ทุกวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ช่องทาง “ออนไลน์” คืออีกหนึ่งช่องทางสำคัญของพ่อค้าแม่ค้ายุคใหม่ ให้มีโอกาสเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากได้โดยไม่ต้องมีหน้าร้านเป็นของตัวเอง หากสามารถจับพฤติกรรมลูกค้าบนช่องทางออนไลน์ได้ตรงจุด ก็สามารถสร้างรายได้ให้เติบโตได้อย่างน่าอัศจรรย์
อย่างไรก็ดี สิ่งหนึ่งที่จำเป็นมากสำหรับการมีหน้าร้านออนไลน์ก็คือ “การจัดส่งสินค้า” ให้ถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็วทันใจ โดยจะเห็นว่าร้านค้าออนไลน์ที่ให้ความสำคัญกับประเด็นนี้จะยิ่งเติบโตได้มากกว่า ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดอาจเป็นแบรนด์ Better Juice เจ้าของผลิตภัณฑ์น้ำผักผลไม้สกัดเย็น ที่ปกติจะให้ลูกค้าสั่งล่วงหน้าหนึ่งวัน เพื่อให้ทางร้านเตรียมสินค้าได้ทัน โดยทางร้านจะจัดส่งเองในวันรุ่งขึ้น และมีค่าใช้จ่ายในการจัดส่งประมาณเดือนละ 3,000 บาท
แต่ในยุคที่ความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทางแบรนด์ Better Juice ก็พบความท้าทายใหม่ นั่นคือ การที่ลูกค้าบางส่วนต้องการดื่มน้ำผลไม้สกัดเย็นในวันนั้น เดี๋ยวนั้นเลย แถมหากให้รอหนึ่งวันลูกค้าก็จะไม่สั่ง ทำให้เสียโอกาสในการขาย โดยคุณปาล์ม ผู้บริหารของร้าน Better Juice ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ในการขายดังกล่าวผ่านทางคลิปด้านล่างนี้
ตัวช่วยที่ Better Juice เลือกมาก็คือการใช้ GrabExpress ซึ่งเป็นบริการจัดส่งแบบ On-Demand (จัดส่งได้ภายใน 40 นาที) ของทาง Grab เข้ามารับหน้าที่นี้แทน ผลก็คือ ภายในหนึ่งเดือนหลังจากใช้ GrabExpress ทางแบรนด์มีลูกค้าประจำเยอะขึ้น และยอดขายเติบโตขึ้น 80 – 90% ส่วนรายได้จากเคยทำได้ที่หลักพันต่อวันก็กลายเป็นรายได้หลักหมื่น ที่สำคัญ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่เคยเสียก็ลดลง 50 – 60% ด้วย
สำหรับบริการของ GrabExpress ปัจจุบัน มีทั้งรถมอเตอร์ไซค์ (Bike) รถยนต์ (Car) และรถปิกอัพ (Pick up Truck) ให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม โดยรถแต่ละประเภท จะมีราคาเริ่มต้นที่แตกต่างกัน และคิดค่าส่งตามระยะทาง ซึ่งสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ GrabExpress – บริการรับส่งของด่วน | Grab TH
ผู้ประกอบการจะใช้ GrabExpress อย่างไรให้คุ้มค่า
แต่หากถามว่า ถ้าจะใช้บริการ GrabExpress ให้คุ้มค่ามากที่สุดต้องทำอย่างไร คำตอบก็คือการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนออนไลน์อย่าง GrabExpress Sellers Club ซึ่งภายในจะมีสิทธิประโยชน์มากมายเตรียมไว้ให้กับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้ใช้กัน ไม่ว่าจะเป็น โค้ดส่วนลดพิเศษ GrabExpress ในแต่ละเดือน, แพ็กเกจต่ออายุอัตโนมัติ GrabExpress ในราคาพิเศษ, บริการเก็บเงินสินค้าปลายทาง (Cash on Delivery) รวมถึงโค้ดส่วนลดพิเศษอื่น ๆ จากพาร์ทเนอร์เจ้าดัง และ Grab เช่น GrabFood, GrabMart หรือ JustGrab
นอกจากนี้ยังมีคอร์สเรียนออนไลน์จาก GrabAcademy สำหรับแบรนด์ที่อยากศึกษาเพิ่มเพื่อโอกาสในการเติบโตด้านธุรกิจ และการได้รับสิทธิโปรโมทร้านค้าบนโซเชียลมีเดีย และสื่อโฆษณาของแอปพลิเคชัน Grab มูลค่ากว่า 150,000 บาทต่อเดือนด้วย
สำหรับการเป็นสมาชิกใน GrabExpress Sellers Club ก็ไม่ยาก โดยผู้สมัครต้องเคยมียอดใช้บริการ GrabExpress อย่างน้อย 5 ครั้งในรอบเดือนปฏิทินที่ผ่านมา ก็สามารถสมัครได้เลยในเดือนนี้
ขั้นตอนการสมัครก็เพียงคลิกไปที่ไอคอน Sellers Club บนหน้า GrabExpress ในแอปพลิเคชัน Grab แล้วจะมีคำถาม 3 ข้อให้ตอบ ก็เป็นอันเสร็จสิ้น ซึ่งเมื่อเข้าไปใน GrabExpress Sellers Club จะพบว่า ระบบได้แบ่งระดับการเป็นสมาชิกไว้ 3 ระดับ ได้แก่
- ระดับร้านค้าทั่วไป (Seller) ใช้บริการ GrabExpress ตั้งแต่ 5 – 14 ครั้ง
- ร้านค้าระดับโปร (Pro Seller) ใช้บริการ GrabExpress ตั้งแต่ 15 – 59 ครั้ง
- ร้านค้าระดับวีไอพี (VIP Seller) ใช้บริการ GrabExpress มากกว่า 60 ครั้ง
ทั้งนี้ สมาชิกแต่ละระดับจะได้รับสิทธิพิเศษแตกต่างกันไป เรียกว่ายิ่งใช้มาก สิทธิพิเศษที่จะได้รับจาก GrabExpress Sellers Club ก็จะยิ่งมากขึ้น
ที่สำคัญ ตอนนี้ทาง GrabExpress Sellers Club มีโปรโมชันสำหรับสมาชิกใหม่ โดยสามารถใส่รหัส NEWCLUB จะได้ส่วนลดค่าส่ง bike 15%* สูงสุด 100 บาท 10 ครั้ง (ในเดือนที่สมัคร) และใส่รหัส CLUBNEW ลดค่าส่ง car 30%* สูงสุด 200 บาท 10 ครั้ง (ในเดือนที่สมัคร) ด้วย
มีตัวช่วยดี ๆ สำหรับสร้างการเติบโตให้ยอดขายออนไลน์กันขนาดนี้ อย่ารอช้า รีบไปสมัครกันได้เลยที่
สมัคร in-app >> https://grb.to/RegisterSellersClub
เข้าไปร่วม Facebook Group >> https://grb.to/FBGroupSellersClub
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
#GrabExpressTH #GrabExpressSellersClub #GrabExpressคุ้มถูกใจคนส่งไวถึงใจคนรับ #GrabTH #ทีมGrab