เปิดศักราชใหม่รับปี 2566 กับแนวโน้มธุรกิจร้านอาหารที่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง หลังตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาต้องเผชิญสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายผู้ประกอบการในไทยทั้งค่ายเล็ก แบรนด์ใหญ่ต่างเร่งกางแผนงาน ขยายสาขา เปิดแบรนด์ใหม่รับจากเทรนด์ธุรกิจที่กำลังสดใส
“บิสโตร เอเชีย” (Bistro Asia) อีกหนึ่งธุรกิจร้านอาหารในเครือไทยเบฟ ภายใต้การนำของ “คุณแซม–ไพศาล อ่าวสถาพร” หลังก้าวเข้ามากุมทัพใหญ่ สามารถสร้างยอดขายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และพลิกกำไรได้ในสิ้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจาก จากการขยายสาขา สร้างโมเดลธุรกิจใหม่ ไปพร้อมๆกับการปรับโครงสร้างภายในใหม่ทั้งหมดในช่วงปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับ PASSION 2025 ของบริษัทแม่ที่ต้องการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกด้าน
ผลทำให้ บิสโทร เอเชีย สามารถสร้างการเติบโตได้แบบเท่าตัวในทุกแบรนด์ช่วงไตรมาส 1/66 (ตุลาคม 2565-มกราคม 2566) ตามปีงบประมาณของไทยเบฟ โดยมีแบรนด์ Hyde & Seek,หม่าน ฟู่ หยวน และบ้านสุริยาศัย เป็น 3 แบรนด์หลัก
ล่าสุด บิสโทร เอเชีย เดินหน้าเสริมแกร่งพอร์ตร้านอาหารในเครือจึงเดินหน้ารองรับเทรนด์ดังกล่าว เพื่อสอดรับเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยการเปิดตัวอีกหนึ่งแบรนด์น้องใหม่ในเครืออย่าง “VANTAGE POINT” ร้านอาหารที่รวมเอาอาหารสไตล์ยุโรป อเมริกา ตะวันตก ในสไตล์ European Eatery มาไว้ในที่เดียวแบบไม่เคยมีที่ไหนในประเทศไทยทำมาก่อน โดยนำร่องเป็นแห่งแรกบริเวณ ชั้น 2 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC)
มุมเครื่องดื่มภายในร้าน
จาก Mercato Centrale แรงบันดาลใจปั้น “VANTAGE POINT” แหล่งรวมอาหารยุโรป-อเมริกัน-ตะวันตก
สำหรับ “VANTAGE POINT” เป็นชื่อที่ “คุณหนุ่ม–ฐาปน สิริวัฒนภักดี” แม่ทัพใหญ่ไทยเบฟ เป็นคนตั้งขึ้นให้ด้วยตัวเอง ที่แปลว่า “ตำแหน่งที่ดีที่สุด“ ที่ได้แรงบันดาลใจจาก 3 ส่วนบริเวณศูนย์สิริกิติ์ ได้แก่ Park, Lake, City มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Ultimate European Dining Experience บนพื้นที่ทั้งหมดราว 1,000 ตารางเมตรโดยร้านจะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือโซน Park กับโซน Lakeง นอกจากนี้ยังแบ่งเป็นห้องไพรเวทได้อีก 4 ห้อง ห้องละ 10 คน (ทุกห้องสามารถทะลุถึงกันได้) หรือมีความจุทั้งหมด 300 คน
คุณแซม-ไพศาล อ่าวสถาพร
ด้วยนโนยบายที่ต้องการพัฒนาพื้นที่สามารถรองรับคนที่มาประชุม ทำงานแบบขนาดใหญ่ได้ และเป็นที่เดียวที่มองเห็น สวนเบญฯ ทะเลสบาป และมุมเมือง ที่เดียวใจกลางกรุงเทพ โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับกลุ่มคนที่มาประชุมสร้าง อีกทั้งยังเป็นการสร้าง Comfort Food สำหรับต่างชาติที่เดินทางมาเอเชีย ที่สามารถรับประทานแล้วมั่นใจได้แบบยุโรป หรือกลุ่มคนต่างชาติที่คิดถึงอาหารยุโรป
มีแนวคิดที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยมีต้นแบบมาจากการนำแนวคิดของตลาดนัดในยุโรปอย่าง Mercato Centrale มาต่อยอด โดย Mercato Centrale ที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ซึ่งป็นคอนเซ็ปต์ของสถานที่ๆ เป็นการรวบรวมอาหารชั้นยอดของอิตาลีมาไว้ในที่เดียวกัน (รูปแบบคล้ายตลาดของบ้านเรา) จึงนำเอาแนวคิดนี้มาพัฒนาเป็นร้าน VANTAGE POINT ที่รวบรวมอาหารในสไตล์ยุโรป อเมริกัน และตะวันตก มาไว้ในที่เดียวกัน เป็นการนำเสนอที่แตกต่างจากร้านอาหารทั่วไปที่จะเป็นเฉพาะทางมากกว่า
