นับตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด-19 ระบาดหนักในปี 2563 ส่งผลให้ “ตลาดงาน” ของไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพราะมาตรการล็อกดาวน์เข้มข้น ทำให้หลายธุรกิจต้องปิดให้บริการชั่วคราว จนต้องชะลอการจ้างงาน บางบริษัททยอยลดคน เพราะขาดรายได้ ทำคนตกงานเป็นจำนวนมาก กระทั่งสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย มีการคลายล็อกดาวน์ ทำให้ตลาดงานเริ่ม “ฟื้นตัว” และค่อยๆ กลับมา “คึกคัก” อีกครั้ง เพราะธุรกิจเริ่มกลับมาดำเนินงานตามปกติ รวมถึงนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ล่าสุด “จ๊อบส์ดีบี” (JobsDB) แพลตฟอร์มหางานชั้นนำของประเทศไทยภายใต้การบริหารงานของกลุ่ม SEEK จึงได้สำรวจความคิดเห็นบริษัทขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็กในประเทศไทยจำนวน 429 บริษัท เกี่ยวกับแนวโน้มการจ้างงาน ผลตอบแทน และสวัสดิการ ปี 2565-2566 ซึ่งพบอินไซต์การจ้างงานที่น่าสนใจ ดังนี้
ตลาดงานคึกคัก 48% ขององค์กรขนาดใหญ่กลับมาจ้างงาน
ผลสำรวจพบว่า หลังโควิด-19 ปรับตัวดีขึ้น ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตปกติ สถานการณ์การจ้างงานของผู้ประกอบการเริ่มกลับมาคึกคักเหมือนช่วงก่อนเกิดโควิด-19 โดย 48% ขององค์กรขนาดใหญ่ซึ่งมีพนักงานมากกว่า 160 คน เริ่มกลับมาจ้างงานแล้ว และบริษัทส่วนใหญ่ยังต้องการจ้างงานพนักงานแบบเต็มเวลามากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงโควิด-19 ที่องค์กรต่างๆ ปรับกลยุทธ์การจ้างงานมาเป็นแบบการจ้างพนักงานชั่วคราวมากขึ้น และมีเพียง 1 ใน 5 บริษัทเท่านั้นที่เลิกจ้างพนักงานอย่างน้อยหนึ่งคนในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
ในขณะที่สายงานที่ต้องเผชิญกับการถูกเลิกจ้างในช่วงก่อนหน้านี้ เช่น สายงานบัญชี การบริหารผลิตภัณฑ์ ธุรการและทรัพยากรบุคคล และเทคโนโลยีสารสนเทศ กำลังกลับมาเป็นที่ต้องการอีกครั้ง แถมยังจ้างงานแบบเต็มเวลาด้วย ยกเว้นงานที่เกี่ยวข้องกับการบริการลูกค้า เป็นสายงานที่ได้รับผลกระทบมากสุดจากเทคโนโลยีการทำงานระยะไกล และวัฒนธรรมการทำงานที่ยืดหยุ่น ยังคงได้รับการว่าจ้างแบบพนักงานชั่วคราว แม้สถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลาย
3 สายงานมาแรง บริษัทขนาดเล็กต้องการจ้างเต็มเวลา
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า บริษัทขนาดเล็กมีแนวโน้มที่จะจ้างงานพนักงานประจำแบบเต็มเวลาเพิ่มในอีก 3 เดือนข้างหน้า โดยสายงานที่ตลาดต้องการสูงสุด 3 อันดับแรกคือ 1.สายงานการขาย/การพัฒนาธุรกิจ (21%) 2.การบริหารผลิตภัณฑ์ (18%) 3.ไอที (17%)
แต่ที่น่าสนใจคือ บริษัทอย่างน้อย 3 ใน 5 วางแผนเพิ่มแรงงาน ด้วยการคงจำนวนพนักงานชั่วคราวและปรับเพิ่มจำนวนชั่วโมงทำงานของพนักงานเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นว่า แนวโน้มยอดขายบริษัทขนาดเล็กเพิ่มสูงขึ้น มีเพียง 4% เท่านั้นที่วางแผนลดจำนวนพนักงานชั่วคราว โดยพนักงานชั่วคราวส่วนใหญ่ถูกจ้างงานในสายงานการผลิต การบริการลูกค้า และฝ่ายธุรการและทรัพยากรบุคคล
3 แรงจูงใจดึงคนเก่งร่วมงาน แถมอยู่นาน
แม้ในปัจจุบันธุรกิจจะหันมาจ้างพนักงานแบบชั่วคราวกันมากขึ้น แต่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทำให้การแข่งขันเพื่อช่วงชิงคนที่มีความสามารถเข้ามาในองค์กรยังคงเข้มข้นขึ้น โดยองค์กรส่วนใหญ่มองตรงกันว่า นอกจากค่าตอบแทนแล้ว สวัสดิการต่างๆ และวันหยุดพิเศษมีส่วนสำคัญในการดึงดูดคนที่มีความสามารถเข้ามาทำงานในองค์กร โดยผลสำรวจพบว่า 8 ใน 10 บริษัทจะให้โบนัสตามผลงาน โบนัสการันตี หรือโบนัสตามสัญญา โดยบริษัทขนาดใหญ่มีแนวโน้มจะให้โบนัสอย่างน้อยหนึ่งประเภท
นอกจากโบนัสและการปรับขึ้นเงินเดือนแล้ว องค์กรยังเชื่อว่า “การเลื่อนตำแหน่งให้พนักงาน” เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการดึงดูดพนักงานให้เข้ามาร่วมงานและอยู่กับองค์กรยาวนาน รวมถึงสวัสดิการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น วันหยุด ค่าที่พัก และเงินกู้ โดยผลวิจัยพบว่า ในปัจจุบันมีพนักงานไทยที่ได้รับวันหยุดเพื่อฉลองวันเกิดเพียง 16% เท่านั้น และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปอีก 25% ส่วนสวัสดิการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ซึ่งรวมค่าที่พักและเงินกู้ จะปรับเพิ่มขึ้น 2-3% ในอีก 12 เดือนข้างหน้า