโดดเด่น มีกลยุทธ์การสร้างแบรนด์และทำตลาด มีกลุ่มลูกค้าสนใจผลิตภัณฑ์หรือบริการ รวมถึงมีการทำตลาดผ่านออนไลน์และใช้เทคโนโลยีมาร่วมขับเคลื่อน ส่วนดีลที่ไม่สำเร็จจะมาจากหลายสาเหตุทั้ง การทำแผนธุรกิจและโครงสร้างธุรกิจไม่ชัดเจน แนวทางการหารายได้ สัดส่วนผู้ถือหุ้น การจัดตั้งบริษัท แผนการทำตลาดและการสร้างแบรนด์ที่ไม่สามารถให้คำตอบแก่ชาร์คนักลงทุนได้
การแจ้งเกิดธุรกิจไทยให้ติดสปีดพร้อม Scale up
ต้องยอมรับว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมาที่เกิดโควิด-19 ทำให้ธุรกิจไทยโดยเฉพาะเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบ ทั้งตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วและสภาพคล่องทางธุรกิจ รวมถึงการขาดช่องทางการทำตลาดทำให้สินค้ายังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่เมื่อผู้ประกอบการได้มาร่วมออกรายการครั้งนี้ จึงเปิดโอกาสทำให้สินค้าและบริการเป็นที่รู้จักมากขึ้น และกระตุ้นทำให้ลูกค้าสนใจอยากทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ จึงทำให้หลายๆ แบรนด์ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า ทั้งสร้างยอดขายและมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น อาทิ แบรนด์หมีปรุง มียอดขายเพิ่มขึ้น 3-4 เท่า, ไอศกรีมมอลลี่ อัลลี่ ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากกลุ่มลูกค้า รวมถึงแบรนด์ก๋วยเตี๋ยวปริญญาฟู้ด เตรียมแผนขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ไปทั่วประเทศแล้ว
เป็นอีกหนึ่งรายการคุณภาพแห่งปีที่มีสาระความบันเทิงทั้งการลงทุนและธุรกิจแบบจัดเต็ม ที่จะทำให้ทุกคนได้รับแรงบันดาลใจและจุดไฟในการทำธุรกิจ จากทั้งผู้ประกอบการและชาร์คนักลงทุนชั้นนำของประเทศไทยไว้ที่เดียว ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมของรายการ Shark Tank Thailand ได้ที่
Website : https://www.sharktankthailand.com
Youtube : https://www.youtube.com/c/MEDIAtank
Facebook : https://www.facebook.com/sharktankTH
Instagram : https://www.instagram.com/sharktankthailand/
TikTok : https://www.tiktok.com/@sharktankthailand
#sharktank #sharktankthailand #mediatank