วิวในร้าน “VANTAGE POINT” ที่ได้แรงบันดาลใจคอนเซ็ปต์ 3 ส่วน Park, Lake, City
สิ่งที่ต้องการทำใน VANTAGE POINT ต้องการสร้างร้านอาหารขนาดใหญ่ที่มีความหลากหลาย ไม่เหมือนร้านอาหารทั่วไป ที่แตกต่างจากอินเตอร์ฯบุฟเฟ่ต์ โดยเมืองไทยยังไม่มีใครทำบุพเฟ่ต์ที่รวบรวมร้านอาหารจากยุโรปทั้งหมดมาไว้ด้วบยกัน รวมถึงอาหารอเมรกัน มีครบทุกไฮไลต์ในยุโรป เมนูกว่า 100 รายการ ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่า สไตล์อิตาเลียน หรือเป็น โคลคัท ทาร์พาสต์ แนวสเปน หรือจะเป็นชีส ที่เอามาจากแคว้นชื่อดังในอิตาลี พาสต้า , รีซอตโต้ สลัด และซุป ที่หลากหลาย
มีการดีไซน์ครัวแบบ Open Kitchen ตลอดจนนำเรื่องของดิจิทัลเข้ามาใช้ในการสั่งอาหาร ซึ่งในช่วงวันธรรมดา จะให้บริการแบบอะลาคาร์ท (A La Carte) ในช่วงวันธรรมดา ขณะที่เสาร์ – อาทิตย์ จะเป็นบุฟเฟต์ที่มีราคาเริ่มต้นที่ 998 ++ เปิด 11 โมงถึง 3 ทุ่ม โดยในอนาคตจะมีการหมุนเวียนเทศกาลอาหารต่างๆจากยุโรปเข้ามาจัดแคมเปญภายในร้าน หมุนเวียนกันต่อเนื่อง
ภายในบริเวณร้าน VANGTAGE POINT
เตรียมเปิดตัว เพิ่ม 1 แบรนด์ใหม่ในช่วง 3 เดือน รับธุรกิจร้านอาหารขาขึ้น
ทั้งนี้การเข้ามาของ VANTAGE POINT ถือเป็นแบรนด์ร้านอาหารในเครือที่ทางค่าย วางโพซิชั่นในการปั้นให้เป็นอีก 1 ในแฟล็กชิฟของแบรนด์ร้านอาหารในเครือ ที่จะเข้ามาช่วยผลักดันการเติบโตร่วมกับร้านอาหารในพอร์ตแบรนด์อื่นๆ คือ บ้านสุริยาศัย (BAAN SURIYASAI) ไฮด์ แอนด์ ซีค แอทธินี (HYDE & SEEK) หม่าน ฟู่ หยวน (MAN FU YUAN) โซ อาเซียน (SO ASEAN Café & Restaurant) สโมสรราชพฤกษ์ (Rajpruek Club) ศูนย์อาหารฟู้ด สตรีท (Food Street) และบริการจัดเลี้ยง (Catering)
การมีร้านอาหารยุโรปเข้ามาถือว่ายังไม่เติมเต็มพอร์ตโฟลิโอร้านอาหารในเครือได้เป็นอย่างดี โดย บิสโตร เอเชีย จะเน้นการขยายแบรนด์ใหม่ๆ ด้วยการให้ความสำคัญกับการนำเสนอนวัตกรรมพร้อมกับมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับลูกค้า เนื่องจากปัจจุบันคนไทยมีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้ได้เห็นหรือมีประสบการณ์ในการบริโภคอาหารที่มากขึ้นกว่าในอดีต จึงต้องการร้านอาหารที่สามารถตอบโจทย์หรือสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าให้ได้
ไม่เพียงแต่ VANTAGE POINT เท่านั้น หากแต่ในช่วง 3 เดือนนับจากนี้ “คุณแซม–ไพศาล อ่าวสถาพร” ยังบอกอีกว่า ได้เตรียมเปิดตัวอีก 1 แบรนด์น้องใหม่ในเครือ กับโปรเจกต์ที่ใหญ่กว่านี่อีกสามเท่า ไม่มีจำกัดว่าจะเป็นอาหารประเภทไหนและรูปแบบไหน (ยกเว้นอาหารญี่ปุ่นที่จะไม่ทำทับไลน์กับโออิชิ) เพียงแต่มีช่องทาง แต่ถ้าดูจากฟู้ดเทรนด์คงไปทาง ร้านอาหารจีน ฟู้ด ฮอลล์ ที่มีการเพิ่มออฟชั่นบริการดีลิเวอรี่ และแนวคิดการอาหารยั่งยืน ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนด์ ด้วยการผ่านการปรุงน้อยที่สุด ฯลฯ เพื่อให้ล้อไปกับเทรนด์อาหารทั่วโลกที่กำลังมาแรงขณะนี้ออกมาอีกด้วย
ทั้งหมดเพื่อเป็นการเติมเต็มพอร์ตธุรกิจของไทยเบฟที่มีทั้ง เครื่องดื่ม อาหารให้ครบทุกแพลตฟอร์ม และมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ตามเทรนด์ธุรกิจอาหารโลก ที่ไม่เพียงแต่สร้างผลกำไร หากแต่ยังสร้างความยั่งยืนในระยะยาวเพื่อก้าวสู่ King of Food ตัวจริง
อ่านเพิ่มเติม